3 หนุ่ม 3 มุม กระบอกเสียง ไทยรบเขมร ปกป้องอธิปไตย

การสู้รบแนวหน้า ชายแดนไทยกัมพูชา ทหารไทยกำลังทำหน้าที่สุดความสามารถ ทั้งทัพบก ทัพอากาศ และล่าสุดทัพเรือได้ออกโรงแล้ว เพื่อผลักดัน ตอบโต้อริราชศัตรู ผู้รุกราน ให้ถอยออกไปจากผืนแผ่นดินไทย ที่บรรพบุรุษ สละเลือดสร้างมาให้ลูกหลานได้มีที่อยู่ ที่ทำกิน อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี

ส่วนในแนวหลัง กองทัพไทย และรัฐบาลก็ต้องทำงานหนักเช่นกัน ในการชี้แจงต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพื่อให้รวมกันเป็นหนึ่งในการต่อสู้กับศัตรู รวมถึงต้องชี้แจงต่อนานาชาติ ถึงข้อเท็จจริงของสถานการณ์ ว่ากัมพูชา คือผู้รุกราน กัมพูชาคุกคามอธิปไตย ทำร้ายพลเรือนผู้บริสุทธิ์ โจมตีโรงพยาบาลละเมิด ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา วางทุนระเบิดละเมิดอนุสัญญาออตตาวา รวมถึงต้องชี้แจงยุทธวิธีการตอบโต้ในการป้องกันตนเองว่าเป็นไปตาม มาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ

ตลอดจนตอบโต้ข้อกล่าวหาของฝ่ายกัมพูชาในโลกออนไลน์ ซึ่งบรรดาโฆษกกองทัพบก กองทัพไทย และโฆษก ศบ.ทก. รวมถึงโฆษกกลาโหม ต่างทำผลงานได้เป็นอย่างดี ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนเป็นอย่างมาก

เริ่มจาก โฆษกกองทัพบก "เสธต็อด" พล.ต.วินธัย สุวารี หรือที่หลายคนเรียกกันในชื่อวงการบันเทิงว่า "พระองค์ขาว" ทำหน้าที่โฆษกกองทัพมายาวนานตั้งแต่สมัย คสช. โดย "เสธ.ต็อด" เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2512 เป็นบุตรคนกลางจากทั้งหมด 3คน ของพลตำรวจโท วันชัย สุวารี อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทย กับเตือนใจ สุวารี สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนอักษรเจริญ ระดับมัธยมศึกษาที่วชิราวุธวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 30 ระดับปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 41 และระดับปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทั่วไป มหาวิทยาลัยบูรพา

ในปี พ.ศ. 2557 กองทัพบก ประกาศกฏอัยการศึก "พันเอก วินธัย" ยศในขณะนั้น เป็นผู้อ่านประกาศ และคำสั่ง กอ.รส. และเมื่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐประหารยึดอำนาจ ในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) "พันเอก วินธัย" ก็เป็นผู้อ่านประกาศ และคำสั่งของ คสช. ด้วย

ส่วนวงการบันเทิงได้รับการคัดเลือกจากหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ให้เป็นนักแสดงนำ ในบทสมเด็จพระเอกาทศรถ ภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช คู่กับ พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพไทย ในบทบาทพระนเรศวรมหาราช นอกจากนี้ พล.ต.วินธัย ยังเป็นนักกีฬาเจ็ตสกีด้วย เคยเข้าร่วมแข่งขันในนามทีมชาติไทย ในรายการเจ็ตสกีโลก 2015 ที่สหรัฐอเมริกา

คนต่อมา "พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ หรือ "เสธ.เม่น"โฆษก ศบ.ทก. และเพิ่งรับตำแหน่ง โฆษกกระทรวงกลาโหม คนใหม่หมาด ๆ หลังมีการปรับ ครม.ที่ผ่านมา สำหรับ "เสธ.เม่น" ปัจจุบันอายุ 56 ปี ภาษาอังกฤษสำเนียงแป๊ะมาก จบการศึกษาที่สหราชอาณาจักร ตั้งแต่มัธยมจนถึงปริญญาโท ด้านวิศวกรรมศาสตร์เคมี จาก "อิมพีเรียล คอลเลจท์ ออฟ ไซเอนซ์ เทคโนโลยี แอนด์ เมดิซิน มหาวิทยาลัยใจกลางกรุงลอนดอน เข้ารับราชการของกองทัพ เริ่มจากชั้น นายเรือนาวิกโยธิน รุ่นที่ 30, ชั้นนาวา รุ่นที่ 19 นาวิกโยธิน

และได้เข้าเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรประจำ ชุดที่ 83 ปี 2548 ทำงานที่กรมข่าวทหาร สำนักวิเทศสัมพันธ์ กองบัญชาการกองทัพไทย รับผิดชอบงานด้านพิธีการ การประสาน
ความสัมพันธ์ระหว่างทูตทหาร เคยเป็นล่ามประจำตัวผู้บังคับบัญชา เช่น พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงเป็นล่ามการประชุมในเวทีนานาชาติต่าง ๆ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ กองบัญชาการกองทัพไทย และรองโฆษกกองทัพไทย โดยพล.อ.ณัฐพล นายพาณิชย์ ดึงมาช่วยงานใน ศบ.ทก. และนั่งเป็นโฆษกกระทรวงกลาโหมในที่สุด

ปิดท้าย พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองทัพไทย เกิดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2513 เป็นบุตรชายของ พลตรี วิชาติ ลายถมยา และ นาง วิไลวรรณ ลายถมยา มีชื่อเล่นว่า "นัท" อดีตเป็นนักกีฬาขี่ม้า ได้รับเหรียญทอง ประเภทอีเวนติ้ง การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 โดย "เสธ.นัท" มีความผูกพันกับกี่ฬาขี่ม้ามาตั้งแต่ เด็ก เพราะคุณพ่อรับราชการในหน่วยทหารม้า จบการศึกษาที่ โรงเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 30 และเข้ารับการศึกษาต่อ ที่ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 41 (จปร.41) หลังจากสำเร็จการศึกษา เลือกรับราชการในเหล่าทหารม้า สังกัดกองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ฯ และเติบโตในสายของทหารม้ามาอย่างต่อเนื่อง

จน ปี 2562 เป็นรองผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบบริหาร สำนักงานปฏิบัติภารกิจ รักษาความมั่นคงภายในกองทัพบก และปี 2565 เป็นรองผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และ ปี 2567 เป็น ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ กรมกิจการพลเรือนทหาร และเป็นโฆษกกองทัพไทยด้วยอีกตำแหน่ง ตลอดจนเป็น คณะกรรมการบริหารสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย และเป็นกรรมการตัดสินกี่ฬาขี่ม้าของ สหพันธ์ขี่ม้านานาชาติด้วย….

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews