เปิดเบื้องลึก 'นครเขากระโดง' ฐานที่มั่นการเมือง 'ชิดชอบ'
มหากาพย์เพิกถอนที่ดินเขากระโดง เหมือนจะเป็นจุดจบ แต่ก็ยังไม่จบ เพราะเริ่มเห็นการเมืองมวลชน ที่มากับคำขวัญ “ไม่หนี ไม่ย้าย ไม่ออก”
ในมิติทางการปกครอง บริเวณที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่นั้นอยู่ในพื้นที่ ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง 2 ตำบลถูกผนวกเข้ากับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
กระทรวงมหาดไทย ภายใต้การดูแลของพรรคภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยสมัยนั้น ได้ลงนามในคำสั่งยกสถานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์เป็น “เทศบาลนครบุรีรัมย์” เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2567
เทศบาลนครบุรีรัมย์ เดิมมีฐานะเป็นเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และได้มีการขยายพื้นที่ครอบคลุมเพิ่มเติมถึง ต.อิสาณทั้งตำบล และบางส่วนของ ต.เสม็ด (เฉพาะหมู่ที่ 9, 11, 13 และ 16) รวมทั้งหมด 75.44 ตารางกิโลเมตร (47,150 ไร่)
ต.อิสาณ เป็นที่ตั้งบ้านพักของ ชัย ชิดชอบ นักการเมืองอาวุโส เมื่อย้ายจากสุรินทร์มาตั้งรกรากที่บุรีรัมย์ ก็ปักหลักทำมาหากิน เปิดกิจการโรงโม่หินที่ตำบลนี้ และเป็นกำนัน ต.อิสาณ อยู่นานหลายปี ก่อนจะเป็น สส.สมัยแรก ปี 2512
ดังนั้น บ้านศิลาชัย และโรงโม่หินศิลาชัย(1991) จึงอยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลอิสาณ พร้อมกับสนามฟุตบอล และสนามแข่งรถ ที่อยู่ในพื้นที่ ต.เสม็ด
ก่อนที่จะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ หรือ “เทศบาลนครเขากระโดง” ตามแผนของบ้านใหญ่ “ศิลาชัย” ต้องย้อนไปดูการเมืองท้องถิ่นเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา
สมัยก่อน เทศบาลตำบลอิสาณ ห่างจากที่ว่าการ อ.เมืองบุรีรัมย์ ทางทิศตะวันตก ประมาณ 3 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ประมาณ 36.899 ตารางกิโลเมตร และมีประชากร 12,606 หลังคาเรือน
แม้จะเป็นเทศบาลตำบล แต่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยมีลักษณะเป็นเมืองปริมณฑลที่รองรับการขยายตัวของเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
ตำบลอิสาณกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะมีทั้งสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต ,สนามช้างอารีนา ,บุรีรัมย์ คาสเซิล, โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฯลฯ
สุพจน์ สวัสดิ์พุทรา ในนามกลุ่ม “เพื่อนเนวิน” เป็นนายกเทศมนตรีตำบลอิสาณ 3 สมัย และเป็นนายกฯคนสุดท้าย ก่อนจะมียุบเทศบาลนี้ไปขึ้นต่อเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
เมื่อกระทรวงมหาดไทย ได้ยกระดับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ จึงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) นครบุรีรัมย์และนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ ในวันอาทิตย์ที่ 15 ธ.ค.2567
เนวิน ชิดชอบ ส่ง “เสี่ยชิต” อนุชิต เหลืองชัยศรี ลงสมัครนายกฯ พร้อมทีมสมาชิกสภานครบุรีรัมย์ ในนามกลุ่ม “ฅนบุรีรัมย์”
ผลการเลือกตั้งเป็นไปตามคาด อนุชิต เหลืองชัยศรี ได้ 17,184 คะแนนทิ้งห่างอันดับ 2 ไอลดา อิศรางกูร ณ อยุธยา กลุ่มอิสระ ได้ 772 คะแนน และอันดับ 3 ประเสริฐ เลิศยะโส กลุ่มอิสระ ได้ 737 คะแนน
ผู้สมัคร ส.ท.นครบุรีรัมย์ กลุ่ม “ฅนบุรีรัมย์” ได้รับเลือกตั้งเข้ามายกทีมทั้งหมด 24 คน ใน 4 เขตเลือกตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบุรีรัมย์, อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลอิสาณ และอดีตสมาชิกสภา อบต.เสม็ด
หลังเข้ารับตำแหน่งนายกฯ “เสี่ยชิต” อนุชิต เหลืองชัยศรี ได้ลงนามแต่งตั้งรองนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ 3 คน ได้แก่ แพ เดชพร อดีตประธานสภา อบจ.บุรีรัมย์, อำนาจ เพชรเลิศ อดีตกำนันตำบลอิสาณ และละออ สวัสดิ์พุทรา อดีตประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองบุรีรัมย์
“เสี่ยชิต” นายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ คนแรก เป็นใครมาจากไหน? เหตุใดเนวิน ชิดชอบ จึงไว้วางใจมากนัก
คนบุรีรัมย์รู้จัก “เสี่ยชิต” ในนามกรรมการบริหารบริษัท เอ.บี.ปิโตรเลียม จำกัด และบริษัทในเครือ เอ.บี.กรุ๊ป ประกอบกิจการสถานีบริการน้ำมัน โรงแรมห้าดาว ตัวแทนจำหน่ายรถ และบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
นอกจากนี้ เสี่ยชิตยังเข้าไปถือหุ้นในธุรกิจหลักของบ้านใหญ่ “ศิลาชัย” ทั้งกิจการสโมสรฟุตบอล และโรงแรม
ต้นตระกูลของเสี่ยชิต ตั้งรกรากทำมาค้าขายอยู่ในเขต ต.บ้านด่าน อ.เมืองบุรีรัมย์ ก่อนจะขยับมาเป็นตัวแทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่าในเขตตัวเมือง
กำนันแก้ว อดีตกำนัน ต.บ้านด่าน และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านด่าน บิดาของเสี่ยชิตนั้น เป็นเพื่อนกับเนวิน ชิดชอบ ซึ่งปัจจุบัน กำนันแก้วได้เสียชีวิตไปแล้ว
ว่ากันว่า กำนันแก้วกับเนวิน เคยมีสัญญาใจต่อกันมาก่อน ที่จะผลักดันให้ทายาทกำนันแก้วได้เข้าสู่ถนนการเมือง
คนเซราะกราวยังแปลกใจที่ “เสี่ยชิต” ลูกชายคนโตของกำนันแก้ว ผู้ไม่เคยสนใจเรื่องการเมือง จะกระโดดเข้ามาอาสาเป็นนายกเล็กคนแรกของนครบุรีรัมย์
เทศบาลนครบุรีรัมย์ มีความสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ “ทำเลทอง” ของตระกูลชิดชอบ “เนวิน” จึงต้องเลือกคนที่ใกล้ชิด และไว้วางใจได้ในการทำงานมาเป็นผู้บริหาร
เมื่อมหาดไทยยุคเพื่อไทย เปิดยุทธการทวงคืนที่ดินการรถไฟ 5 พันไร่ ย่อมต้องเผชิญเกมมวลชนแห่ง “นครเขากระโดง” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้