“ภูมิธรรม” ไม่ขอเดากัมพูชารับ 3 ข้อเสนอไทยหรือไม่ รอแม่ทัพคุยกัน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 22 สิงหาคม 2568 เวลา 19.25 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมททำเนียบ 22 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ไม่ขอเดากัมพูชารับ 3 ข้อเสนอไทยหรือไม่ รอแม่ทัพคุยกัน มองกัมพูชา ไม่ได้ผิดนัดประชุม RBC จะเที่ยงคืนตี 1 ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อม ชี้เรื่องเขตแดนไม่จบง่ายต้องหาทางออกที่ดีทั้ง 2 ฝ่าย ยันรัฐบาลไม่มีอะไรแอบแฝงปม MOU 43-44 บอกหากสงสัยให้คุยส่วนตัวกับส่วนที่เกี่ยวข้อง ย้ำจุดยืนไม่ยอมเสียอธิปไตย-ผลประโยชน์ของประเทศ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย–กัมพูชา (Regional Border Committee – RBC) กองทัพภาคที่ 1 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา โดยฝ่ายไทยได้ยื่นข้อเสนอ 3 ข้อ คือ ให้เก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน , ร่วมปราบสแกมเมอร์ และ จัดสรรพื้นที่ชายแดนให้ถูกต้อง มีแนวโน้มว่ากัมพูชาจะรับข้อเสนอหรือไม่ ว่า ตนไม่ขอเดา ขอให้มีการพูดคุยกันไม่ต้องเดา ซึ่งเมื่อคืน เป็นการพูดคุยรายละเอียดฝ่ายเลขาฯ และการประชุม RBC เป็นเรื่องที่แม่ทัพคุยกันไม่มีอะไรที่น่ากังวล ไม่ว่าจะนัดเวลาใด ตี1 หรือ เที่ยงคืน ก็ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละฝ่าย ส่วนวันนี้(22 ส.ค.) คือวันประชุมจริงก็ขอให้แม่ทัพได้พูดคุยกันอย่าไปเดาอะไร ซึ่งไทยก็มีเหตุผลของไทยที่จะมีข้อเสนอต่างๆว่ามีความจำเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้น 3 ข้อที่ไทยเสนอไปเป็นเงื่อนไข เป็นปัญหา และเป็นประโยชน์กับไทยที่น่าจะทำได้ ถือเป็นความเหมาะสมถูกต้องที่เราต้องเสนอ เพื่อพิจารณาร่วมกัน แต่ตอนนี้คงต้องรอให้พูดคุยกันก่อน
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงเรื่องเขตแดนว่า ความเป็นจริง ต้องเตรียมใจไว้ว่า เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ เพราะในโลกนี้ยังไม่มีอันไหนที่จบง่าย ก็ต้องว่ากันไปและหาทางออกให้ดีสำหรับทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้กระทบกับอธิปไตยของทั้ง 2 ประเทศ หรือจะมีการใช้ประโยชน์ร่วมกันอย่างไรก็ต้องไปดู อย่าพึ่งไปคิดว่าจะต้องจบเร็ว
เมื่อถามย้ำว่าการประชุม RBC วานนี้ (21 ส.ค.) ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มาตามนัดหมาย นายภูมิธรรม กล่าวว่า บอกไปแล้วว่าเป็นไปตามเวลานัดหมาย ที่เขานัดกันตรงกัน เวลาเรานัดหรือเขานัด ถ้ามีอะไรที่ขัดข้องเขาก็รอกัน ไม่ใช่เรื่องเกี่ยงนู่นเกี่ยงนี่ ถ้าเขายังไม่ได้ข้อสรุปมาก็คุยกันไม่ได้ อยากไปจับจุดเล็กจุดน้อยให้เอาเรื่องใหญ่ๆ
ส่วนเมื่อวานนี้ ( 21 ส.ค.) ที่ประชุมสภาฯ มีการพูดถึงการยกเลิก MOU 43 และ MOU44 รัฐบาลมีท่าทีเรื่องนี้อย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า MOU ทั้งสองฉบับอย่าพึ่งไปตัดสินใจอะไร ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีอะไรที่แอบแฝง ทำให้เป็นปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องไปพูดคุย และเฉพาะ บุคคลที่มีปัญหาสามารถมาพูดคุยกันได้ว่าผลอะไรเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้หาก ไปพูดเป็นสาธารณะเขาก็จะรู้เราหมด ดังนั้นอะไรที่เป็นประโยชน์ หรือเป็นประโยชน์ ก็ให้มาพูดคุยกันกับตนเองหรือกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ เพราะไม่ใช่ผลประโยชน์ของนายกรัฐมนตรีหรือของตนเอง แต่เป็นเรื่องที่ต้องดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติอยู่แล้ว นี่คือจุดยืนที่จะไม่ยอมเสียอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศชาติไป เพราะฉะนั้นเรื่องเหล่านี้ที่ได้ถามกันหรือมีปัญหา หลายฝ่ายเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย กฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงผลที่จะเกิดขึ้น มาหลายเรื่องซึ่งทุกคำถามที่ถามรัฐบาลมาหลายเรื่อง บอกได้เพียงว่ารัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด เหมือนกับตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลถึงไม่ฟ้องศาลระหว่างประเทศ กับผู้นำกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้มีหลายมุมมอง จึงไม่อยากให้มองแค่มุมเดียว และอยากให้สื่อลองพิจารณาและไปศึกษาดูว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ หากพูดไปก็จะเป็นปัญหา
เมื่อถามว่า ไม่ควรมาพูดว่ายกเลิกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า พูดไปก็ดีแล้ว ตระหนักแล้วแต่ถ้า อยากรู้รายละเอียดที่ลึกก็ให้มาถามตนไม่ใช่ถามตามหน้าสื่อ และต้องไปถามองค์กรหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอให้มีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการยกเลิก MOU43อละ MOU44 นายภูมิธรรมกล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของสภา ส่วนรัฐบาลก็บริหารตามหลักการที่เราคิดว่า ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด
เมื่อถามว่าวานนี้ สภาปิดการประชุมก่อนที่จะมีการหารือเรื่อง MOU43และMOU44 นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่มีวาระ ก็ต้องว่ากันตามวาระ เรื่องของงานสภา ไม่ใช่อยู่ๆ ประธานสภาหรือรองประธานสภาจะใส่วาระอะไรเข้าไปก็ได้เพราะต้องว่ากันตามกฎเกณฑ์.-316.-สำนักข่าวไทย