‘พี่สาวพระอลงกต’ ยังงงเปลี่ยนชื่อทำไม ยืนยันชื่อน้องชาย ‘เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว’
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของพี่สาว "พระอลงกต พูลมุข" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ในพื้นที่ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจากการสอบถามข้อมูลทราบว่า พระอลงกต ชื่อเดิมแต่แรกเกิดคือ นายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว ซึ่งเป็นนามสกุลของพ่อเฉย เพ็ชรแก้ว วันเดือนปีเกิดจำได้เพียง พ.ศ. 2503 และตอนที่พระอลงกตบวชนั้น ไม่ได้บอกครอบครัว แต่มีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นญาติกันพาไปบวชเพื่อแก้เคล็ด เพื่อที่จะเริ่มต้นทำมาหากินให้ราบรื่น ซึ่งเตรียมจะไปค้าขายที่กรุงเทพฯ พอสมควรแก่เวลาไปชวนให้สึก เพื่อจะไปทำมาหากิน ปรากฏว่าไม่ขอสึก ขอเป็นพระต่อตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
"ช่วงที่พระอลงกตเป็นพระที่วัดพระบาทน้ำพุ ตนเองก็ได้เป็นแม่ครัวดูแลเรื่องอาหารที่วัดประมาณ 3 ปี แต่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงจึงกลับมาอยู่ที่บ้านที่ขอนแก่น หลังจากที่ตนเองสุขภาพไม่ค่อยดีกลับมาอยู่ที่บ้าน ก็ไม่ค่อยได้คุยติดต่อกับพระอลงกต นานทีได้คุยกันปีละครั้ง ช่วงที่พระอลงกต มาทำบุญที่ขอนแก่นทุกปี ก็จะเจอกันครั้งหนึ่ง เป็นการทำบุญตามประเพณีของชาวอีสาน คือ การทำบุญแจกข้าวอุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ที่เสียชีวิต"
พี่สาวพระอลงกต กล่าวต่อว่า อยากให้สื่อมวลชนทำหน้าที่ติดตามข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง ออกให้ตรงกับความเป็นจริง เพราะเท่าที่ดูข่าวก็มีข้อมูลหลายอย่างที่ไม่ตรง เช่น บอกว่ามีพี่น้อง 2 คน จริงๆ แล้วมีกันทั้งหมด 6 คน และยังไม่มีใครเสียชีวิต โดยตนเองเป็นพี่สาวคนที่สอง ส่วนพระอลงกตเป็นน้องคนที่ 5 สำหรับในเรื่องการเปลี่ยนชื่อนั้น ก็ไม่ทราบว่าเอาชื่อ อลงกต พูลมุข มาจากไหน หรือเอาชื่อใครมา และเปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ มาทราบว่าเปลี่ยนตอนที่มีข่าว หรือเหตุผลที่เปลี่ยนเพราะอะไรก็ไม่รู้เช่นกัน เพราะจะไม่ก้าวก่ายกัน ซึ่งจะมีคุณเฉลิมพลชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้ง ซึ่งคุณเฉลิมพล คือประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ และเคยบวชมาด้วยกัน
"ส่วนของการศึกษาน้องชาย เป็นศิษย์เก่าที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย มาช่วยสร้างอาคารเรียนหลายอาคารแล้ว แต่จำ พ.ศ. จบไม่ได้ เรื่องเงินทองส่วนตัวก็ไม่ทราบเรื่องของน้องชาย เพราะคงไม่มีใครมาชี้แจงหรือบอกว่าสร้างยังไง นำเงินไปทำอะไรแบบไหนกับตนเอง รู้เพียงว่ามาช่วยสร้างอาคารเรียนเท่านั้น"
พี่สาวพระอลงกต เล่าต่ออีกว่า ที่วัดพระบาทน้ำพุมีพี่ชายของพระอลงกตอยู่ที่วัดด้วย ซึ่งเป็นพี่คนโต และล่าสุดที่เคยคุยกันคือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. ที่พระอลงกต มาทำบุญที่ขอนแก่น ซึ่งก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันทั่วไป และหลังปรากฏเป็นข่าวตอนนี้ก็ตกใจ ช่วงที่ตนเองอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุ ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างปกติ มีการดองศพ มีคนมาดูเป็นจำนวนมากก็ไม่เห็นมีอะไร เพิ่งจะมาเป็นเรื่องตอนช่วงนี้ ที่ผ่านมาพระอลงกต ทำแต่เรื่องดี สร้างตึกสร้างอาคารทำที่ 2,000 ไร่ ให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ แต่ข่าวที่เกิดขึ้นมีแต่ข่าวที่โจมตี แต่ส่วนตัวไม่ได้ห่วงพระอลงกต เพราะพระอลงกตเป็นคนเก่ง ถ้าตอนนี้คงบอกได้เพียงว่า พูดไปตามตรงที่เป็นความจริง