รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดไทม์ไลน์ ‘ช่องอานม้า’ ข้ออ้าง ‘มนุษยธรรม’ จนเกิดปัญหายืดเยื้อ
รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดไทม์ไลน์ "ช่องอานม้า" ข้ออ้าง "มนุษยธรรม" จนเกิดปัญหายืดเยื้อ กระทบความมั่นคงชายแดน
พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เฟซบุ๊ก พูดถึงความเป็นมาปัญหาของ “ช่องอานม้า” จ.อุบลราชธานี หลังจากเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม กองทัพไทยได้นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) จาก 8 ประเทศ ลงพื้นที่ช่องอานม้า ตามข้กตกลงหยุดยิง แต่ถูกทหารกัมพูชามาก่อความวุ่นวาย ข้อความดังนี้
ช่องอานม้า…ความจริงมีหนึ่งเดียว
ช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เดิมเป็นช่องทางธรรมชาติชักลากไม้นำเข้าจากฝั่งกัมพูชา อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร
ห้วงสงครามกลางเมืองภายในกัมพูชา ชาวกัมพูชาหลบหนีภัยการสู้รบเข้ามาบริเวณชายแดน ไทยได้เอื้อเฟื้อพื้นที่จัดตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรมโดยมีหน่วยงานของสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบเราได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศแต่มีส่วนหนึ่งปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ไม่ยอมกลับ
ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเราทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน
ปี 2542 จ.อุบลราชธานี และ จ.พระวิหาร เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่บริเวณชุมชนเดิมนี้ ในขณะที่ตลาดฝั่งไทยลึกเข้ามาจากแนวเขตแดนประมาณ 300 เมตร คนกัมพูชาขึ้นมาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจากประมาณ 30 หลัง เป็นกว่า 100 หลังในปัจจุบัน
ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราติดตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราวจนเป็นแบบถาวร
ทั้งการขยายบ้านเรือน/การสร้างอนุสาวรีย์ ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วงผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศรวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉยซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ฝ่ายทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ปี 2555 รัฐบาลสองฝ่ายเห็นชอบให้ยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวร มีนักลงทุนมาสร้างกาสิโนรอ แต่หน่วยงานความมั่นคงไม่เห็นด้วยยื่นข้อเสนอให้ย้ายชุมชนลงไปด้านล่าง ฝ่ายกัมพูชาไม่ยินยอม ทำให้การยกระดับไม่สามารถดำเนินการได้ ฝ่ายความมั่นคงเห็นว่าในอนาคตจะเกิดปัญหาจึงเสนอขอให้ปิดจุดผ่อนปรนฯ แต่ จ.อุบลราชธานีคัดค้านเนื่องจากเห็นว่าจะกระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยวชายแดน
หวังว่าคำกล่าวอ้าง “เพื่อมนุษยธรรม” และ “กระทบการค้าและการท่องเที่ยวชายแดน” ซึ่งทำให้เราเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง แล้วส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ในระยะยาว จะเป็นบทเรียนให้ทุกภาคส่วนของไทยเราได้ตระหนักและแก้ไขท่าทีทั้งในปัจจุบัน และอนาคตครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘พล.อ.ณัฐพล’ ชี้ คลิป-ภาพจากมือถือทหารกัมพูชา คือหลักฐานสำคัญ เขมรวางทุ่นระเบิด
- กต. แถลงการณ์ กรณี ‘บ้านหนองจาน’ ชาวกัมพูชารุกล้ำดินแดนไทยมาหลายปี
- ‘ภูมิธรรม’ สั่งรับมือ หลังพบโดรนแปลกปลอม มากผิดปกติ
ติดตามเราได้ที่