อาเซียน" สะเทือน ทรัมป์บีบสินค้าสวมสิทธิ์ ปิดทาง China Plus One
ศึกหนัก อาเซียน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจอกับคลื่นยักษ์ภาษีครั้งใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีผลบังคับใช้แล้วอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมเป็นต้นมา และยังมีภาษีนำเข้าพื้นฐาน 10% ที่สหรัฐฯประกาศใช้กับทุกประเทศทั่วโลกตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ในขณะเดียวกันในทิศทางตรงกันข้ามหลังจากนี้ไปสหรัฐฯจะสามารถส่งออกสินค้าของตนเองเข้าสู่อาเซียนมากขึ้นแบบปลอดภาษี หรือภาษี 0% ตามการแลกดีลภาษีและการค้าของหลายประเทศ
อีกหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา ก็คือ ภาษีสินค้าสวมสิทธิ์ 40% พร้อมบทลงโทษ เพราะวันนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาย้ำชัดเจนว่าต้องการจะปราบปรามสินค้าที่มีการสวมสิทธิ์ หรือส่งผ่าน (transshipment) ทางประเทศที่ 3 ซึ่งแน่นอนว่ามีการโฟกัสมาที่อาเซียนเป็นหลัก และมีการชี้ชัดว่าหมายถึงสินค้าจากประเทศจีนที่อาจจะเข้ามาสวมสิทธิผ่านประเทศต่างๆ เหล่านี้
ความเห็นจาก "ปวน ยาติม"รองศาสตราจารย์จากโรงเรียนบัณฑิตศึกษาธุรกิจมหาวิทยาลัย Kebangsaan ในมาเลเซีย กล่าวว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ ตีความอย่างแคบๆ มุ่งเป้าไปแค่การป้องกันสินค้าที่นำเข้าจากจีน ผ่านการแปรรูปขั้นต่ำ หรือติดฉลากใหม่แล้วส่งออกไปยังสหรัฐฯ อีกครั้ง ก็จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาเซียนอย่างจำกัดหรือไม่มากนัก แต่ถ้ามีการตีความที่กว้างไปกว่านี้หมายรวมถึงสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดก็อาจจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่างๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย กัมพูชา และมาเลเซีย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จีนแจกเงินหมื่น ช่วยค่าเลี้ยงลูก 3 ปี หวังเพิ่มประชากร
- "ภาษีทรัมป์" จุดกระแสคนอินโดนีเซียเลือกกิน "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" มากขึ้นอย่างไร
- "ทรัมป์" ประกาศชัด! ไม่เก็บภาษีนำเข้าทองคำ
- คนไทยเลิกเห่อ EV ซื้อรถผลิตในประเทศ ยึดดีลเลอร์ ไม่ยึดแบรนด์
- ภาษีทรัมป์กดดัน BRICS หนุนอาเซียนแย่งตลาดสหรัฐ โอกาสไทยดัน GDP เกิน 2%