รัฐบาลเร่งจัดทัพ“บิ๊กข้าราชการ”นับถอยหลังเลือกตั้ง

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บรรยากาศการเมืองไทยยิ่งทวีความเข้มข้น เมื่อ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคลิปสนทนาทางโทรศัพท์กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ผู้นำการบริหารราชการแผ่นดินตกอยู่ในมือ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี

ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า “รัฐบาลแพทองธาร” อาจจะไม่สามารถ “ไปต่อ” ได้อีกนาน

ตลอดช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม ได้ทำหน้าที่นั่งหัวโต๊ะการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และขับเคลื่อนภารกิจด้านการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ตั้ง 4 ปลัดกระทรวงใหม่

การแต่งตั้ง “ข้าราชการระดับสูง” ที่สำคัญ คือ การมีแต่งตั้ง ปลัดกระทรวงใหม่ไปแล้ว ใน 4 กระทรวงหลัก ได้แก่

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ : นายกันตพงศ์ รังษีสว่าง (5 ส.ค. 68)

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : นางชญานันท์ ภักดีจิตต์ (29 ก.ค. 68)

เกษตรและสหกรณ์ : นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข (22 ก.ค. 68)

สาธารณสุข : นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน (15 ก.ค. 68)

มท.เด้ง-โยก-สลับ 11 เก้าอี้ใหญ่

ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ในฐานะต้นสังกัดหลัก นายภูมิธรรม เดินหน้าปรับทัพกระทรวงมหาดไทย นับตั้งแต่เข้ารับหน้าที่ใหม่ๆ ดังนี้

8 ก.ค. 2568 ในการประชุม ครม. กระทรวงมหาดไทยได้เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูง 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย

ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เป็นผู้ตรวจราชการ

นฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นผู้ตรวจราชการ

นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เป็นอธิบดีกรมการปกครอง

ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าฯ เพชรบุรี เป็น อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

ต่อมา 5 ส.ค. 2568 มีการโยกย้าย 6 ตำแหน่งสำคัญ ได้แก่

พรพจน์ เพ็ญพาส จาก อธิบดีกรมที่ดิน เป็น รองปลัดกระทรวง

ขจรเกียรติ รักพานิชมณี จาก ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็น อธิบดีกรมที่ดิน

เชษฐา โมสิกรัตน์ จาก รองปลัดกระทรวง เป็น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

สันติ รังษิรุจิ จาก ผู้ตรวจราชการ เป็น ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา

ไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ จากผู้ว่าฯ ระยอง เป็น ผู้ว่าฯ เพชรบุรี

ภาสกร บุญญลักษม์ จาก อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็น ผู้ว่าฯ ระยอง

ถัดมา ล่าสุด 7 ส.ค. 2568 นายภูมิธรรม ได้สั่งย้ายว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย

หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,000 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท

มท.เกษียณล็อตใหญ่ 208 ราย

ในช่วงก่อนจะถึงเดือนตุลาคมนี้ ถือเป็น “จังหวะทอง” ในการจัดทัพราชการ เพราะกระทรวงมหาดไทยจะมีข้าราชการเกษียณรวม 208 ราย ประกอบด้วย

รองปลัดกระทรวง 2 ราย คือ ขจร ศรีชวโนทัย และ ชำนาญวิทย์ เตรัตน์

ผู้ตรวจราชการ 3 ราย คือ ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์, ณรงค์ จีนอ่ำ, อดิเทพ กมลเวชช์

ผู้ว่าราชการจังหวัด 13 ราย ได้แก่

ไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าฯ ขอนแก่น

ชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าฯ ลำปาง

ทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าฯ พิษณุโลก

ธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าฯ ชลบุรี

นิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าฯ พระนครศรีอยุธยา

นิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม

ศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์

สนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์

สมคิด จันทมฤก ผู้ว่าฯ ปทุมธานี

สุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย ผู้ว่าฯ ยะลา

สุเมธ ธีรนิติ ผู้ว่าฯ สิงห์บุรี

โสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าฯ ภูเก็ต

อำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าฯ ลพบุรี

นอกจากนั้น มี รองผู้ว่าราชการจังหวัด 31 ราย และ ผู้อำนวยการกรมต่างๆ อีก 159 ราย ที่จะเกษียณอายุราชการ 30 ก.ย. 2568 นี้

ตำแหน่งที่ว่างดังกล่าว เปิดช่องให้ “ฝ่ายการเมือง” มีโอกาสจัดทัพ จัดคนทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล

โยกย้ายครอบคลุมหลายกระทรวง

นอกจากกระทรวงมหาดไทย จะปรับย้ายข้าราชการแล้ว การแต่งตั้งข้าราชการยังเกิดขึ้นในหลายกระทรวง อาทิ

ศึกษาธิการ (5 ส.ค. 68) นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี เป็น เลขาธิการ สพฐ. นายสุรศักดิ์ อินศรีไกร รองปลัดกระทรวง

เกษตรและสหกรณ์ (29 ก.ค. 68) แต่งตั้งรวม 6 ราย ครอบคลุมทั้งรองปลัดกระทรวง และ อธิบดีกรมข้าว–กรมหม่อนไหม–กรมส่งเสริมสหกรณ์

พาณิชย์ (29 ก.ค. 68) 4 ราย รวมถึงการสับเก้าอี้ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ยุติธรรม (22 ก.ค. 68) 4 ราย โดยมี พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ขึ้นเป็น อธิบดีกรมราชทัณฑ์

สาธารณสุข (22 ก.ค. 68) 3 ราย รวมถึงการปรับขึ้นอธิบดีกรมการแพทย์ และ เลขาธิการ อย.

การคลัง (15 และ 22 ก.ค. 68) ขยับใหญ่ 6 ราย อาทิ กุลยา ตันติเตมิท →อธิบดีกรมศุลกากร และ พรชัย ฐีระเวช → อธิบดีกรมสรรพสามิต

คมนาคม (15 ก.ค. 68) 4 ราย รวมทั้ง นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ → อธิบดีกรมการขนส่งทางบก

เกมวางหมากก่อนเลือกตั้งใหญ่

ท่ามกลางกระแสข่าวการโยกย้ายครั้งนี้ อาจเป็นการ “ล้างบางข้าราชการสีน้ำเงิน” นายภูมิธรรม ตอบคำถามสื่อด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายว่า

“โอ้ย… ท่านไปคิดเรื่องล้างบางหมด การบริหารราชการแผ่นดินก็ทำไม่ได้สิ ทั้งหมดเป็นไปตามความเหมาะสม ความชอบธรรม และมีเหตุผลอธิบายได้ทุกกรณี”

อย่างไรก็ตาม …การจัดทัพข้าราชการครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงการปรับเปลี่ยนตามวาระเกษียณ แต่สะท้อนถึงยุทธศาสตร์การเมือง ภายใต้สถานการณ์การเมืองที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งใหญ่