ฮุนเซนเมินโต้‘แม้ว’ ‘วัดภูม่านฟ้า’คึกคัก
"ฮุน เซน" ยังเงียบ! ไม่ตอบโต้ "ทักษิณ” แค่โพสต์เพลงปราสาทตาเมือนธม “ปานเทพ” จี้บัวแก้วเลิกปิดบังผลประชุม JBC ลั่นไทยต้องรุกกลับก่อนกลายเป็นยูเครนแห่งอาเซียน "ทบ." แจงเหตุนักท่องเที่ยวต่อยทหารเขมร พบเป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีแล้ว ปชช.แห่ชม "วัดภูม่านฟ้า" เพิ่ม 2 เท่า หลังกัมพูชาฟ้องศาลโลก
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 11.00 น. สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้โพสต์เฟซบุ๊กเพลง Taman Ke Khmer Temple (หมายถึงปราสาทตาเมือนธม)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่สังเกตว่าตั้งแต่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พาดพิงสมเด็จฮุน เซน หลายครั้ง บนเวทีเนชั่น 9 ก.ค. ผ่านมาเป็นวันที่ 4 แล้ว แต่ยังไร้ความเคลื่อนไหวตอบโต้ใดๆ จากสมเด็จฮุน เซน
ขณะที่ นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันลี้ภัยการเมืองในประเทศฝรั่งเศส ยังเคลื่อนไหวโจมตีสมเด็จฮุน เซน อย่างต่อต่อเนื่อง ล่าสุดได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "การให้สัญชาติแก่ผู้อพยพผิดกฎหมาย ขายสัญชาติให้มาเฟีย สมคบคิดกับต่างชาติละลายเขมร?" และยังอธิบายเพิ่มเติมในช่องคอมเมนต์ด้วยว่า
"สัญชาติเขมร หนังสือเดินทางเขมร ควรขายให้กลุ่มมาเฟีย เหมือนสินค้าตามท้องตลาด พวกมาเฟียใช้พาสปอร์ตเขมร ลงทะเบียน เปิดบัญชี โอนเงินเข้า-ออกกัมพูชาไปประเทศอื่น ฟอกเงิน พวกมาเฟีย เปิดกาสิโน ที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ และบริษัทปลอมทั่วกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชายแดนของประเทศไทยและเวียดนาม กลุ่มพวกนั้นทํากิจกรรมอาชญากรรมในกัมพูชาโดยไม่มีปัญหา เพราะพวกเขามีตระกูลฮุน ลับหลัง เห็นได้ชัดว่ากลุ่มมาเฟียชาวจีนหลายกลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางเขมรถูกจับบ่อยครั้งเมื่อเดินทางไปสิงคโปร์หรือประเทศไทย กลุ่มอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ดําเนินงานใกล้ชายแดนกัมพูชา-ไทย พวกเขาได้รับเงินหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี แล้วนําพวกฮันมาเลี้ยงบางคน และผู้สมรู้ร่วมคิด นั่นคือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ไทยตัดสินใจรื้อรังของกลุ่มมาเฟียตามแนวชายแดนกัมพูชา ฮุน เซน ที่โกรธแค้น ทําให้โจรหลงผิด และทําให้ข้อพิพาทชายแดนแย่ลงเรื่อยๆ"
โดยการโพสต์ครั้งนี้ ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ 11 ก.ค. ที่นายสม รังสี ออกมาเปิดเผยว่า มีเหยื่อมากกว่า 120,000 คน ถูกบังคับให้ทํางานเป็นทาส ถูกขังในอาคารหลายแห่งในกัมพูชา เพื่อรับใช้อาชญากรมาเฟียจีนที่หลอกลวงออนไลน์ทั่วโลกในเวลานี้
ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยภายหลังเรียกเจ้าหน้าที่พนักงานชุดสืบสวน คณะทำงานคดีก๊ก อาน และคดีคลิปเสียงสมเด็จฮุน เซน คุยกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า คดีก๊ก อาน หลังจากนี้จะมีการออกหมายจับใครอีกหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาจากหลักฐานและการขยายผลเพิ่มเติม ส่วนจะเป็นใครและมีกี่รายขอยังไม่เปิดเผย
ส่วนกรณีคลิปเสียงระหว่างสมเด็จฮุน เซนกับนายกฯ นั้น ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก และภายในสัปดาห์หน้า เจ้าหน้าที่ สอท.จะนำสำนวนทั้งหมดส่งให้กับอัยการเป็นผู้พิจารณาเอาผิดสมเด็จฮุน เซน ต่อไป
ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ภายในงาน "ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 3/2568" นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยว่า การต่อสู้เพื่ออธิปไตยของไทย โดยเฉพาะกรณีเขตแดนไทย-กัมพูชา ไม่อาจเพิกเฉยได้อีกต่อไป หลังตลอด 17 ปีที่ผ่านมาไทยเผชิญเหตุเสียดินแดนมากกว่า 15 ครั้ง โดยมีจุดเริ่มที่ปี 2551 เมื่อรัฐบาลขณะนั้นยินยอมให้กัมพูชาเสนอชื่อ “เขาพระวิหาร” ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว กระทั่งปี 2556 ศาลโลกมีคำตัดสินให้พื้นที่โดยรอบตกอยู่ภายใต้เขตอำนาจของกัมพูชาอีกครั้ง ขณะที่ปี 2568 สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม เพราะไม่ใช่แค่เขตแดนทางบก แต่การรุกรานเริ่มลุกลามไปถึงแนวชายแดนทางทะเล
นอกจากนี้ กลุ่มมหาอำนาจกำลังเข้ามาแทรกแซงผ่านแนวร่วมขบวนการลับ หากไม่รีบตั้งหลัก ประเทศไทยอาจตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจาก “ยูเครนแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
นายปานเทพกล่าวว่า มีการตัดไม้ทำลายป่าในเขตอุทยานและพื้นที่อนุรักษ์ของไทยจากกลุ่มผู้บุกรุกในเขตโนแมนแลนด์ ขณะเดียวกันยังพบการก่อสร้างถนน บันได และลิฟต์ขึ้นในบริเวณเขาพระวิหารอย่างผิดหลักการ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งปลูกสร้างยื่นล้ำเข้ามาในเขตทะเลของไทย อาจมีนัยเพื่อยึดพื้นที่เป็นกรรมสิทธิ์ในอนาคต เหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เพียงความบกพร่องเชิงนโยบาย แต่สะท้อนถึงท่าทีอ่อนข้อของรัฐบาลไทยต่อกัมพูชา โดยเฉพาะเมื่อสัมพันธ์ระหว่างผู้นำเก่ายังไม่ถูกตัดขาด พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศหยุดปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC)
“ถ้าบอกว่าทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ แล้วเหตุใดต้องปิดบัง ทำไมไม่เปิดให้สภาตรวจสอบ หรือให้ประชาชนรับรู้ การเก็บเป็นความลับมีแต่จะสร้างความคลางแคลงใจ หากยังไม่สามารถปกป้องอธิปไตยได้ รัฐบาลควรเปิดทางให้ผู้นำชุดใหม่ที่กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาชายแดนอย่างแท้จริง" นายปานเทพระบุ
วันเดียวกัน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงานบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารีว่า เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นเวลาประมาณ 10.20 น. โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ที่วัดภูม่านฟ้า หรือวัดพระพุทธบาทศิลา ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่กำลังเป็นกระแสถกเถียงกันในเวทีองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เนื่องจากทางการกัมพูชาได้กล่าวหาว่าไทยสร้างวัดภูม่านฟ้าเลียนแบบปราสาทนครวัดของกัมพูชา ได้มีประชาชนทั้งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์และนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัดเดินทางมาเที่ยวชมความงดงาม และกราบไหว้พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานภายในวัดภูม่านฟ้าอย่างไม่ขาดสาย โดยเพิ่มขึ้นจากปกติ 2 เท่าตัว
นายพีระวัฒน์ จันทสิทธิ์ ไวยาวัจกรวัดภูม่านฟ้า ยืนยันว่า การก่อสร้างสิ่งต่างๆ ภายในวัดภูม่านฟ้าไม่ได้ลอกเลียนแบบนครวัดของกัมพูชา เป็นการใช้ภูมิปัญญาองค์ความรู้ที่มี โดยการใช้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่หลายแห่งในประเทศไทย อาทิ ปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทหินพิมาย และพระปรางค์สามยอด จ.ลพบุรี เป็นแรงบันดาลใจและต้นแบบในการสร้าง ซึ่งการก่อสร้างทุกขั้นตอนได้แจ้งรายงานให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และวัฒนธรรมจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทางการของกัมพูชาเคยเดินทางมาดูด้วยตัวเอง เห็นตรงกันว่าไม่ได้มีการจำลองหรือลอกเลียนแบบนครวัด
ที่ จ.ตราด นายธนา เจริญสุข อายุ 40 ปี ประธานกลุ่มรวมเพื่อนสี่ภาค นำทีมสมาชิกจากจังหวัดสมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด นำยางรถยนต์กว่า 2,000 เส้น พร้อมข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ยากันยุง และของจำเป็นอื่นๆ มอบให้กับทหารตามแนวชายแดน โรงเรียนวัดสะพานหิน อบต.ท่ากุ่ม และ อบต.แหลมกลัด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ทหารแนวหน้า สำหรับกิจกรรมนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้ว.