มาเลเซียเจอยาเสพติดระบาดขั้นวิกฤต วัยรุ่นฮิตบุหรี่ไฟฟ้าผสมเห็ดขี้ควาย
ไอมาน นามสมมติของเด็กหนุ่มวัย 17 ปี คนหนึ่ง เคยได้รับการชักชวนจากเพื่อนร่วมชั้นให้ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าครั้งแรกในโรงเรียนเมื่อหลายปีก่อน เขาไม่คิดมากและรับข้อเสนอนั้นอย่างไม่ลังเล
สำหรับเขา คำชวนที่ว่าดูปกติและไม่มีอันตรายใด ๆ เขาลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า และรู้สึกติดใจแทบจะในทันที แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ อุปกรณ์นั้นผสมสารออกฤทธิ์แรง ซึ่งเชื่อว่าเป็น “เห็ดเวทมนตร์” ซึ่งทำให้เขาติดบุหรี่ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว
เห็ดดังกล่าวออกฤทธิ์หลอนประสาท รู้จักกันในชื่อเห็ดขี้ควาย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า psilocybe cubensis มันกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในการผสมกับบุหรี่ไฟฟ้า
หลังจากนั้นอาการเสพติดของไอมานรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ผลการเรียนตกต่ำ และความสัมพันธ์กับพ่อแม่ก็ย่ำแย่ลง
ด้วยหัวใจอันหนักอึ้ง พ่อแม่ของไอมานตัดสินใจครั้งสำคัญในเดือนเมษายนปีนี้ ส่งลูกชายไปยังศูนย์บำบัดยาเสพติด Rumah Sahabat ด้วยความหวังที่จะให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
ศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอันเงียบสงบในรัฐเซอลาโงร์ และมอบการบำบัดในรูปแบบพิเศษที่เน้นการชี้นำทางจิตวิญญาณและศาสนาในบรรยากาศชุมชน และระบุเอาไว้ว่า ผู้เสพที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดจะไม่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นผู้กระทำความผิด
ในศูนย์บำบัดยาเสพติดแห่งนี้ คนมากมายเหมือนไอมานเข้ารับการบำบัดยาเสพติดผ่านโครงการที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือ หวังให้พวกเขากลับไปสร้างชีวิตใหม่ และเลิกใช้ยาเสพติด
“ผมหวังว่าจะได้กลับบ้านเร็ว ๆ นี้ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่า พ่อจะมารับผมกลับไปเมื่อใด” ไอมานให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNA
ไอมานยังคงไปโรงเรียน แต่เขาย้ายไปเรียนที่ใหม่ นับตั้งแต่เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา
มาเลเซียกำลังเผชิญกับยาเสพติดชนิดใหม่
ไอมานไม่ได้เผชิญปัญหานี้เพียงลำพัง แต่เป็นภาพสะท้อนของวิกฤตที่ใหญ่กว่าและกำลังทวีความรุนแรงขึ้นในมาเลเซีย โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ดาโต๊ะ สรี อาห์หมัด ซาฮีด ฮามีดี รองนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ประกาศว่า ปัญหายาเสพติดในประเทศอยู่ใน “ระดับวิกฤต” จนถึงขั้นเป็นภัยต่อความปลอดภัยสาธารณะ
สถิติอ้างอิงระบุว่า จำนวนผู้ใช้และผู้ติดยาเสพติดที่ถูกรายงานในมาเลเซียเพิ่มขึ้น 32.5% จากปี 2023 ถึง 2024
และเมื่อวันอาทิตย์ (10 ส.ค.) ที่ผ่านมา เขาเปิดเผยว่า มาเลเซียจำเป็นต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหายาเสพติด เนื่องจากสถานการณ์น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง โดยมีการใช้ยาเสพติดสังเคราะห์เพิ่มขึ้นและมีวิธีการจำหน่ายรูปแบบใหม่ เช่น ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
ผู้เชี่ยวชาญให้สัมภาษณ์กับ CNA ว่า การเกิดขึ้นของยาเสพติดชนิดใหม่ เช่น การผสมลงในบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องน่ากังวล เพราะเป็นช่องทางใหม่ที่ขบวนการค้ายาใช้กระจายสารเสพติดไปยังกลุ่มเยาวชนซึ่งมีแนวโน้มจะติดยา
ราจา อาซีซาน ซูไฮมี เลขาธิการสภามาเลเซียว่าด้วยการป้องกันยาเสพติด (MASAC) ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนที่สนับสนุนมุมมองที่ว่า ปัญหายาเสพติดควรถูกมองว่าเป็นปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าการก่ออาชญากรรม ขณะที่สารจำนวนมากที่ผสมอยู่ในบุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ได้ถูกประกาศให้เป็นยาเสพติดตามกฎหมาย
“นี่เป็นแนวโน้มที่น่ากังวล บุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้คนเลิกพึ่งพาบุหรี่มวนได้ก็จริง แต่สารที่อยู่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าล่ะ โดยเฉพาะสารที่ขายโดยผู้ลักลอบ หากสารเหล่านี้ยังไม่ถูกประกาศเป็นทางการ ก็จะไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยแถบทดสอบ” เขากล่าว
ปราบเท่าไหร่ก็ปราบไม่หมด
แม้ว่ามาเลเซียจะประกาศทำสงครามยาเสพติดมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 แต่ปัญหานี้ก็ไม่เคยลดลงหรือถูกควบคุมได้อย่างแท้จริง ดร.พี. สุนทรามูรติ นักอาชญาวิทยาจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์มาเลเซียระบุว่า การต่อสู้กับยาเสพติดอย่างยาวนานของมาเลเซีย ยังคงเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสาธารณสุขและความมั่นคงที่ยืดเยื้อและเจ็บปวด อีกทั้งยังเป็นปัญหาความมั่นคงและความปลอดภัย เพราะผู้เสพสามารถก่ออันตรายต่อผู้อื่นได้
ขณะที่เรือนจำในประเทศยังคงแออัด โดยนักโทษจำนวนมากเป็นผู้กระทำผิดซ้ำจากคดียาเสพติด ทางการระบุว่า ประมาณ 60% ของนักโทษทั้งหมด ถูกจำคุกจากความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ตามสถิติจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติมาเลเซีย (AADK) ประเทศมีผู้ใช้และผู้ติดยาเสพติดจำนวน 192,857 คนในปี 2024 เพิ่มขึ้น 32.5% จาก 145,526 คนในปีก่อนหน้า
ข้อมูลยังระบุว่า 61% ของผู้เสพอยู่ในช่วงอายุ 15-39 ปี ลดลงเล็กน้อยจาก 63.2% ในปี 2023
ผู้ประสานงานหลักของศูนย์บำบัดยาเสพติด Rumah Sahabat กล่าวกับ CNA ว่า ความต้องการใช้บริการบำบัดยาเสพติดที่ศูนย์ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ขณะนี้ Rumah Sahabat เต็มความจุแล้ว โดยมี 150 คนที่เข้ารับการรักษาอาการเสพติด
ขณะที่ยาเสพติดดั้งเดิม เช่น เฮโรอีน และกัญชายังคงแพร่ระบาด ยาเสพติดสังเคราะห์อย่างเมทแอมเฟตามีนและยาดีไซน์เนอร์ก็ได้กลายมาเป็นปัญหาหลักในปัจจุบันเช่นกัน
ตามสถิติที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติมาเลเซีย (AADK) เผยแพร่ ระบุว่า ยาเสพติดที่ถูกใช้มากที่สุดในปีที่แล้วคือสารกระตุ้นประเภทแอมเฟตามีน คิดเป็นกว่า 70% ของคดียาเสพติดทั้งหมด รองลงมาคือกลุ่มฝิ่น เช่น มอร์ฟีนและเฮโรอีน (ประมาณ 23%) และกัญชา (4%)
สถิติยังระบุว่า การใช้ยาเสพติดในมาเลเซียเกิดขึ้นในทุกช่วงอายุ และมีสัญญาณที่น่ากังวลว่ามีการทดลองใช้ในหมู่เยาวชนและแม้กระทั่งนักเรียนเพิ่มขึ้น
ผู้ประสานงานหลักของศูนย์บำบัดยาเสพติด Rumah Sahabat ยังกล่าวว่า “ความยากจนในเขตเมือง โครงสร้างครอบครัวที่แตกแยก การว่างงาน และปัญหาสุขภาพจิต ล้วนเป็นดินอันอุดมสำหรับการแพร่กระจายของการเสพติด”
ปี 2024 มาเลเซียยึดยาเสพติดได้เกิน 16 ล้านเม็ด
รายงานของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม 2025 ระบุว่า การผลิตและการลักลอบค้ายาเสพติดสังเคราะห์จากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
รายงานดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า Synthetic Drugs in East and Southeast Asia: Latest Developments and Challenges ระบุว่า การเติบโตที่ “รวดเร็วอย่างกับระเบิด” นี้ ทำให้การตรวจยึดยาบ้าในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2024 มีปริมาณรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 236 ตัน เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับปี 2023
รายงานยังชี้ว่า มาเลเซียมีการยึดยาเสพติดเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าในปี 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นจำนวนรวม 16.8 ล้านเม็ด และนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มาเลเซียสามารถยึดยาได้เกิน 10 ล้านเม็ดภายในปีเดียว