หุ้นไทยเด้งแรง! เซียนกราฟเตือนอย่าหวังยาว รอชัดเจน ‘ภาษี-การเมือง’ เน้นเทรดสั้นตามเกม
ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักในแบบที่นักวิเคราะห์เทคนิคหลายคนยังต้องยอมรับว่า "เกินคาด" หลังดัชนีดีดตัวแรงจนทะลุ 1,160 จุดกลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,200 จุดได้ ขณะที่นักลงทุนสายเทคนิคเริ่มเข้าเทรดตั้งแต่ด่าน 1,060 จุดตามกราฟที่ส่งสัญญาณบวก
เซียนกราฟรายหนึ่ง เผยกับ "โพสต์ทูเดย์" ว่า แม้ตลาดหุ้นไทยจะกลับมาดูดีในระยะสั้น แต่ยังไม่ควรคาดหวังภาพใหญ่จนเกินไป เพราะยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะคดีทางการเมืองต่างๆที่ยังต้องรอความชัดเจนในเดือน ส.ค.นี้ และตัวเลขภาษีนำเข้าของไทยที่ยังไม่มีความชัดเจนจากสหรัฐฯ
ตลาดอาจกำลัง "เก็งข่าวดีล่วงหน้า" ว่าไทยจะได้ภาษีส่งออกในอัตรา 19-20% เช่นเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง อินโดนีเซีย และ เวียดนาม ซึ่งหากเป็นจริงจะหนุนตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง แต่หากไม่เป็นอย่างคาด อาจเกิดแรงขายกลับได้ เพราะความสามารถในการแข่งขันต่ำ
อัตราภาษีรอบใหม่ที่สหรัฐฯเรียกเก็บ
บราซิล 50%
ลาว 40%
พม่า 40%
ไทย 36%
พร้อมตั้งข้อสังเกตุเรื่องความเชื่อมั่นกลับมาอีกครั้งหลังจากที่คุณทักษิณออกมาเสนอแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในงานเสวนาต่างๆในช่วงที่ผ่านมา
ถามว่า..ดัชนีหุ้นไทยรอบนี้มีโอกาสขึ้นไปทดสอบจุดไหน ? ยอมรับว่าไม่ทราบ แต่หากดัชนีสามารถผ่านด่าน 1,231 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง มีวอลุ่มซื้อเข้ามาชัดเจน ถือเป็นสัญญาณที่ดี
ขณะที่ ภาพระยะกลางยังไม่สวย แม้หลายมุมมองอาจมองว่าหุ้นไทยมีราคาถูก พี/อีต่ำ แต่หากเทียบกับตลาดเพื่อนบ้าน อาทิ ตลาดหุ้นฮ่องกงที่มี P/E เพียง 10-13 เท่า ซึ่งถูกกว่าตลาดหุ้นไทยปัจจุบันค่า P/E ที่ 16.38 เท่า
โดยดัชนีหุ้นไทย ล่าสุด ณ วันที่ 18 ก.ค.68 ปิดที่ 1,206.58 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด คิดเป็น +0.71% มูลค่าการซื้อขาย 53,775.57 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 43 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.68 ดัชนีปิดที่ 1,194.49 จุด
ผ่านมาครึ่งเดือน ก.ค. จากข้อมูล SETSMART ความเคลื่อนไหวระหว่างวันที่ 1-17 ก.ค.68 ดัชนีเพิ่มขึ้น 108.55 จุด คิดเป็น +9.96%
ส่วนภาพระยะยาวยังมองไม่เห็นอนาคต เนื่องด้วยดัชนีตอนนี้ยังห่างไกลจากเส้นค่าเฉลี่ย Exponential Moving Average 75 Month และ EMA89 ที่ต้องยืนเหนือ 1,437 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมแรงซื้อต่างชาติและสถาบันเข้ามาชัดเจนจึงถือเป็นสัญญาณขาขึ้นได้
หุ้นไทยรอบนี้วิ่งขึ้นเหมือนรับข่าวดีเรื่องภาษีสหรัฐฯที่อินโดได้ 19% และเวียดนามได้ 20% ซึ่งคาดหวังว่าไทยน่าจะได้ภาษีในอัตราเดียวกัน แต่ไทยต้องรอผลเจรจาครั้งล่าสุดก่อนจึงจะเห็นภาพชัด บวกกับการเมืองไม่ชัดเจน ดังนั้นนักลงทุน "ต้องมีวินัยในการเล่นรอบ" เมื่อถึงจังหวะขายก็ต้องขาย อย่าฝืนความจริงของตลาด.