"สุชาติ" เตรียมออกกฎกระทรวง ห้ามวัดถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท ที่เหลือนำเข้าธนาคาร บังคับใช้ 1 ต.ค.นี้
“สุชาติ ตันเจริญ” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมออกกฎกระทรวง ห้ามวัดถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท ที่เหลือนำเข้าธนาคาร ทำบัญชีส่งตรวจ บังคับใช้ 1 ต.ค.นี้
วันนี้ (14 ก.ค.68) ที่รัฐสภา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ วิกฤตศรัทธาของประชาชนในวงการสงฆ์ที่เป็นข่าวในปัจจุบัน โดยนายสุชาติเผยว่า เรื่องนี้ตนได้ให้นโยบายสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าจะต้องทำงานเชิงรุก โดยการควบคุมพระสงฆ์เป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม แต่สำนักพุทธฯ เป็นเลขาฯ ในการรับนโยบายและข้อกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ประกาศเป็นกฎกระทรวง หรือข้อปฏิบัติ ในการบังคับใช้ทั่วประเทศ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องประสานกับมหาเถรสมาคมอย่างใกล้ชิด
ส่วนการดำเนินคดีกับพระที่ประพฤติตัวไม่ชอบตามพระธรรมวินัย หรือที่เรียกว่า “สมี” นั้น ยอมรับว่าปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใด กำหนดให้เอาผิดพระที่เสพเมถุนหรือมั่วสุมยาได้ หรือแม้แต่สีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระ ก็ยังไม่มีกฎหมายเอาผิดได้ จึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก ดังนั้น การแก้ไขจึงต้องรีบร่างกฎหมายคณะสงฆ์โดยด่วน เพื่อเพิ่มโทษให้พระสงฆ์ที่ไปเสพเมถุน หรือผิดพระธรรมวินัย โดยต้องได้รับโทษจำคุกหรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แม้แต่สีกาที่เข้ามามั่วกับพระสงฆ์ หรือประพฤติตัวในทางล่อลวง ข่มขู่ก็จะเข้าข่ายความผิดอาญาอื่นๆ ย้ำว่ารัฐบาลจะรีบออกกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการร่างกฎหมายแล้ว คาดว่าภายใน 3-4 เดือนนี้จะมีการแก้กฎหมาย ที่อาจจะรวมถึงการเรี่ยไร การบริจาค โดยเฉพาะการบริจาคหรือเรื่องการเงินของวัด ขณะนี้มหาเถรสมาคมได้ออกเป็นระเบียบ กฎกระทรวงแล้ว ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ 1 ต.ค.นี้ โดยกำหนดว่าหลังจากนี้ต่อไป ทุกวัดที่มีเงินบริจาค จะต้องนำเงินบริจาคเข้าสู่บัญชีธนาคารในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ โดยเฉพาะวัดห้ามถือเงินสดเกิน 100,000 บาท เงินที่เหลือต้องนำเข้าบัญชีทั้งหมด
ดังนั้น ในทุกเดือนทุกวัดต้องทำบัญชีรายรับรายจ่ายให้กับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และจะควบคุมการใช้เงินรายรับรายจ่ายของวัดอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะแก้ไขได้ส่วนหนึ่ง เนื่องจากต้นเหตุวิกฤตศรัทธาหรือการประพฤติปฏิบัติที่ไม่ชอบของพระสงฆ์เกิดจากทรัพย์สิน ทั้งนั้น ย้ำว่าจะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด