ยูเครนร้อนใจ! ทวงถามคำอธิบายจากวอชิงตัน รัสเซียยิ้มร่ามะกันลดส่งอาวุธเคียฟทำสงครามจบเร็ว

เคียฟครวญ อเมริการะงับการจัดส่งอาวุธสำคัญ อาจลิดรอนศักยภาพของยูเครนในการป้องกันการโจมตีทางอากาศที่รุนแรงขึ้นและการรุกคืบในสนามรบของรัสเซีย ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แก้ต่างว่า เป็นแค่สถานการณ์ชั่วคราว พร้อมยืนยันวอชิงตันยังไม่เลิกให้ความช่วยเหลือยูเครน ด้านเครมลินหนุนส่งว่า ความเคลื่อนไหวนี้อาจทำให้สงครามจบเร็วขึ้น

แหล่งข่าววงใน 4 คนเปิดเผยเมื่อวันพุธ (2 ก.ค.) ว่า การตัดสินใจเรื่องนี้ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ซึ่งมาจากความกังวลว่า สต็อกอาวุธของอเมริกาเองลดต่ำเกินไปนั้น ได้เริ่มต้นดำเนินการแล้วตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน และครอบคลุมถึงจรวดสกัดกั้นจำนวน 30 ลูกสำหรับระบบขีปนาวุธแพทริออต ที่ยูเครนพึ่งพิงในการทำลายขีปนาวุธทิ้งตัวเคลื่อนที่เร็วของรัสเซีย

นอกจากนั้นยังรวมถึงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. เกือบ 8,500 นัด, ขีปนาวุธพิสัยยิงไกลจีเอ็มแอลอาร์เอสกว่า 250 ลูก และขีปนาวุธจากอากาศสู่พื้นผิวเฮลล์ไฟร์ 142 ลูก

กระทรวงการต่างประเทศยูเครนแถลงว่า เคียฟเน้นย้ำว่า ความล่าช้าหรือการผัดวันประกันพรุ่งในการให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน รังแต่ทำให้รัสเซียฮึกเหิมและเดินหน้าทำสงครามต่อ แทนที่จะพยายามบรรลุข้อตกลงสันติภาพ

นอกจากนั้น ทางกระทรวงยังเรียก จอห์น กิงเคิล นักการทูตหมายเลข 2 ในสถานเอกอัครราชทูตอเมริกันในเคียฟเข้าพบ ซึ่งถือเป็นการดำเนินการทางการทูตที่ปกติแล้วจะกระทำกับศัตรู บ่งชี้ถึงความไม่พอใจของยูเครนจากการระงับการจัดส่งอาวุธของอเมริกา

ด้านกระทรวงกลาโหมยูเครนเผยว่า ยังไม่ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการและกำลังติดต่อขอคำชี้แจงจากอเมริกา

ส่วนที่วอชิงตัน แอนนา เคลลี่ รองโฆษกทำเนียบขาวแถลงการตัดสินใจระงับการจัดส่งอาวุธบางส่วนให้ยูเครนว่า อิงกับการยึดถือผลประโยชน์ของอเมริกาเป็นอันดับแรก และเกิดขึ้นภายหลังจากที่เพนตากอนทบทวนการให้การสนับสนุนพันธมิตรทั่วโลก

ฌอน พาร์เนลล์ โฆษกเพนตากอน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กระทรวงยังคงนำเสนอตัวเลือกที่เหมาะสมเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนให้ทรัมป์พิจารณา และตัวเลือกเหล่านั้นสอดคล้องกับเป้าหมายในการทำให้สงครามในยูเครนยุติลง

แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันอีกทางว่า อเมริกาไม่ได้ยุติการให้ความช่วยเหลือหรือการจัดหาอาวุธให้แก่ยูเครนเป็นการถาวร แต่เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวและจะมีการหารือกันต่อไป

ทั้งนี้ ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน วอชิงตันเป็นแกนนำฝ่ายตะวันตกในการให้การสนับสนุนยูเครน โดยคองเกรสอนุมัติความช่วยเหลือเคียฟกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการจัดส่งอาวุธมูลค่า 43,000 ล้านดอลลาร์

แต่มาถึงสมัยทรัมป์ เขาผลักดันให้ยูเครนกับรัสเซียเจรจาข้อตกลงสันติภาพ และนอกจากลดท่าทีแข็งกร้าวกับรัสเซียแล้ว ทรัมป์ยังปฏิเสธที่จะประกาศแพ็คเกจความช่วยเหลือใหม่ๆ ทำให้เคียฟต้องพยายามระดมหาความสนับสนุนจากยุโรปมากขึ้น

กระนั้น แหล่งข่าวระดับสูงในกองทัพยูเครนระบุว่า เคียฟยังต้องพึ่งพิงอาวุธจากอเมริกาอย่างมาก ขณะที่รายงานของศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษา (ซีเอสไอเอส) ที่ออกมาในเดือนพฤษภาคมชี้ว่า ยุโรปมีความคืบหน้าเพียงจำกัดในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมกลาโหมในภูมิภาค และความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องของอเมริกายังคงมีความสำคัญยิ่งยวดต่อศักยภาพในการรบในระยะยาวของยูเครน

ส.ว. จีน ชาฮีน ซึ่งเป็นสมาชิกอาวุโสสุดของฝ่ายพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของวุฒิสภา วิจารณ์ว่า การตัดสินใจระงับการจัดส่งอาวุธจะเพิ่มความเสี่ยงต่อพลเรือนยูเครน บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของวอชิงตัน ทำให้สงครามในยูเครนจบยากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณถึงทั้งมิตรและศัตรูว่า พันธมิตรไม่อาจพึ่งพาอเมริกาได้อีกต่อไป

ทว่า ในความเห็นของรัสเซียนั้น ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกเครมลิน บอกว่า การลดการจัดส่งอาวุธให้ยูเครนจะช่วยให้สงครามยุติเร็วขึ้น

(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO