ถอดรหัสแฟชั่น ‘Zendaya’ กับ 5 เคล็ดลับที่ทำให้กลายเป็นลุคไวรัลได้เสมอ
LSA Thailand
อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 17.36 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Lifestyle Asia ThailandZendaya ไม่ได้แต่งตัวสวยเฉยๆ แต่เธอและสไตลิสต์คู่บุญอย่าง Law Roach สร้างระบบการคิดลุคที่ผสมแฟชั่น ศิลปะ และการเล่าเรื่องเข้าด้วยกันอย่างมีวินัย จนทุกการปรากฏตัวกลายเป็นแฟชั่นโมเมนต์ที่ไวรัลไปทั่วโลก
การอยู่ในแวดวงของแฟชั่นยุคใหม่ ชื่อของ ‘Zendaya’ นักแสดงสาวที่แทบจะเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าลอง กล้าเล่าเรื่อง และกล้าที่จะไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เดิมคงเป็นชื่อที่ใครหลายคนนึกถึง เพราะทุกครั้งที่เธอก้าวขึ้นพรมแดงหรือปรากฏตัวในงานสำคัญเราจะได้เห็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของทีมสไตลิสต์และตัวตนของเธออย่างลงตัว จนแต่ละลุคไม่ได้เป็นเพียง “เสื้อผ้า” แต่กลายเป็นบทสนทนาว่าด้วยวัฒนธรรม ความงาม และพลังของการเล่าเรื่องผ่านแฟชั่น บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะ 5 เคล็ดลับแฟชั่นของเธอที่เป็นเบื้องหลังแห่งลุคไวรัลเหล่านี้
1. ใช้แฟชั่นเป็น ‘ภาษาการเล่าเรื่อง’
แก่นของ Zendaya คือการแต่งตัวที่เคารพและพาดพิงประวัติศาสตร์แฟชั่นด้วยการหยิบยกแรงบันดาลใจจากผลงานระดับตำนานแล้วถ่ายทอดใหม่ให้ร่วมสมัย Law Roach เคยอธิบายวิธีคิดนี้ไว้ชัดเจนว่าพวกเขานำเสนอแฟชั่นเพื่อแสดงความเคารพต่อผู้ที่ปูทางมาก่อน ซึ่ง Zendaya เองก็ย้ำว่าการแต่งตัวของเธอคือเครื่องมือเล่าเรื่อง นอกจากนี้แนวคิด “I create moments” ของLaw Roach ทำให้ชุดบนตัว Zendaya ทำหน้าที่สื่อสารอารมณ์ตั้งแต่ความทรงพลัง สนุก ขี้เล่น ไปจนถึงความเคารพเชิงประวัติศาสตร์มากกว่าจะเป็นเพียงของสวยราคาแพง
2. ‘Method dressing’ ให้เข้ากับผลงาน
ระหว่างโปรโมตภาพยนตร์ Challengers เธอเล่นกับธีมเทนนิสอย่างชาญฉลาด ทั้งเดรสและรองเท้าส้นสูง LOEWE ที่ส้นเป็น ‘ลูกเทนนิส’ผลงานการออกแบบของอดีตครีเอทีฟไดเร็กเตอร์Jonathan Anderson (ผู้ทำคอสตูมให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย) ลุคชุดเขียวกลิตเตอร์เฉดคอร์ต รวมถึงเดรสพลีตโทนคอร์ต ทำให้ทุกคนเรียกแฟชั่นโมเมนต์เหล่านี้ว่า ‘เทนนิสคอร์’ ที่เป็นการใช้เสื้อผ้าเพิ่มชั้นความหมายให้โปรเจกต์ที่กำลังสื่อสารอยู่ในขณะนั้นส่งต่อไปให้ผู้ชมอย่างชัดเจน
3. ดึง ‘ผลงานหายาก’ในอาร์ไคฟมาสร้างโมเมนต์โดยไม่ใช่ใส่แค่ของใหม่
ลุค Mugler ‘Gynoid’ robot suit คอลเลคชั่นโอกูตูร์Fall 1995 ที่เธอสวมในงานพรีเมียร์ Dune: Part Twoณ กรุงลอนดอน คือชิ้นงานประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยถูกหยิบมาใส่ แต่ถูกรีสเตจด้วยการสไตลิ่งร่วมสมัยจนเป็นไวรัลไปทั่วโลก การเลือกชุดจากคลังอาร์ไคฟ์แทนการทำชุดใหม่คือการบอกว่าลุคที่ดีคือการคิวเรตมากพอๆ กับการครีเอต และยังเพิ่มน้ำหนักทางวัฒนธรรมให้ลุคได้ทันที
4. สร้าง ‘ลายเซ็นซ้ำได้’ เพื่อความต่อเนื่องของภาพจำ
บนพรมแดง Zendaya แทบจะยึดรองเท้า Christian Louboutin รุ่น So Kate ส้น 120 มม. เป็นลายเซ็นประจำตัว ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่สปอนเซอร์ แต่เพราะเธอและสไตลิสต์คู่บุญทดลองจนเท้าเข้ารูป ใส่คล่อง และมันทำให้สัดส่วนชุดดูคม รองเท้า So Kate กลายเป็นสเตเปิลที่เธอสวมซ้ำจนนับเป็นซิกเนเจอร์ (และมีรายงานว่าZendaya มีเกิน 40 คู่ในตู้รองเท้า) เทคนิคนี้ทำให้ลุคหลากหลายผูกกันด้วยภาษาร่วมหนึ่งอย่างจึงจดจำได้ง่าย
5. จากพรมแดงสู่ชีวิตจริงคือแฟชั่นที่ ‘ใช้งานได้’และ ‘ต้องสวย’
ปีนี้ Zendaya ได้คอลแลลอเรชั่นกับแบรนด์สวิสสายเพอร์ฟอร์แมนซ์On ที่เปิดตัวสนีกเกอร์ Cloudzone Moon (และมี Cloudtilt Moon ตามมา) ที่นำเอาเทคโนโลยี CloudTec ของรองเท้าวิ่งมาปรับโฉมให้แฟชั่นขึ้น จุดยืนคือการสวมสบาย และสวยพกพาได้ง่าย ซึ่งสะท้อนว่าภาพลักษณ์ของเธอไม่ได้อยู่แค่พรมแดง แต่ต่อยอดสู่แบรนด์สตรีตและแอคทีฟแวร์ที่เข้ากับชีวิตจริงด้วยเช่นกัน
Note : The information in this article is accurate as of the date of publication.