โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เวิลด์แบงก์คาดการณ์จีดีพีไทยโต1.8%-แนะใช้ดิจิทัลเพิ่มศักยภาพ-หนุนศก.โต

Manager Online

เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

ธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์)เปิดตัวรายงานฉบับใหม่ Thailand Economic Monitor: Digital Pathways to Growth พร้อมประเมินจีดีพีไทยปี 2568 เติบโต 1.8%(จากเดิม 2.9%) และปี 2569 ที่ 1.7% จากผลกระทบการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าโลก-ส่งออก-การบริโภคที่ชะลอตัว และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวในระดับปานกลาง แนะรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค-เพิ่มประสิทธิภาพการลงทุนภาครัฐ-ขยายความร่วมมือทางการค้าเชิงลึก รวมถึงยกระดับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวช่วยในช่วงที่ต้องเผชิญความไม่แน่นอน

นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารโลกคาดการณ์อัตราการเติบโตของ GDP ของไทยคาดว่าจะชะลอลงมาอยู่ที่ 1.8% ในปี 2568 และ 1.7% ในปี 2569 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ต่ำและสะท้อนถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าโลกในช่วงที่ผ่านมา การส่งออกที่อ่อนแอการบริโภคที่ชะลอตัว และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม หากความเชื่อมั่นด้านการลงทุนปรับตัวดีขึ้น GDP อาจเติบโตได้ 2.2% ในปี 2568 และ 1.8% ในปี 2569

"การปรับลดจีดีพีดังกล่าวมาจาก 3 ปัจจัยได้แก่ ผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการค้าโลก รวมถึงความอ่อนแอจากปัจจัยภายในของประเทศไทยโดยความไม่แน่นอนมีผลกระทบต่อภาคการส่งออก-การลงทุนซึ่งมีสัดส่วนในจีดีพีสูง และการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้าจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้เราปรับลดตัวเลขนักท่องเที่ยวจากประเทศปีนี้มาที่ 37 ล้านคน ส่วนประเด็นพื้นที่ทางการคลังนั้น แม้จะแคบลงแต่ก็อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ แต่หากในระยะถัดไปหนี้สาธารณะมีสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยไปก็นำไปสู่การชะลอตัวของจีดีพีประเทศ การกดดันด้านภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นซึ่งส่งผลต่อภาระการใช้จ่ายภาครัฐได้ อย่างไรก็ตาม ในด้านของเสถียรภาพถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีดุลบัญชีเดินสะพัดยังเกินดุล 7% อัตราเงินเฟ้อที่แตะ 0%ถือว่าต่ำสุดในเอเชีย แต่ยังคงต้องระวังในเรื่องความผันผวนของเงินทุนไหลออก และราคาน้ำมัน"

นายเกียรติพงศ์กล่าวอีกว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน แต่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2568 ยังมีความ แข็งแกร่ง ช่วยพยุงภาพรวมเศรษฐกิจไว้ชั่วคราว โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งการส่งออกล่วงหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้น การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค การปรับการลงทุนของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการขยายความร่วมมือทางการค้าในเชิงลึก จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากพลวัตของตลาดที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้

นอกจากนี้ แม้เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ก็ยังมีโอกาสในความท้าทายนั้น ซึ่งรายงานฉบับใหม่ของเวิลด์แบงก์มองถึงโอกาสทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของไทย ซึ่งจะสามารถช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ หากมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเสริมสร้างทักษะให้กับแรงงานไทย ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะย้อนกลับช่วยลดหนี้สาธารณะของไทยด้วย

ทั้งนี้ รายงาน Thailand Economic Monitor: Digital Pathways to Growth ฉบับใหม่ของธนาคารโลกได้ชี้ว่า เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถเป็นตัวเร่งการเติบโตและสร้างงาน ยกระดับคุณภาพการให้บริการ และเพิ่มผลิตภาพของประเทศได้ ในช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน

นางสาวเมลินดา กู้ด ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศไทยและเมียนมา กล่าวว่า ขณะที่ประเทศไทยเตรียมพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของกลุ่มธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศในปี 256 การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัลจะเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของการหารือ การประชุมระดับโลกครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการนำเสนอศักยภาพอุตสาหกรรมหลักต่างๆ อาทิ บริการดิจิทัล การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจการเกษตร และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งล้วนมีส่วนกำหนดอนาคตของประเทศไทย"

ทั้งนี้ เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยคาดว่ามีมูลค่าราว 6% ของ GDP และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคอาเซียน โดยอุตสาหกรรมบริการการเงิน การชำระเงินดิจิทัล ฟินเทศ ซอฟต์แวร์ และวิศวกรรม ถือเป็นกลุ่มที่มีอัตราการจ้างงานเติบโตเร็วที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

ดังนั้น ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ครอบคลุมเกือบทั่วประเทศ และโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะด้านดิจิทัล ที่นับว่าทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค การใช้ดิจิทัล ID และระบบการชำระเงินดิจิทัลอย่างแพร่หลาย (เช่น ThaiD และ PromptPay) ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่ง สำหรับการเข้าถึงบริการทางการเงินและการขยายตัวของรัฐบาลดิจิทัลและอีคอมเมิร์ช โดยอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ชมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปีตั้งแต่เกิดการระบาดของ COVID-19

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

"คาเฟ่ แคนทารี" ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษฮีลใจ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ส.ค. นี้

27 นาทีที่แล้ว

บุกจับโกดังซุกวิทยุสื่อสาร-โทรศัพท์มือถือ-แท็บเล็ตปลอม นำเข้าจากจีนมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท

29 นาทีที่แล้ว

ลิ้มลองรสชาติแห่งฤดูฝน ผ่านเมนูพิเศษหอมสดชื่นที่ ฤดูกาล (Le Du Kaan)

37 นาทีที่แล้ว

ลุ้นสหรัฐฯเก็บภาษีไทยต่ำกว่าเวียดนาม หนุน SENTIMENT หุ้นไทยบวก

46 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

เวียดนาม ชาติแรกอาเซียน ปิดดีลภาษีสหรัฐ สูตร 40-20-10-0 | คุยกับบัญชา | 3 ก.ค. 68

BTimes

ถอดรหัส “สยามพิวรรธน์” ผนึกHuawei สร้างอีโคซิสเทมดึงนทท.คุณภาพ-FIT จีน

Manager Online

เจ้าพ่อกระทิงแดง "เฉลิม อยู่วิทยา" แชมป์มหาเศรษฐีไทย 2025 ทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้าน

PostToday

เศรษฐกิจดิจิทัลคือความหวัง ต้องวางรากฐานให้รู้จัก AI มากขึ้น World Bank คาด GDP ไทยอาจเหลือ 1.8%

Thairath Money

ไฮเออร์ส่งเครื่องซักผ้า AI เรือธง 3 รุ่นท้าหน้าฝน ชูกิมมิกด้านดีไซน์ “แมทช์ไซส์คนเอเชีย” มั่นใจนวัตกรรมสุดล้ำ “คุ้มค่ากว่าราคาตลาด” ตอบโจทย์ทุกการซักและงานพรีเมียม ตั้งเป้ายอดขายโต 32% ในปี 68

Positioningmag

จับตาครึ่งปีหลังความเสี่ยงเยอะ ส.ประกันวินาศภัยมั่นใจ ทั้งปีเบี้ยยังโตเฉียด 3 แสนล้าน

เดลินิวส์

ลุ้นสหรัฐฯเก็บภาษีไทยต่ำกว่าเวียดนาม หนุน SENTIMENT หุ้นไทยบวก

Manager Online

เต็ดตรา แพ้ค ขยายโรงงานใน Binh Duong เร่งขับเคลื่อนนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ กล่องเครื่องดื่มสนองความต้องการตลาดประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Positioningmag

ข่าวและบทความยอดนิยม

IMF ปัดตกแผนขุดบิทคอยน์ ปากีสถาน เหตุ "ไฟฟ้าไม่พอ-หนี้ท่วม"

Manager Online

คำตอบจาก “ขาใหญ่”..ทำไมหุ้นเล็กตายสนิท / สุนันท์ ศรีจันทรา

Manager Online

ASW กวาดยอดขาย 6 เดือนแรก1.2หมื่นล.

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...