พระเทพพัชราภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดชูจิต ลาสิกขาแล้ว สารภาพหลงเชื่อสีกากอล์ฟ โอนเงินให้ลงทุน 12.8 ล้าน ในจำนวนนี้ มีเงินวัดประมาณ 4 แสน
14 กรกฎาคม 2568 จากกรณีที่ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) ได้ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต) เพื่อขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยผลการตรวจสอบว่าเคยมีการโอนเงินให้กับหญิงที่ถูกเรียกว่า สีกา ก. รวมเป็นเงินมากกว่า 12 ล้านบาท
ในหนังสือระบุเหตุผลว่า "ตนเองตกเป็นข่าวในทางลบผ่านสื่อมวลชน จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและหมู่คณะสงฆ์เป็นอย่างมาก จึงขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป" ภายหลังจากการยื่นหนังสือลาออก เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต) ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งให้พระจากวัดโสมนัสวิหาร ซึ่งดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) เข้ารักษาการในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมารามเป็นการชั่วคราว
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.50 น. วันนี้ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมารามได้ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว โดยได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ว่า ที่ผ่านมาได้หลงเชื่อหญิงรายหนึ่งซึ่งอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจ และ มีการกล่าวอ้างชื่อพระชั้นผู้ใหญ่ ทำให้เกิดความไว้ใจและตัดสินใจโอนเงินไปให้รวมทั้งสิ้นประมาณ 12.8 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนเงินทั้งหมดนั้น มีเงินวัดรวมอยู่ด้วยประมาณ 400,000 บาท ซึ่งถือเป็นส่วนที่มิใช่ทรัพย์สินส่วนตัว
ทางด้านรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า การที่มีเงินวัดเกี่ยวข้องในการโอนครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องร้ายแรง เพราะไม่เพียงแต่ผิดวินัยสงฆ์เท่านั้น ยังเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งจะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นทางการต่อไป