บีบ “อิ๊งค์” ทุกทาง !?
มีการคาดหมายกันชนิดข้ามช็อตไปไกลว่า เมื่อร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2-3 ไปแล้ว อาจมีเซอร์ไพรส์ใหญ่ นั่นคือ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม จะประกาศ “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯคนที่ 31 !
แน่นอนว่ากระแสข่าวที่ว่านี้ ส่งผลกระทบเป็น “วงกว้าง” ต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลทันที โดยเฉพาะในห้วงที่ รัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย อยู่ในระหว่างการแก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ท่ามกลางแรงกดดันรอบด้าน
โดยเฉพาะข้อครหาที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทย อันเชื่อมโยงจาก ความสัมพันธ์ส่วนตัว “2 ตระกูล” คือ “ชินวัตร” กับครอบครัว “ฮุน เซน” ผู้นำตัวจริงของกัมพูชา แม้ที่ผ่านมา “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ จะพยายามย้ำซ้ำไปซ้ำมาว่าเมื่อทำร้ายลูกสาวของเขาขนาดนี้ จึงไม่ใช่ “เพื่อน” กันอีกแล้ว
แต่ดูเหมือนว่ายังมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่เชื่อว่า ทักษิณ กับ ฮุน เซน จะเลิกคบค้ากันอย่างจริงจัง อาจรอให้รัฐบาล และกองทัพไทย คลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ออกมาในทางที่เป็น “บวก” เสียก่อน
ข่าวลือที่สะพัดมาอย่างต่อเนื่องว่า แพทองธาร อาจเลือกทางเดินที่ “บาดเจ็บ”น้อยที่สุด ด้วยการชิงลาออกก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย คลิปเสียงออกมา ซึ่งคาดกันว่าในราวต้นเดือนหน้า เดือนก.ย.นี้ แต่ล่าสุด นายกฯแพทองธาร ได้แต่บอกกับสื่อว่าคิดถึงทุกคนแต่ไม่ตอบคำถามเรื่องจะลาออกก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาหรือไม่ หลังจากที่เจ้าตัวมาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ท้องสนามหลวง
การไม่ตอบคำถาม และใช้ความเงียบแทน อาจไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับ “กองเชียร์” หรือแม้แต่สมาชิกพรรคเพื่อไทยเองมากนัก โดยเฉพาะสส.ที่ไม่ได้อยู่ “วงใน” ของชั้นความลับ และใกล้ชิดทักษิณ เอง
ปัญหาของรัฐบาล ที่เกี่ยวพันเชื่อมโยงกับการมี “รักษาการนายกฯ” ในยามที่บ้านเมืองอยู่ในภาวะ “ไม่ปกติ” ทั้งการปะทะกันด้วยอาวุธ ระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ขนานไปกับการเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่พี่น้องประชาชน กำลังประสบอยู่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
เมื่อ แกนนำพรรคเพื่อไทย ระดับ “บิ๊กเนม” อย่าง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกฯย้ำว่า นายกฯแพทองธาร ยังไม่มีความคิดที่จะลาออกก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตา ขอให้ทุกคนเข้าใจให้ตรงกันตามนี้
ภาวะที่กำลังบีบคั้น ทักษิณ มากกว่าใคร ณ นาทีนี้ ในระหว่างทางที่นายกฯอิ๊งค์ จะรู้ชะตากรรมตัวเองชัดเจนจากคดีคลิปเสียงที่คุยกับ ฮุน เซน อดีตเพื่อนรัก คือการที่ “กองแช่ง” ในระดับภาคสนาม บนท้องถนน ต่างเตรียมพร้อมเคลื่อนไหวขับไล่แล้ว
มีรายงานว่าสงครามการเมืองในสภาฯ กำลังดำเนินไปอย่างเงียบๆ ทั้งการที่ “ฝั่งตรงข้าม” ต่อสายดึงคนของพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่การรอเขย่าขวัญ ตลอดทั้ง3 วันของการประชุมสภาฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 69 ในขณะที่พรรคเพื่อไทย คือรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ !