สรุปแล้ว'ทหาร'พูดไม่หมด จริงหรือไม่?
สรุปแล้ว'ทหาร'พูดไม่หมด จริงหรือไม่?
คืนวันที่ 28 ก.ค. 'ทหารไทย' ประกาศกร้าว "พิชิต-ควบคุม" 11 พื้นที่ได้แก่ ภูมะเขือ, ช่องอานม้า, ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย, ช่องบก, ปราสาทโดนตวล, สัตตะโสม, ช่องจอม, ช่องสายตะกู, พระวิหาร และพลาญยาว
จากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตั่งแต่ วันที่ 24 ก.ค. - 28 ก.ค.หลังจากเกิดเหตุปะทะ "อันวาร์ อิบราฮิม" นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เชิญ "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา และ "ภูมิธรรม เวชยชัย" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้ทำข้อตกลงหยุดยิงไม่ให้เกิดสงคราม
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วยชาติที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ของทหารไทย -ทหารกัมพูชา กลับเกิดเรื่องดราม่าขึ้นเมื่อ "ปราสาทตาควาย" ที่คืนวันที่ 28 ก.ค. เวลา 0.00 น. คือเวลาสิ้นสุดของการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่า ไทย-กัมพูชา ปรากฎว่ามีรายงานว่า เหล่าทหาร ร.31 รอ. (กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์) สามารถยึด "ปราสาทตาควาย" ได้ นั่นทำให้ประชาชนชาวไทยแห่ชื่นชมกันอย่างมาก
ชนิดที่ว่าถึงนาทีเส้นตายของการทำข้อตกลงเราก็ยังสามารถยึด "ปราสาทตาควาย" ที่เป็นของเรากลับมาได้สำเร็จ
แต่มาวันนี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ทหารไทยไม่ได้ 'ยึด' ตัวปราสาทตาควาย แต่กลับบอกว่าเราสามารถยึดได้เพียงแค่รอบนอก ไม่ใช่ยึดทั้งหมดของของตัว "ปราสาท" กลับกลายมาเป็นว่า ตัวข้างในของ "ปราสาทตาควาย" ยังเป็นของทหารกัมพูชาอยู่เนื่องจากว่า วันที่ยึดกลับคืนมา ทหารไทยได้อยู่เพียงแค่รอบนอกของตัวปราสาทเพียงเท่านั้น ขณะที่ทหารกัมพูชาอยู่ภายในตัวปราสาท
แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความมืดหรืออะไรถึงทำให้ทหารไทยมั่นใจว่าเราได้ "ปราสาทตาควาย" กลับมาครอบครองจนทำให้ชาวบ้านดีใจจนนาทีสุดท้าย
ขณะที่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า เนิน 350 เป็นเป้าหมายทางยุทธศาสตร์หลัก ไม่ใช่ตัวปราสาท เพราะปราสาทอยู่ในที่ต่ำ เป็นจุดเสี่ยงต่อการโจมตีจากกัมพูชา ไทยพยายามบุกเข้าทั้งเนิน 350 และตัวปราสาทในช่วงสุดท้าย แต่เจอ สนามทุ่นระเบิด ที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้ ทำให้ทหารบาดเจ็บ ไทยไม่มีทหารประจำการในตัวปราสาท เพราะจะตกเป็นเป้านิ่ง แต่ใช้อาวุธควบคุมพื้นที่ได้ในทางยุทธวิธี
มีทหารกัมพูชาอยู่ในตัวปราสาท แต่ไม่ได้หมายความว่า 'ไทยแพ้' เพราะชัยชนะไม่ได้ตัดสินที่สิ่งปลูกสร้าง การต่อสู้ทางทหารคลี่คลายแล้ว แต่ การต่อสู้ทางการเมือง-การทูตยังดำเนินอยู่ กองทัพเก็บหลักฐานการวางทุ่นระเบิดรอบปราสาทไว้เพื่อใช้ในการดำเนินคดีและเจรจาระหว่างประเทศ
ส่วน ที่ "ช่องอานม้า" ที่กำลังเป็นประเด็นจนทำให้พี่น้องประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม ไทย-กัมพูชา 'ต้องลาดตระเวนร่วมกัน'
งานนี้ โฆษกกองทัพบก ออกมาตอบเอง ก็เพราะว่า ทหารไทย ไม่สามารถเข้าถึง 'อนุสาวรีย์ตาอม' ได้ เพราะถูกกัมพูชาควบคุมพื้นที่ จึงทำให้ 'ไทยยังไม่ได้ยึดแบบเบ็ดเสร็จ' หลังหยุดยิง ไทยสามารถ เข้าพื้นที่ได้ตามข้อตกลง กับกัมพูชา
และ ปัจจุบัน มีการลาดตระเวนร่วมกันแบบไร้อาวุธ ฝ่ายละ 5 นาย รอบจุดพิพาท ไทยสามารถ ผลักดันกำลังกัมพูชาออกจากพื้นที่รุกล้ำ และ ยึดจุดยุทธศาสตร์สำคัญได้หลายจุด กองทัพไทย ตรึงกำลังในเขตที่มั่นใจว่าเป็นดินแดนไทย เพื่อรักษาความได้เปรียบทางยุทธวิธี
สุดท้ายนี้ 'ไทย' สามารถยึดพื้นที่กลับมาได้ทั้งหมด 11 แห่ง ตามที่ 'กองทัพไทย' ออกมาบอกหรือไม่