ผู้เชี่ยวชาญชี้ การขึ้นค่าวีซ่าสหรัฐเพิ่มอุปสรรค “ที่ไม่จำเป็น” ต่อนักท่องเที่ยว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ว่านายสตีเวน เอ. บราวน์ ทนายความด้านการตรวจคนเข้าเมือง ระบุในอีเมลถึงซีเอ็นเอ็นว่า วัตถุประสงค์ของค่าธรรมเนียมนั้น "ยากที่จะบอกได้" แต่โดยทั่วไปแล้ว ค่าธรรมเนียมสำหรับการตรวจคนเข้าเมืองจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการพิจารณา หรือการออกวีซ่า ส่วนข้อกำหนดการคืนเงินอาจหมายถึง "การคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมด"
ขณะเดียวกัน กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ริเริ่มการเก็บค่าธรรมเนียมใหม่นี้ ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการคืนเงิน หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้นโยบาย แต่กล่าวว่า ค่าธรรมเนียมใหม่จะสนับสนุนภารกิจเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ยับยั้งการอยู่เกินวีซ่า และจัดหาเงินทุนเพื่อความมั่นคงชายแดน
ด้านสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระดับชาติ ได้ยกย่องเนื้อหาส่วนอื่นของกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบศุลกากร และการควบคุมการจราจรทางอากาศให้ทันสมัย แต่เรียกค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่นี้ว่า "การถอยหลังครั้งใหญ่"
นายเอริก แฮนเซน รองประธานอาวุโสฝ่ายความสัมพันธ์รัฐบาลของสมาคม เตือนว่า ค่าธรรมเนียม 250 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,042 บาท) จะเพิ่มอุปสรรคทางการเงินที่ไม่จำเป็น ซึ่งจากการคำนวณพบว่า ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการเดินทางเข้าสหรัฐจะเพิ่มสูงถึง 144% และ "อาจทำให้นักท่องเที่ยวท้อแท้" ที่จะเดินทาง
เขาเสริมว่า แม้ค่าธรรมเนียมจะเป็นค่าใช้จ่าย "ชั่วคราว" แต่ระยะเวลาของวีซ่ามักจะยาวนานจนไม่รู้สึกว่าเป็นการชั่วคราว รวมถึงก่อให้เกิดความท้าทายในกระบวนการขอเงินคืน.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES