"กมธ.สว."สอบโรงงานแป้งมันรุกป่า พบ "รมต."เอี่ยวคดีใหญ่โคราช พื้นที่หลายร้อยไร่!
"กมธ.สว."สอบโรงงานแป้งมันรุกป่า พบ "รมต."เอี่ยวคดีใหญ่โคราช พื้นที่หลายร้อยไร่! ไม่ใช่แค่ที่อุบล โผล่โคราชด้วย สว.ชี้ รัฐมนตรี 'คนเดิม' สารภาพบุกรุกป่าสงวนฯ ทำบ่อบำบัด 18 บ่อหลาย 100 ไร่ พบยังไม่ได้ฟื้นฟู พื้นที่ป่าถูกยึดครอง"
วันที่ 19 ส.ค.2568 ที่รัฐสภา นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมพิจารณาตรวจสอบคดีการบุกรุกที่ดินเขตป่าไม้ สาธารณะประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจแป้งมันสำปะหลังรายใหญ่ของภาคอีสาน และมีชื่อของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหนึ่ง ในรัฐบาลชุดปัจจุบันและมีชื่อตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว โดยเชิญผู้แทนจากกรมป่าไม้ , กรมที่ดิน , และกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอเข้าชี้แจง
นายชีวะภาพ กล่าวว่า จากข้อมูลตรวจสอบพบยังมีคดีค้างเก่าในพื้นที่ อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา เป็นคดีลักษณะเดียวกันเป็นการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐในเขต สปก ,ซ้อนทับเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงอีจานใหญ่ ในเขตอำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา พื้นที่หลายร้อยไร่,เป็นคดีที่มีการไกล่เกลี่ยกับภาครัฐ ซึ่งตรวจสอบพบเบื้องต้นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะยังไม่ได้ดำเนินการ บังคับใช้กฎหมายให้ครบถ้วนตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบพบผู้ต้องหาในคดีเป็นบุคคลเดียวกันกับคดี บุกรุกที่ทะเลเลี้ยงสัตว์“หาดสวนยา”อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่เป็นข่าวว่ามีการดำเนินการโดย กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความล่าช้าใกล้หมดอายุความในเวลานี้
"กมธ.ต้องศึกษาข้อมูลโดยละเอียด ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น หรือเครื่องมือทางการเมือง ว่ากันไปตามถูกผิด ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้ระเบียบกฎหมาย ซึ่งโรงงานแป้งมันดังกล่าวมี 3 กลุ่มใหญ่ ที่บุกรุกพื้นที่ป่า โดยเฉพาะใน อ.เสิงสาง มีการบุกรุกทำบ่อบำบัดจำนวน 18 บ่อเนื้อที่หลายร้อยไร่ โดยเป็นพื้นที่ทับซ้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติป่าดงอีจานใหญ่ และเขตสปก. โดยหากยังไม่มีการออกเป็น สปก.4-01 ก็ยังถือว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ อยู่"นายชีวะภาพ กล่าว
ประธานกมธ.ทรัพยากรธรรมชาติ กล่าวอีกว่า ทราบว่าที่ผ่านมาทาง ส.ป.ก.ได้มีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งกับโรงงานดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ต้องแจ้งดำเนินคดีบุกรุกป่าสงวนฯ ด้วย แต่เท่าที่ทราบมีการไกล่เกลี่ยในชั้นศาลต้องจ่ายเงินชดเชยฟื้นฟูพื้นที่ 20 กว่าล้านบาท ล่าสุดผู้เชี่ยวชาญได้แปลภาพถ่ายทางอากาศพบว่ายังมีการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อยู่และยังไม่ได้มีการฟื้นฟูแต่อย่างใด ที่สำคัญจุดอื่นบริเวณนอกโรงงานเราตรวจสอบพบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ที่ทับซ้อนกับเขต ส.ป.ก. จึงต้องดำเนินการทั้งหมด ส่วนในพื้นที่ จ.อุบลฯ ก็ต้องตรวจสอบต่อไป และได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงว่าได้ดำเนินการอย่างไรแล้ว โดยสัปดาห์หน้าจะเชิญ ส.ป.ก.มาชี้แจงความคืบหน้าการบังคับคดี รวมทั้งกรมป่าไม้ ในส่วนการมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก.ไปจัดสรรให้ประชาชน แต่การนำไปก่อสร้างโรงงานมันสำปะหลัง ถือว่าขัดต่อกฎหมายและมีการดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีแล้วหรือไม่
“ที่สำคัญคือผู้ต้องหา 2 คดีเป็นบุคคลเดียวกัน และวันนี้ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการในรัฐบาลชุดนี้ นี่คือสิ่งที่เราต้องทำให้สังคมรับรู้รับทราบข้อเท็จจริงให้ได้” นายชีวะภาพกล่าว