หน้าชื่น! ทรัมป์จับมือยุโรปรับประกันความมั่นคงเคียฟ คุยทุกฝ่ายแฮปปี้ เร่งลุยจัดซัมมิตปูติน-เซเลนสกี้
ทรัมป์ประกาศร่วมกับยุโรปค้ำประกันความมั่นคงของยูเครนภายใต้ข้อตกลงยุติสงคราม และขณะนี้ได้เริ่มเตรียมการจัดซัมมิตปูติน-เซลินสกี้แล้ว คุยทุกฝ่ายแฮปปี้เกี่ยวกับความเป็นไปที่จะเกิดสันติภาพสำหรับรัสเซียและยูเครน ด้านผู้นำเคียฟเผยพร้อมพบตัวต่อตัวกับประมุขมอสโก
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (18 ส.ค.) หลังพบกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน และกลุ่มผู้นำยุโรปที่ทำเนียบขาวว่า อเมริกาและยุโรปจะร่วมกันรับประกันความมั่นคงให้แก่ยูเครน
ด้านเซเลนสกี้ยกย่องว่า คำสัญญาของทรัมป์เป็นความคืบหน้าสำคัญ โดยจะมีการจัดทำเอกสารอย่างเป็นทางการภายใน 10 วัน และเสริมว่า ยูเครนเสนอซื้ออาวุธจากอเมริกามูลค่า 90,000 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านั้น สื่อไฟแนนเชียลไทมส์ของสหราชอาณาจักรรายงานว่า ยูเครนตกลงซื้ออาวุธอเมริกามูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์โดยที่ยุโรปเป็นผู้สนับสนุนเงินทุน เพื่อแลกกับการค้ำประกันความมั่นคงจากอเมริกา
สำหรับการพูดคุยระหว่างทรัมป์กับเซเลนสกี้ที่ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาวครั้งนี้ สื่อต่างๆ พากันรายานว่ามีความเป็นมิตรกว่าการพบกันที่นี่ของพวกเขาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นอย่างมาก โดยครั้งก่อนทั้งทรัมป์และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ต่างโกรธเกรี้ยวตำหนิเซเลนสกี้ว่า ไม่สำนึกบุญคุณอเมริกา
ในคราวนี้ หลังจากหารือกับเซเลนสกี้แล้ว ทรัมป์ก็จัดประชุมอีกรอบโดยมีคณะผู้นำยุโรปเข้าร่วมด้วย
เมินข้อเสนอหยุดยิง
กระนั้น ข้อตกลงสันติภาพระหว้างรัสเซียกับยูเครน ยังคงห่างไกลจากการกลายเป็นความจริงขึ้นมาอย่างแน่นอน โดยก่อนการประชุมที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ (18) จะเริ่มต้นขึ้นไม่นาน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาประกาศคัดค้านเรื่องที่กองทหารของพวกชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะเข้าประจำการในยูเครนด้วยเหตุผลว่าเพื่อช่วยปกป้องให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ โดยคำแถลงนี้ระบุว่า เป็นการซ้ำซ้อนกับข้อเสนอของทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ในคืนวันจันทร์นั้นเอง ทรัมป์โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แล้ว และเขากำลังเริ่มดำเนินการเพื่อจัดการประชุมระหว่างผู้นำรัสเซียกับเซเลนสกี้ ซึ่งจะตามมาด้วยซัมมิต 3 ฝ่ายที่ตนร่วมประชุมกับผู้นำทั้งสอง
ขณะที่แหล่งข่าวในคณะเจรจาของฝ่ายยุโรปเผยว่า ทรัมป์บอกกับผู้นำยุโรปว่า ปูตินเป็นคนแนะนำให้จัดการประชุมเป็นสองรอบดังกล่าว
ทรัมป์ยังโพสต์บนโซเชียลว่า ทุกฝ่ายพอใจมากเกี่ยวกับความเป็นไปที่จะเกิดสันติภาพสำหรับรัสเซียและยูเครน
ถึงแม้ทำเนียบเครมลินไม่ได้ออกมาประกาศข้อตกลงใดๆ แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสในคณะบริหารของทรัมป์เผยว่า ซัมมิตระหว่างปูตินกับเซเลนสกี้จะจัดขึ้นที่ฮังการี ขณะที่นายกรัฐมนตรีฟรีดิช เมร์ซของเยอรมนี สำทับว่า ทั้งคู่จะพบกันใน 2 สัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ครั้งล่าสุดที่มีการเจรจาโดยตรงระหว่างรัสเซียกับยูเครนคือเดือนมิถุนายนที่ตุรกี โดยที่ปูตินปฏิเสธคำเชิญของเซเลนสกี้ที่จะให้มีการพบกันตัวต่อตัว และส่งคณะเจ้าหน้าที่ระดับล่างไปแทน
ด้านเซเลนสกี้ยืนยันกับผู้สื่อข่าวหน้าทำเนียบขาวว่า พร้อมคุยกับปูติน
ขณะที่ยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยในทำเนียบเครมลิน กล่าวเพียงว่า ปูตินเปิดกว้างรับ “แนวคิด” ในการเจรจาโดยตรงกับยูเครน
สงครามในยูเครนขณะนี้ดูเหมือนอยู่ในภาวะชะงักงัน แม้ก่อนหน้านี้รัสเซียยังคงรุกคืบได้บ้าง ขณะเดียวกัน จากการที่การประชุมซัมมิตในอะแลสการะหว่างทรัมป์กับปูตินเมื่อวันศุกร์ (15) ที่แล้ว ไม่ได้มีการประกาศข้อตกลงใดๆ แต่ทรัมป์ดูเหมือนเปลี่ยนท่าที จากที่ก่อนซัมมิตเคยแสดงความขึงขังว่าหากปูตินไม่ยอมหยุดยิงในทันที ก็จะเพิ่มการแซงก์ชั่นรัสเซีย โดยเฉพาะการเล่นงานพวกประเทศที่ยังคงซื้อสินค้าอย่างน้ำมันแดนหมีขาวอย่างเช่น อินเดีย และจีน แต่หลังพบปูตินแล้ว เขากลับไม่เน้นเรื่องนี้เลย แต่หันมากล่าวว่าเพียงแค่ข้อตกลงหยุดยิงนั้นมักจะรักษากันไว้ไม่ได้ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญกว่าคือการมุ่งตรงไปที่การทำข้อตกลงสันติภาพ ทรัมป์ยังเสนอให้เซเลนสกี้เดินทางมาพูดจารายละเอียดกันเรื่องข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซียนี้ที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ (18) ซึ่งผู้นำยูเครนตอบตกลง
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ ทรัมป์ยังกล่าวย้ำกับพวกผู้สื่อข่าวอีกว่า การหยุดยิงอาจทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบในทางยุทธศาสตร์ นอกจากนั้นเขายังเห็นว่า รัสเซียและยูเครนสามารถเจรจาข้อตกลงสันติภาพขณะที่การสู้รบยังคงดำเนินอยู่ได้
การเปลี่ยนใจเช่นนี้ของผู้นำสหรัฐฯ ทำให้เซเลนสกี้และพวกผู้นำยุโรปวิตกกังวล มีการพูดจากับทรัมป์ทางโทรศัพท์ และการหารือกันระหว่างพวกเขาเอง และตัดสินใจว่า พวกผู้นำยุโรปจะไปทำเนียบขาวด้วยในวันจันทร์ เพื่อหนุนหลังเซเลนสกี้ ในการเจรจากับทรัมป์ โดยจะพยายามเรียกร้องให้ทรัมป์ยืนกรานกับปูตินให้ตกลงหยุดยิงในยูเครน ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาสันติภาพใดๆ
ทว่า ในวันอาทิตย์ (17) ทรัมป์ยังประกาศว่า ยูเครนต้องเลิกทวงไครเมียคืนจากรัสเซีย รวมทั้งล้มเลิกแผนการเข้าเป็นสมาชิกนาโต หากต้องการยุติสงครามกับรัสเซียทันที เวลาเดียวกัน ทั้งทรัมป์และพวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวก็ระบุว่า ในที่ประชุมซัมมิตอะแลสกา ปูตินได้ยอมรับเรื่องที่ฝ่ายตะวันตกจะดำเนินการเพื่อรับประกันความมั่นคงให้แก่ยูเครน โดยที่เคียฟไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต รวมทั้งมีการพูดถึงข้อเสนอการดำเนินการเกี่ยวกับดินแดนยูเครนที่รัสเซียยึดครองไว้
นาโตยันไม่มีแผนรับยูเครน
มาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต กล่าวเมื่อวันจันทร์ภายหลังร่วมคณะผู้นำยุโรปหารือกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาวว่า การประชุมประสบความสำเร็จอย่างมาก และชมทรัมป์ว่า สามารถผ่าทางตันได้อย่างแท้จริง
ในส่วนนาโตนั้น รึตเตอเสริมว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก แต่มีการหารือเกี่ยวกับการให้การค้ำประกันความมั่นคงแก่ยูเครน ตามแนวทางมาตรา 5 ของสนธิสัญญานาโต
มาตรา 5 ของนาโตนั้นระบุว่า หากมีการโจมตีสมาชิกชาติหนึ่งชาติใดใน 32 ชาติจะถือเป็นการโจมตีนาโตทั้งหมด
สำหรับเซเลนสกี้ ยังคงปฏิเสธข้อเสนอของปูตินที่เปิดเผยในการประชุมที่อะแลสกา ซึ่งรวมถึงการยกแคว้นโดเนตสก์ทั้งหมดให้รัสเซีย โดยเขาบอกว่าตามรัฐธรรมนูญนั้น การยกดินแดนยูเครนเช่นนี้จะต้องมีการทำประชามติ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเยอรมนียืนกรานว่า ยูเครนต้องไม่ถูกบังคับให้ยกดอนบาสให้รัสเซียระหว่างการเจรจา
ด้านประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เรียกร้องเมื่อวันจันทร์ให้เพิ่มมาตรการแซงก์ชันรัสเซีย หากปูตินไม่ยอมขยับเรื่องการทำข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน
ทางฝ่ายประธานาธิบดีอเล็กซ์ สตับบ์ ของฟินแลนด์ ซึ่งร่วมประชุมกับทรัมป์ด้วยเช่นกัน ย้ำทิ้งท้ายว่า ปูตินไว้ใจไม่ได้
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอพี)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO