ผู้ว่าฯ สุพรรณฯ เตรียมแผนรับมืออุทกภัย บริหารน้ำเชิงพื้นที่-รองรับมวลน้ำเหนือ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ก.ค. 68 ที่ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2568 โดยมี นายกลวัชร ทรัพย์ส่งสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายวรวิทย์ ยอแสง ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี นายเอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วนราชการ อำเภอ อบจ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อรับทราบการคาดหมายลักษณะอากาศในพื้นที่จากสถานีอุตุนิยมวิทยาสุพรรณบุรี การติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำจากโครงการชลประทานสุพรรณบุรี โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสองพี่น้อง ซึ่ง "เขื่อนเจ้าพระยา" จะระบายน้ำเพิ่มเป็น 1,000 ลบ.ม./วินาที เริ่ม 16.00 น. เย็นนี้ (23 ก.ค. 68)
นอกจากนี้ อำเภอสองพี่น้อง อำเภอบางปลาม้า และอำเภออู่ทอง ได้รายงานการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม และพื้นที่รองรับผู้ประสบภัย รวมทั้ง ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี ได้รายงานการเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย และบุคลากรในการลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่เมื่อเกิดเหตุ
โดยที่ประชุมได้รับทราบภาพรวมสถานการณ์ ทั้งสภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการน้ำ และการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแนวทางแก้ไขปัญหาอุทกภัยของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงและเฝ้าระวังน้ำท่วม เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสุพรรณบุรี รวมถึงผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อเตรียมรับพายุวิภา ตามข้อสั่งการของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเตรียมความพร้อมช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่
สุดท้ายนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เน้นย้ำประเด็นการบริหารจัดการน้ำในเชิงพื้นที่เพื่อรองรับมวลน้ำจากภาคเหนือ โดยมอบหมายให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำข้อมูลพื้นที่เสี่ยงและผลกระทบ พร้อมกำชับให้เตรียมกำลังพล เครื่องจักรกล พื้นที่ตั้ง เสริมคันดินป้องกันน้ำท่วมในจุดเสี่ยง ขุดลอกผักตบชวาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเตรียมแผนป้องกันฯ ให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ด้านนายสมัย ศรีเดชภวิศ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากระเสียว เปิดเผยว่า ในปัจจุบันทางเขื่อนกระเสียวมีปริมาณน้ำสะสมอยู่ที่ 39.43 เปอร์เซ็นหรือคิดเป็นปริมาณน้ำคือ117.90 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเขื่อนกระเสียวสามารถรองรับปริมาณน้ำได้ถึง 300 ล้าน.ลบ.ม.จึงยังสามารถรับปริมาณน้ำได้อีกมาก ส่วนเรื่องของพายุวิภานั้นไม่น่ากังวลอะไร เพราะทางเขื่อนกระเสียวนั้นรองรับน้ำจากทางพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เพียงเท่านั้น โดยน้ำจากทางเหนือหรือจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะไม่ไหลลงเขื่อนกระเสียวแต่อย่างใด.