กรมสุขภาพจิต แนะวิธีดูแลใจเด็กและเยาวชน หลังเผชิญเหตุรุนแรง
วันนี้ (4 สิงหาคม) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้คำแนะนำในการดูแลจิตใจเด็กและเยาวชนที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ความรุนแรง โดยเน้นย้ำว่าเด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงด้านสุขภาพจิตที่ต้องการความเข้าใจและการดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ
กรมสุขภาพจิตชี้ว่า เด็กและเยาวชนมีความเปราะบางทางจิตใจเป็นพิเศษเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรง เนื่องจาก:
- เข้าใจเหตุการณ์ได้ยาก: เด็กอาจยังไม่สามารถประมวลผลหรือทำความเข้าใจถึงสาเหตุและผลกระทบของเหตุการณ์รุนแรงได้อย่างถ่องแท้
- ควบคุมอารมณ์ไม่ได้: พวกเขาอาจยังไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ที่รุนแรง เช่น ความกลัว ความโกรธ หรือความเศร้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าผู้ใหญ่
- ขาดประสบการณ์รับมือ: เด็กๆ ยังไม่มีประสบการณ์ในการรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากหรือวิกฤต ซึ่งอาจทำให้รู้สึกสับสนและไร้หนทาง
การเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรงอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อเด็กและเยาวชน ทั้งในด้านสุขภาพจิต พัฒนาการ การเรียน และพฤติกรรม ดังนี้:
- ปัญหาสุขภาพจิต: อาจพบอาการซึมเศร้า วิตกกังวล นอนหลับยาก ฝันร้าย หรือมีอาการเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD)
- ปัญหาพัฒนาการ: พัฒนาการบางอย่างอาจหยุดชะงัก หรือเกิดภาวะถดถอย เช่น เด็กที่เคยเลิกใส่ผ้าอ้อมแล้วอาจกลับมาใส่ใหม่
- ปัญหาการเรียน: สมาธิสั้นลง ผลการเรียนตกต่ำ หรืออาจมีพฤติกรรมหนีเรียน
- ปัญหาพฤติกรรม: อาจแสดงออกด้วยความก้าวร้าว เก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ
กรมสุขภาพจิตแนะนำบทบาทสำคัญของพ่อแม่และผู้ปกครองในการช่วยเหลือดูแลจิตใจเด็กที่เผชิญเหตุการณ์รุนแรง ดังนี้:
- เปิดโอกาสให้เด็กเล่าเรื่อง: สนับสนุนให้เด็กได้พูดคุย ระบายความรู้สึกและความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยไม่บังคับหรือกดดัน
- อยู่ใกล้ชิด ให้ความรู้สึกปลอดภัย: สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย และให้ความมั่นใจว่าเด็กจะได้รับการปกป้องดูแล
- ลดการพูดซ้ำเรื่องเหตุการณ์: หลีกเลี่ยงการพูดถึงรายละเอียดของเหตุการณ์รุนแรงซ้ำๆ เพราะอาจกระตุ้นความทรงจำและอารมณ์ที่ไม่ดีให้กลับมาอีก
- จัดกิจกรรมที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจ: ชวนเด็กทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ผ่อนคลาย หรือกิจกรรมที่ช่วยให้เด็กรู้สึกว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตได้ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจให้กลับมาเป็นปกติ
หากพ่อแม่หรือผู้ปกครองสังเกตพบความผิดปกติทางอารมณ์หรือพฤติกรรมของเด็กที่คงอยู่นาน หรือมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด โดยสามารถ:
- ติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323
- ปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
กรมสุขภาพจิตย้ำว่า จิตใจของเด็กๆ ต้องการคนเข้าใจและเคียงข้างเสมอ การให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีจะช่วยให้เด็กสามารถผ่านพ้นวิกฤตและกลับมามีสุขภาพจิตที่ดีได้ในที่สุด
อ้างอิง :