โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘ใบเสร็จ’ หนึ่งในการเขียนยุคแรกๆ ถึงแคชเชียร์ป้องกันการทุจริต และสิ่งสำคัญในโลกธุรกิจ

Capital

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Insight

ทุกวันนี้ ใบเสร็จ ทำให้คุณประสาทกินหรือไม่ การไปเดินห้าง ก็ต้องสะสมใบเสร็จเพื่อเอาไปแลกเวลาจอดรถ หลายโปรโมชั่นก็ต้องแสดงใบเสร็จ บ้านร้านอาหารให้เราสแกนใบเสร็จเพื่อสะสมแต้ม ซื้อของชิ้นใหญ่ๆ ก็ต้องเก็บใบเสร็จไว้ เก็บไปเก็บมา ในกระเป๋า ในบ้าน เต็มไปด้วยกระดาษแผ่นบางๆ จิ๋วๆ

แน่นอน ใบเสร็จที่เราหยิบและสะสมไว้เป็นจำนวนมหาศาล ตัวมันเองเป็น ‘หลักฐาน’ ของการซื้อ-ขายสินค้า เป็นการระบุราคา ที่มา วันเวลา และอาจรวมถึงความคุ้มครองและข้อมูลอื่นๆ ที่ผูกมัดผู้ซื้อและผู้ขายของการทำธุรกรรมในครั้งหนึ่งๆ

แหม พอพูดแบบนี้ เจ้าใบเสร็จที่อยากจะขยำทิ้งก็ดูจะกลายเป็น ‘ของ’ สำคัญของโลกธุรกิจเลยทีเดียว เรียกได้ว่านอกจากธุรกิจและธุรกรรม การค้าทั้งหลาย ของผู้ซื้อ-ผู้ขายแล้ว เจ้าใบเสร็จนี้ยังทำหน้าที่ที่สำคัญมากๆ มาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล คือเป็นหลักฐานเพื่อใช้ตรวจสอบของรัฐในการจัดการภาษีและดูแลความเป็นไปต่างๆ ของกิจการในดินแดนของตน

ถ้าเรามองย้อนกลับไป ในหลักฐานเก่าแก่อย่างหลักฐานตัวเขียนข้อความโบราณนั้น เราจะพบว่าหนึ่งในข้อเขียนของภาษาเขียนที่เกิดขึ้นคือการบันทึกธุรกรรม หลักฐานการซื้อ-ขาย เรียกได้ว่าเมื่อมีภาษาเขียนเกิดขึ้น หลักฐานหรือใบเสร็จก็เป็นหนึ่งในข้อเขียนสำคัญที่มนุษย์เขียนเพื่อเป็นหลักฐานซึ่งกันและกัน และเป็นหลักฐานต่อรัฐ

จากข้อเขียนในแผ่นดินเหนียว กระดาษปาปิรุส หรือเศษเครื่องปั้นดินเผา มนุษย์เราต้องพึ่งพาหลักฐานชิ้นเล็กๆ ในการซื้อ-ขายสรรพสิ่ง จนมาถึงยุคสมัยของการค้าที่มีลูกค้าและการซื้อ-ขายเป็นจำนวนมาก เจ้าของกิจการชื่อ ‘เจมส์ ริตตี้ (James Ritty)’ จึงคิดค้นระบบบันทึกข้อมูลอัตโนมัติซึ่งก็คือแคชเชียร์ที่ส่งเสียงกริ๊งท่ีเราคุ้นเคย ที่พวกมันถูกคิดขึ้นเพื่อป้องกันการทุจริตของพนักงานในการซื้อ-ขาย

แผ่นดินเหนียว เศษดินเผา ก่อนจะมีใบเสร็จ

ในอารยธรรมที่มีการเขียน นักโบราณคดีมักพบข้อเขียนที่ระบุเป็นข้อความ หลักฐานการซื้อ-ขาย เป็นหนึ่งในงานเขียนที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติ หนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ว่าด้วยการขีดๆ เขียนๆ เราต้องย้อนไปที่สมัยเมโสโปเตเมีย

ในอารยธรรมเมโสโปเตเมียมีการเขียนอักษรลิ่มคูนิฟอร์มลงบนแผ่นดินเหนียว หนึ่งในใบเสร็จที่เก่าแก่ที่สุดคือแผ่นดินเหนียวที่พบในตุรกี แผ่นจารึกขนาดย่อมๆ มีอายุถึง 3,500 ปี บันทึกถึงการซื้อเฟอร์นิเจอร์ของใครสักคนไว้

นอกจากแผ่นดินเหนียวอายุ 3,500 ปีที่ว่าด้วยการซื้อ-ขายเฟอร์นิเจอร์แล้ว ยังมีแผ่นดินเหนียวในทำนองเดียวกัน คือเขียนโดยผู้ขายสินค้า บันทึกรายละเอียดสินค้าและราคาไว้ เช่นแผ่นดินเหนียวที่ค้นพบในพื้นที่ของอิรัก ที่คาดว่าจะมีอายุในช่วง 300 ปีก่อนคริสตกาล ตัวแผ่นดินเหนียวบันทึกการขายต้นปาล์ม 15 ต้น

ในกรณีการซื้อ-ขายต้นปาล์ม นักประวัติศาสตร์ชี้ว่านับเป็นอีกหนึ่งบันทึกที่มีความซับซ้อนในตัวเอง คือเป็นหลักฐานการซื้อ-ขายต้นปาล์ม โดยพูดถึงเฉพาะตัวต้นปาล์มในฐานะสินค้า ไม่ใช่ที่ดินที่มันถูกนำไปปลูกซึ่งถือว่าเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

นัยหนึ่งของใบเสร็จในยุคนั้น ไม่ได้เป็นแค่ใบเสร็จรับเงิน แต่เป็นหลักฐานสัญญาย่อยๆ ตัวแผ่นดินเหนียวแสดงให้เห็นถึงการที่ประชาชนของเมืองสามารถทำกิน ครอบครองสินทรัพย์ต่างๆ ของพื้นดินได้ แต่ครอบครองที่ดินไม่ได้ ทั้งยังมีการลงนามของผู้เกี่ยวข้อง พยาน ซึ่งเป็นหลักฐานของการทำธุรกรรมที่มีผลตามกฎหมายที่ค่อนข้างซับซ้อน

สำหรับอียิปต์โบราณเอง เมื่อมีวัฒนธรรมการเขียนแล้ว ในสมัยอียิปต์โบราณเองก็มีการเขียนใบเสร็จเช่นเดียวกัน แต่ในยุคนั้น กระดาษปาปิรุสค่อนข้างเป็นของราคาแพง เป็นสิ่งประณีต แต่ในยุคอียิปต์โบราณจะมีวัตถุอีกประเภทเรียกว่า Ostracon คือจะเป็นเศษ (บางทีก็ชิ้นใหญ่) ของเครื่องปั้นดินเผาที่แตก ไปจนถึงเศษหินแบนๆ

เศษวัสดุเหล่านี้เป็นของราคาถูก หาได้ทั่วไป ชาวอียิปต์จึงใช้แทนเศษกระดาษ เอาไว้ใช้จดโน้ต คำนวณตัวเลข ใช้ให้เด็กๆ ฝึกเขียน ทำการบ้าน และแน่นอนใช้บันทึกหลักฐาน อย่างใบเสร็จก็ใช้เครื่องดินเผาแตกๆ เหล่านี้เขียนสิ่งต่างๆ ลงไป

อย่าลืมว่าใบเสร็จในสมัยโบราณ (รวมถึงในปัจจุบัน) ส่วนหนึ่งของพวกมันเป็นตัวเชื่อมข้อมูลของรัฐ และกิจกรรมในชีวิตประจำวันของผู้คน เป็นหลักฐานในการซื้อ-ขายเพื่อนำไปแสดงการซื้อ-ขายและการจ่ายภาษี ป้องกันการเก็บภาษีซ้ำ

