เทรนเนอร์มืออาชีพไขข้อข้องใจ กล้วยทำให้อ้วนจริงหรือ?
ข่าวลือที่ว่า "กล้วยทำให้อ้วน" หรือ "ควรเลิกกินกล้วยเพื่อลดพุง" ได้สร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลไม้ยอดนิยมชนิดนี้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คริส เฟรย์แทก เทรนเนอร์ส่วนบุคคลและโค้ชดูแลสุขภาพที่ได้รับการรับรองจากทางการพร้อมประสบการณ์กว่า 35 ปีในการดูแลสุขภาพ ยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง
"ฉันกินกล้วยทุกวัน และในฐานะเทรนเนอร์ส่วนตัวและโค้ชสุขภาพ ฉันไม่เคยกังวลเลย" เฟรย์แทกกล่าว "หากกล้วยทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นจริง ฉันคงเป็นคนแรกที่ชี้ให้เห็น ตัวการที่แท้จริงเบื้องหลังน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นคือ อาหารแปรรูปขั้นสูงและการบริโภคแคลอรี่ที่มากเกินไป ไม่ใช่ผลไม้”
กล้วยเป็นผลไม้ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูป มีรสหวานตามธรรมชาติ และอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็น แต่ความเข้าใจผิดเริ่มจากการที่คนเริ่มเหมารวมว่า "น้ำตาลทั้งหมด" นั้นไม่ดี โดยไม่เข้าใจความแตกต่างระหว่าง น้ำตาลที่เติมเข้ามา (Added sugar) และ น้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผลไม้
อินฟลูเอนเซอร์ด้านฟิตเนสหลายคนอาจแนะนำให้งดน้ำตาลทุกชนิดโดยไม่แยกประเภท แต่ความจริงแล้ว น้ำตาลที่เติมเข้าไปในอาหาร (เช่นที่พบในขนม ลูกอม น้ำอัดลม และของว่างแปรรูป) ต่างหากที่เราควรจำกัดการกิน ส่วนน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผลไม้นั้น แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
น้ำตาลที่เติมเข้าไปในอาหารนั้นเป็นน้ำตาลที่ผ่านการแปรรูปมาแล้วและถูกเรียกว่า “แคลอรี่ที่ว่างเปล่า” (Empty calories) เนื่องจากเป็นสารอาหารที่แทบไม่มีประโยชน์ ส่วนน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในกล้วยนั้น จะถูกย่อยช้ากว่า เนื่องจากเข้าสู่ร่างกายพร้อมไฟเบอร์และสารอาหารอื่นๆ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ตกลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำงานของอินซูลิน
กล้วยขนาดกลางหนึ่งผลให้สารอาหารที่มีประโยชน์หลายอย่ง ได้แก่ ไฟเบอร์หรือใยอาหารที่ช่วยควบคุมความอยากอาหารและการย่อยอาหาร, โพแทสเซียมช่วยบำรุงความดันโลหิต การทำงานของกล้ามเนื้อและบำรุงกระดูก, วิตามินบี 6 ช่วยสร้างพลังงาน ช่วยการทำงานของสมอง และบำรุงผิว, แมงกานีส ช่วยเสริมการเผาผลาญ ปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยผลิตคอลลาเจน
กล้วยหนึ่งผลให้โพแทสเซียมประมาณ 10% และวิตามินบี 6 ประมาณ 30-35% ของความต้องการในแต่ละวัน สำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ กล้วยเป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบี 6 ซึ่งปกติแล้วจะพบมากในผลิตภัณฑ์จากสัตว์
กล้วยยังช่วยลดความอยากอาหารและเสริมการย่อยอาหาร ในขณะที่ความหวานตามธรรมชาติก็ช่วยตอบสนองความ “อยากของหวาน” โดยไม่ทำให้เกิดระดับน้ำตาลพุ่งสูงและลดต่ำอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังอุดมด้วยไฟเบอร์ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้มากถึง 30%
แต่กล้วยก็เหมือนอาหารอื่นๆ ที่ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะจึงจะมีประโยชน์ หากกินกล้วยมากเกินไปต่อวัน ก็จะได้รับแคลอรี่ที่มากเกินไปซึ่งอาจจะไปสะสมและนำไปสู่การเพิ่มน้ำหนักได้
ส่วนปริมาณการกินกล้วยตามปกติของคนส่วนใหญ่ได้แก่ วันละหนึ่งหรือสองลูก ถือว่าเหมาะสมสำหรับการดูแลสุขภาพ
ที่มา : yahoo.com/lifestyle
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES