หยุดยิงคืบหน้าถึงไหน ทรัมป์-เนทันยาฮูคุยรอบ 2 หารือยุติสงครามในกาซา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้พบกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูแห่งอิสราเอลที่ทำเนียบขาวเป็นครั้งที่สองในรอบ 24 ชั่วโมง เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส การเจรจาที่ไม่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า กินเวลาเพียงชั่วโมงเศษโดยไม่มีสื่อมวลชนเข้าร่วม และเกิดขึ้นในขณะที่กองกำลังอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 95 รายในฉนวนกาซา
สองผู้นำได้พบกันเป็นเวลาหลายชั่วโมงในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเยือนสหรัฐฯ เป็นครั้งที่สามของเนทันยาฮู นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งในวาระที่สอง ก่อนการเจรจาในวันอังคาร ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะพูดคุยกับเนทันยาฮูเกี่ยวกับปัญหาในกาซาเท่านั้น ระบุว่า สหรัฐฯและอิสราเอลต้องแก้ไขปัญหานี้ให้เรียบร้อย กาซาเป็นโศกนาฏกรรม และคาดว่าฝั่งฮามาสก็ต้องการจบปัญหานี้เช่นกัน
ไมค์ ฮันนา ผู้สื่อข่าวอัลจาซีรา รายงานจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า “มีข้อมูลเพียงเล็กน้อย” ที่ได้รับการเผยแพร่ หลังสองผู้นำเดินออกจากห้องเจรจาครั้งล่าสุด จึงสร้างข้อกังขาให้สื่อมวลชนว่าความคืบหน้าของการเจรจาตกลงหยุดยิงอยู่ตรงไหนแล้ว
ไม่นานก่อนที่ทรัมป์จะพบกับเนทันยาฮู ด้านสตีฟ วิทคอฟฟ์ ทูตพิเศษของเขาประจำตะวันออกกลางเปิดเผยว่า ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว และเชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะได้เห็นข้อตกลงสรุปผลได้ภายในสิ้นสุดสัปดาห์นี้ เขากล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้อิสราเอลและฮามาสไม่สามารถตกลงกันได้นั้นลดลงจากเดิม 4 ประเด็นเหลือเพียง 1 ประเด็นเท่านั้น
วิทคอฟฟ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ มีความหวังว่าภายในสิ้นสัปดาห์นี้ ฝ่ายเจรจาทั้งหมดจะบรรลุข้อตกลงที่จะนำไปสู่การหยุดยิง 60 วัน รวมถึงการปล่อยตัวประกัน 10 คน และคืนร่างตัวประกันผู้เสียชีวิต 9 ราย
ชะตาชีวิตชาวกาซา ในกำมือทรัมป์?
แผนที่วางไว้โดยรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัทซ์ เรียกร้องให้มีการย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ประมาณ 600,000 คนไปยังดินแดนใหม่ชั่วคราว จากนั้นจึงย้ายชาวปาเลสไตน์ที่เหลืออีก 2.1 ล้านคน แต่แอนเนล เซลีน นักวิจัยโครงการตะวันออกกลางที่สถาบันควินซี คัดค้านเนื่องจากแผนดังกล่าวเป็นการบังคับให้ชาวปาเลสไตน์ถูกส่งตัวไปยังประเทศอื่นอย่างถาวร ซึ่งสถานที่ชั่วคราวที่อิสราเอลจัดเตรียมไว้จะกลายเป็นค่ายกักกัน
เชลีนกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันมีอิทธิพลอย่างมากต่อรายละเอียดต่างๆ แม้ว่าเราจะเห็นว่าทรัมป์มีท่าทีสงบเสงี่ยม เมื่อถูกถามว่าเขาจะสนับสนุนการโอนย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาโดยไม่สมัครใจหรือไม่ ซึ่งเขาโยนไปให้เนทันยาฮูเป็นผู้ตอบคำถามหลักมาโดยตลอด เธอเชื่อว่าที่ปรึกษาและทีมบริกหารในทำเนียบขาวอาจแนะนำให้ทรัมป์ออกตัวกับเรื่องนี้น้อยลง ฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ เองน่าจะรู้ดีว่านี่ไม่เพียงแต่จะเป็นอาชญากรรมร้ายแรงต่อมนุษยชาติเท่านั้น แต่ยังเอื้อต่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วยและการย้ายผู้รอดชีวิตออกนอกดินแดนของพวกเขา
แม้เบื้องหน้าทรัมป์จะเริ่มออกตัวกับสงครามอิสราเอลกับฮามาสน้อยลง แต่เบื้องหลังทรัมป์เองก็สนับสนุนเนทันยาฮูอย่างแข็งขัน โดยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองในประเทศของอิสราเอลด้วยการวิจารณ์อัยการกรณีพิจารณาคดีทุจริตของผู้นำอิสราเอลในข้อหาติดสินบน ฉ้อโกง และละเมิดความไว้วางใจจากประชาชน ขณะเดียวกัน เนทันยาฮู ยังได้ชื่นชมทรัมป์ โดยกล่าวว่า ไม่เคยมีการประสานงานที่ใกล้ชิดระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอลมาก่อนในประวัติศาสตร์ของประเทศของเขา และยังได้เสนอชื่อผู้นำสหรัฐฯ ให้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพอีกด้วย
ข้อมูลจากสหประชาชาติระบุว่า สงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 57,575 ราย ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 136,879 ราย ประชากรส่วนใหญ่ของฉนวนกาซาต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเนื่องจากสงคราม และประชาชนเกือบครึ่งล้านคนกำลังเผชิญกับภาวะอดอยากระดับรุนแรงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ฝั่งอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,139 คน ซึ่งส่วนใหญ่สูญเสียระหว่างการโจมตีของฮามาสในเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2023 และปัจจุบันคาดว่า ยังคงมีผู้ถูกจับกุมอยู่ในฉนวนกาซาประมาณ 50 ราย โดยเชื่อว่ามีผู้รอดชีวิตอยู่ 20 ราย