เครื่องเก็บเงินที่โกงไม่ได้ กับมาตรฐานร้านค้า

จากยุคโบราณที่เราพบหลักฐานต่างๆ ในการค้าขายและการแสดงหลักฐานต่อรัฐ มาถึงในยุคสมัยใหม่ที่โลกขับเคลื่อนด้วยการค้า รอยต่อสำคัญของใบเสร็จ คือการเกิดขึ้นของเครื่องที่เราเรียกกันอย่างลำลองว่า ‘แคชเชียร์’ ซึ่งก็คือเจ้าเครื่องเก็บเงินที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี่แหละ

ทีนี้ เครื่องเก็บเงินเป็นอีกสุดยอดนวัตกรรมของโลกสมัยใหม่ ที่เปลี่ยนโฉมและช่วยกิจการได้ ซึ่งต้องย้อนไปในทศวรรษ 1870 ที่เมืองโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่นั่นมีเจ้าของบาร์ และทำกิจการขายสุรา บุหรี่และอื่นๆ ชื่อ ‘เจมส์ ริตตี้’

วันหนึ่งริตตี้เดินทางไปยุโรปด้วยเรือกลไฟ ในระหว่างเดินทางแกก็เป็นคนชอบประดิษฐ์ ชอบคิด และไปสะดุดกับกลไกการหมุนของกลไกการเดินเรือที่มันนับรอบการหมุนของใบพัดได้ เลยคิดได้ว่า ด้วยกลไกในทำนองเดียวกันนี้ เราก็น่าจะนำมานับยอดการซื้อ-ขายของกิจการของตัวเองได้

ดังนั้นจึงกลับไปประดิษฐ์เครื่องเก็บเงิน เครื่องเก็บเงินที่ฟังดูธรรมดา แต่แท้จริงแล้วมันกำลังแก้ปัญหาของกิจการในขณะนั้น คือเครื่องเก็บเงินที่ว่าทำหน้าที่สร้างความโปร่งใสในการซื้อ-ขาย เป็นเครื่องที่พนักงานจะหมุนตัวเลข เพื่อแสดงยอดการซื้อในครั้งนั้น ทำให้ผู้ซื้อมองเห็นและตอบรับยอดเงินได้ ตัวเครื่องจะทำหน้าที่บันทึกข้อมูล (ซึ่งค่อยๆ พัฒนาจากรุ่นแรกที่เครื่องจะบันทึกยอดคือการหมุนตัวเลขเป็นยอดรวมในแต่ละวัน จนกลายเป็นระบบม้วนกระดาษ มองเห็นยอดแต่ละครั้ง) ลงทันทีที่เกิดการซื้อ-ขายขึ้น เมื่อสิ้นสุดวัน เจ้าของกิจการหรือผู้จัดการก็จะสามารถตรวจสอบและจัดการกับยอดเงินได้ในทันที

ทางเจมส์ ริตตี้เอง ก็เผชิญกับปัญหาพนักงานแอบยักยอกเงินของลูกค้า คือไม่จดบันทึกรายการการซื้อ-ขายบางรายการ ทำให้กิจการสูญเสียรายได้ การประดิษฐ์ของเจมส์ ริตตี้ และน้องชาย จอห์น ริตตี้ จึงเป็นการแก้ปัญหากิจการของตัวเองก่อน หลังจากนั้นจึงมีการจดสิทธิบัตรและเริ่มตั้งโรงงานเพื่อผลิตเครื่องเก็บเงินเป็นอีกกิจการ

ในการพัฒนาเครื่องเก็บเงิน แรกเริ่มสุด ยังไม่มีลิ้นชักเก็บเงิน เป็นเครื่องแสดงตัวเลขเพื่อความโปร่งใส ภายหลังริตตี้เองจึงเริ่มพัฒนาให้มีลิ้นชักนิรภัยในการเก็บเงินสำหรับร้านค้าด้วย แต่หัวใจหนึ่งของเครื่องเก็บเงินหรือแคชเชียร์ต้านโกง คือการใส่เสียงกระดิ่งทุกครั้งที่มีการสรุปยอดขาย

ในรุ่นหลังๆ พัฒนาให้ทั้งเก็บข้อมูลประจำวันในกระดาษ คือริตตี้พัฒนาระบบม้วนกระดาษที่เครื่องจะบันทึกทุกยอดการขายลงในม้วนกระดาษด้วยการเจาะรู ทำให้มองเห็นการซื้อ-ขายทุกๆ ครั้ง ไปจนถึงเป็นเครื่องช่วยคำนวณราคาในการซื้อ-ขายนั้นๆ ทำให้ตัวเครื่องมีความสำคัญต่อเนื่องจากความโปร่งใส นำไปสู่ความถูกต้อง แม่นยำ ในการดำเนินกิจการมากขึ้นด้วย แถมยังเข้าใจพฤติกรรมผู้ซื้อที่ถี่ถ้วนขึ้น นำไปพัฒนาการขายหรือสินค้าต่อได้

ตรงนี้เองทั้งเครื่องที่ใช้แจ้งยอดในร้าน พัฒนาจนมีลิ้นชัก มีระบบม้วนกระดาษที่จะเก็บทุกๆ ยอดซื้อ จึงเป็นระบบต้นแบบของแคชเชียร์และใบเสร็จที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน นำไปสู่การปฏิวัติการค้าที่เจ้าของกิจการสามารถจ้างคนแปลกหน้ามาดูแลร้านได้ เริ่มเป็นระบบที่เข้าใจการตลาด การขาย การบัญชี พฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้การขายสินค้าเป็นจำนวนมากๆ จัดการและเข้าใจเป็นระบบได้ เป็นรากฐานที่สำคัญมากสำหรับธุรกิจกิจการ

เจ้าเครื่องที่ริตตี้คิดขึ้นนั้น เป็นระบบที่ซับซ้อน ประกอบกับตัวครอบครัวริตตี้เองทำร้านเหล้าและกิจการสุราทำให้ไม่มีเวลา ตัวเครื่องต้องการดูแล พัฒนา และบริการหลังการขาย หลังจากนั้นจึงขายสิทธิบัตรให้กับ จอห์น เอช. แพตเทอร์สัน (John Henry Patterson) หนึ่งในผู้บุกเบิกวงการการขายและการตลาด

ในนามของบริษัท National Cash Register Company (NCR) แพตเทอร์สันทำการพัฒนาเครื่องเก็บเงินให้กลายเป็นระบบและอุปกรณ์พื้นฐานของกิจการร้านค้าโดยทั่วไป ในที่สุด เครื่องเก็บเงินจึงกลายเป็นภาพและเสียงมาตรฐาน ทั้งลิ้นชัก การพิมพ์ใบเสร็จเป็นหลักฐาน และเสียงติ๊ง ที่เราทุกคนคุ้นเคย ในทศวรรษ 1910 บริษัท NCR ถือเป็นบริษัทด้านการพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา

หลังจากยุคที่เครื่องพิมพ์มากับเครื่องเก็บเงิน นวัตกรรมที่ต่อเนื่องคือระบบพิมพ์ด้วยความร้อน เริ่มมีกระดาษใบเสร็จแบบม้วน ทำให้การบันทึกใบเสร็จไม่จำเป็นต้องมีหมึกในการพิมพ์อีกต่อไป การพิมพ์ใบเสร็จจึงเป็นอีกสุดยอดนวัตกรรมที่ปรากฏทุกหนแห่ง เป็นหลักฐานจากการทำธุรกรรมที่เหมือนกับยุคโบราณ แต่กลายเป็นว่าเราเองสามารถบันทึกการซื้อ-ขายเล็กๆ น้อยๆ ได้ ทั้งด้วยความช่วยเหลือของการคิดค้นเครื่องแสดงมูลค่า ที่ค่อยๆ พัฒนาจนกลายเป็นอีกหัวใจของทุกร้านค้าและทุกบริษัทกิจการ

ทรัพย์คัลเจอร์ในครั้งนี้ พาทุกท่านเดินทางผ่านสลิปขนาดจิ๋วในมือ ผ่านห้วงเวลานับพันๆ ปี ที่การค้าขายและภาษาแทบจะเกิดขึ้นพร้อมกับอารยธรรมมนุษย์ และใบเสร็จก็คือหลักฐานการค้าขาย รวมถึงเป็นข้อผูกมัดอันซับซ้อนที่ไม่ได้มีแค่สินค้า แต่มีหลักเกณฑ์ มีกฎหมาย มีเงื่อนไขของรัฐที่มีต่อพลเมือง มีความรับผิดชอบของธุรกิจกิจการที่มีต่อผู้คน และมีธุรกรรมในชีวิตประจำวันถูกบันทึกไว้

ในวันที่ทุกอย่างกลายเป็นดิจิทัล แต่เราเองก็ยังต้องเก็บใบเสร็จยิ่งของล้ำค่า ใบเสร็จถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุที่ถือว่าขับเคลื่อนโลกธุรกิจ ที่มีนวัตกรรมและเรื่องราวมากมายแอบแฝงอยู่

อ้างอิงข้อมูลจาก

smithsonianmag.com/smart-news/researchers-decipher-cuneiform-tablet-and-discover-its-a-furniture-receipt-180984805/?utm_source=chatgpt.com

penn.museum/sites/expedition/clay-tablets-to-text-messages/?utm_source=chatgpt.com

ncr.org.uk/james-ritty

ancientegyptonline.co.uk/ostracon/

thoughtco.com/cash-register-james-ritty-4070920

ibsc.lv/en/kad-radas-pirmais-kases-aparats/

britannica.com/money/John-Henry-Patterson

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Capital

mixed-use เพราะออฟฟิศ ห้าง โรงแรม และคอนโด รวมอยู่ในที่เดียวกันได้

1 วันที่แล้ว

เบื้องหลังความขบถของเหล่าคุณยาย Radical Grandma Collective ที่ทอผ้าต่อต้านการสร้างเหมือง

2 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

William Est WE Magnetic FANCON เมื่อขั้วแม่เหล็กต่างขั้วแต่ลงตัว สร้างแรงดึงดูดแห่งรอยยิ้ม

THE STANDARD

หัวใจแตกสลาย หลังเหตุการณ์รุนแรง PTSD แผลใจที่ไม่อาจมองข้าม

ประชาชาติธุรกิจ

เพราะ ‘แม่’ คือ ความรักที่ดุดัน

The Momentum
18
+

ผู้ชายต้องรู้! 9 เทคนิคเด็ดปลุกอารมณ์ให้สาวหลงแบบถอนตัวไม่ขึ้น

sanook.com

กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จเปิดงาน “สานสายใยเพื่อผลิตภัณฑ์สายใจไทย ครั้งที่ 27”

Manager Online

เปิดค่าเทอม NIST โรงเรียนในฝันที่พ่อแม่ยอมจ่ายหลักล้าน เพื่ออนาคตลูก

Amarin TV

มุ่งสู่โลกดึกดำบรรพ์ Jurassic World: The Experience อิมเมอร์ซีฟสุดยิ่งใหญ่ท่ามกลางไดโนเสาร์เสมือนจริงใจกลางกรุงเทพฯ

TNN ช่อง16

เติมรสให้คอนเทนต์สไตล์กิ๊ก-อารยา เพจวันนี้กินไรดีวะ

Gourmet & Cuisine

ข่าวและบทความยอดนิยม

เบื้องหลังความขบถของเหล่าคุณยาย Radical Grandma Collective ที่ทอผ้าต่อต้านการสร้างเหมือง

Capital

ส่องเทรนด์เฮลตี้ที่ชวนมา Move, Groove, Connect แบบเป็นแก๊งกับสปอร์ตคลับ

Capital

คุยกับ ‘คุ้ย ทวีวัฒน์’ ถึง ‘ท่าแร่’ และตำราความหลอนที่นำ 13 Studio ยืนหยัดในธุรกิจหนังไทย

Capital
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...