แพทองธารโบกมือลาทำเนียบฯ หลังแถลงสื่อ น้อมรับคำสั่งศาล ย้ำทำเพื่อประเทศชาติ
วันนี้ (1 กรกฎาคม) เวลา 14.00 น. แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้แถลงภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9-0 รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และมติ 7-2 สั่งให้แพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
สืบเนื่องจากกรณีมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นนายกรัฐมนตรีของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มีเนื้อหาพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 รวมถึงมีพฤติกรรมบ่งบอกอาจทำให้กระทบอธิปไตยไทย กองทัพ ประชาชน
แพทองธารกล่าวว่า ตามผลคำวินิจฉัยออกมาแล้วก็น้อมรับคำพิจารณาของศาล ต่อจากนี้จะมีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ และมีเวลาประมาณ 15 วันในการชี้แจงในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่า คลิปเสียงที่หลุดออกมาตนเองมีเจตนาเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาไว้ซึ่งอธิปไตย รักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพของทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา แต่วิธีการที่ทำอาจจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน
อย่างไรก็ตาม ตนเองพร้อมที่จะพิสูจน์เรื่องนี้ว่าเป็นความตั้งใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ ไม่ได้เจตนาที่ทำให้เป็นเรื่องของตัวเอง โดยคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ให้เกิดการสู้กัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ เพราะตนเองคงยอมรับไม่ได้ ถ้าหากพูดอะไรในฐานะผู้นำและทำให้เกิดผลเสียเกิดการทะเลาะหรือการโกรธเคือง
แพทองธารกล่าวต่อว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ส่งกำลังใจตั้งแต่เมื่อคืนมานี้ก็มีคนส่งกำลังใจมาอย่างไม่ขาดสาย และขอโทษพี่น้องคนไทยทุกคนที่รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้หรือรู้สึกโกรธเคือง โดยขอยืนยันอีกครั้งว่า ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ
หลังจากนี้ช่วงเวลาหยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง และยินดีมีแรงกายแรงใจเต็มครบ 100% พร้อมที่จะทำงานต่อเพื่อประเทศชาติได้ต่อไป ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม หรืออยู่ในฐานะไหน ก็ยังเป็นคนไทยคนหนึ่งเช่นเดิม และทำเพื่อประเทศชาติทุกนาที
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินหันหลังขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันทีโดยไม่ตอบคำถามใดๆ ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงตำแหน่งที่นายกรัฐมนตรีนั่งควบกระทรวงวัฒนธรรมจะยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อยู่ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีไม่ตอบโดยขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นได้ขึ้นรถและเดินทางออกจากตึกไทยคู่ฟ้า ได้ลดกระจกรถ รวมถึงโบกมืออำลาสื่อมวลชน
ขณะที่ท่าทีของภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิเสธการตอบคำถามกรณีรักษาการนายกรัฐมนตรี มีอำนาจยุบสภาหรือไม่ โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า “รอขั้นตอนถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน”
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามต่อว่า มองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นนิติสงครามหรือไม่ ภูมิธรรม ไม่ได้ตอบคำถาม และได้เดินขึ้นลิฟต์เพื่อขึ้นตึกบัญชาการทันที
ทั้งนี้ ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณารับคำร้องดังกล่าว และสั่งให้แพทองธารรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแล้วสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อบริหารราชการแผ่นดินต่อไป