โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

KTB ประเมินค่าเงินบาทวันนี้

ทันหุ้น

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#ทันหุ้น – นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์

.

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยอ่อนค่าลง เข้าใกล้โซนแนวต้านถัดไปในช่วง 32.65 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.47-32.61 บาทต่อดอลลาร์) หลังเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้น ตามรายงานข้อมูลตลาดบ้านของสหรัฐฯ อย่าง ยอด Housing Starts เดือนกรกฎาคม ที่ปรับตัวขึ้น +5.2%m/m ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้

.

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ หลังผู้เล่นในตลาดต่างทยอยขายทำกำไรบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ แม้ว่าบรรยากาศในตลาดการเงินสหรัฐฯ จะอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ทว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ยังคงกดดันให้ราคาทองคำ (XAUUSD) ย่อตัวลงเข้าใกล้โซน 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มแรงกดดันต่อเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมาเช่นกัน

.

บรรยากาศในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ตามแรงขายทำกำไรบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ซึ่งปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงที่ผ่านมา อาทิ Nvidia -3.50% ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างยังคงรอจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในงาน Jackson Hole Symposium และรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ ก่อนที่จะปรับสถานะถือครองหุ้นสหรัฐฯ อย่างชัดเจน ส่งผลให้โดยรวม ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ดิ่งลง -1.46% ส่วน S&P500 ปิดตลาด -0.58%

.

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.69% หลังการเจรจาระหว่างผู้นำยูเครนกับผู้นำสหรัฐฯ ล่าสุด ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างมีความหวังว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจพอมีแนวทางที่จะยุติลงได้ อย่างไรก็ดี ความหวังดังกล่าวก็กดดันให้ บรรดาหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมทหาร-การบิน ต่างเผชิญแรงขายทำกำไร อาทิ Rheinmetall -4.9%, BAE Systems -3.9% ทั้งนี้ โดยรวมตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนบ้าง จากการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม รวมถึงกลุ่มยานยนต์

.

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์ แม้รายงานข้อมูลตลาดบ้านสหรัฐฯ ล่าสุดจะออกมาดีกว่าคาด ทว่าบรรยากาศปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงคาดหวังว่า เฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC เดือนกันยายน (มีโอกาสราว 20% ที่จะลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้) ก็มีส่วนกดดันให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยปรับตัวลดลง สู่โซน 4.30% อีกครั้ง

.

อย่างไรก็ดี เราคงมองว่า บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อได้บ้าง หากตลาดทยอยปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด หรือบรรยากาศในตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งอาจไม่ได้ส่งสัญญาณต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด

.

โดยเฉพาะการประชุม FOMC ในเดือนกันยายน อย่างชัดเจน ตามที่ตลาดกำลังคาดหวัง ทั้งนี้ เราคงมุมมองเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดควรรอจังหวะบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ในการทยอยเข้าซื้อ ส่วนผู้ที่มีสถานะลงทุนในบอนด์ระยะยาว ก็สามารถ Let Profits Run ได้ เนื่องจากเราคงคาดการณ์ว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวลดลง ตามการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟด (คาดว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยจนถึงระดับ 3.00-3.25%)

.

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นบ้าง ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ กอปรกับรายงานข้อมูลตลาดบ้านล่าสุดของสหรัฐฯ ก็ออกมาดีกว่าคาด ทว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ยังคงค่อยเป็นค่อยไป หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอลุ้นปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด ส่งผลให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้น สู่ระดับ 98.4 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 97.9-98.4 จุด) ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าบรรยากาศในตลาดการเงินสหรับฯ จะอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ทว่าการทยอยแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. 2025) ปรับตัวลดลงเข้าใกล้โซนแนวรับระยะสั้นแถว 3,350-3,360 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยยังคงเห็นแรงซื้อทองคำ Buy on Dip จากบรรดาผู้เล่นในตลาดอยู่ ซึ่งช่วยพยุงให้ราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวลดลงหนัก

.

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานการประชุม FOMC ล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของเฟด

.

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนกรกฎาคม เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ BOE ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดมองว่า BOE มีโอกาสราว 51% ที่จะลดดอกเบี้ยอีก 25bps 1 ครั้ง ในปีนี้ และในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) และธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมกับจับตาการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกหนี้ชั้นดี (Loan Prime Rate) จากทางธนาคารกลางจีน (PBOC)

.

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกของสหรัฐฯ

.

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท แม้ว่าเงินบาทจะทยอยอ่อนค่าลงบ้างในช่วงคืนที่ผ่านมา แต่เรายังคงประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ทั้งรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐฯ รวมถึงไฮไลท์สำคัญ อย่าง ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ทำให้การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด

.

นอกจากนี้ เรามองว่า การปรับตัวลดลงของราคาทองคำในช่วงนี้ ยังคงเห็นแรงซื้อ Buy on Dip จากผู้เล่นในตลาดอยู่ ซึ่งล่าสุด ราคาทองคำได้ย่อตัวลงสู่โซนแนวรับ ทำให้ในระยะสั้นก็มีโอกาสที่จะเห็นราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นบ้าง หรืออย่างน้อยการปรับตัวลดลงต่อชัดเจนนั้น จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ตลาดกลับมาเชื่อว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยไม่ถึง 2 ครั้ง ถึงจะทำให้ราคาทองคำ (XAUUSD) เสี่ยงปรับตัวลดลงต่อ สู่โซนแนวรับถัดไปในช่วง 3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์

.

หากตลาดยังไม่ได้รับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม เราประเมินว่า การอ่อนค่าของเงินบาท (USDTHB) ก็อาจติดอยู่แถวโซนแนวต้านแรก 32.65 บาทต่อดอลลาร์ โดยจะมีโซน 32.70-32.80 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวต้านถัดไป ทั้งนี้ หากประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะกลับมาสู่แนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง หากสามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน ในทางกลับกัน หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง ก็อาจพอมีโซนแนวรับในช่วง 32.30 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับแรก โดยมีโซน 32.10 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแนวรับสำคัญถัดไป

.

เรายังคงมีความกังวลเดิม คือ ความผันผวนของเงินบาทที่อาจกลับมาสูงขึ้นได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และสถานการณ์การเมืองไทย ซึ่งเรามองว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ Options เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

.

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.70 บาท/ดอลลาร์

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

SoFi ผนึก Lightspark ใช้ Bitcoin Lightning ปฏิวัติโอนเงินโลก

24 นาทีที่แล้ว

กรุงศรี คงเป้าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีที่ 1,370 จุด แนะหุ้นเด่นธีม Earnings Plays

35 นาทีที่แล้ว

SharpLink ทุ่มซื้อ Ethereum มูลค่า 667 ล้านดอลลาร์ หนุนสงครามสะสม ETH ของสถาบัน

40 นาทีที่แล้ว

3 หุ้นแนะนำ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

49 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ปิดด่าน! ไทย-เมียนมา กระทบ 4 หุ้นแค่ไหน?

หุ้นวิชั่น

Gold Futures : บล.โกลเบล็ก ราคาทองวันนี้ 3,318.83 U$/ทรอยเอาน์ซ

กรุงเทพธุรกิจ

UREKA สุดปัง! คว้า 5 ดาว AGM ตอกย้ำโปร่งใส-มั่นใจนักลงทุน

Share2Trade

SoFi ผนึก Lightspark ใช้ Bitcoin Lightning ปฏิวัติโอนเงินโลก

ทันหุ้น

เปิด 3 หุ้นโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ 2 เด้ง ต้องเช็ก!

หุ้นวิชั่น

หุ้น CPF บวก 2.98% กำไรโตแรงทุบสถิติสูงสุดใหม่ อานิสงส์ราคาขายพุ่ง-ต้นทุนลด

กรุงเทพธุรกิจ

LH Bank ตอกย้ำความสำเร็จแคมเปญจัดคอนเสิร์ต “LH BANK x NONT TANONT Thank You Party”

Share2Trade

กรุงศรี คงเป้าดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีที่ 1,370 จุด แนะหุ้นเด่นธีม Earnings Plays

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...