โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยจากเฟด

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยจากเฟด ล่าสุด FedWatch Tool ชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 90% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือน ก.ย.นี้

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2568 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (5/8) ที่ระดับ 32.32/33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (4/8) ที่ระดับ 32.43/45 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากค่างินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่อ่อนแอตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

โดยขณะนี้ นักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 21-23 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 3 ครั้งที่เหลือในปีนี้

ล่าสุด FedWatch Tool บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือน ก.ย.หลังจากที่ให้น้ำหนักราว 60% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ยังให้น้ำหนักถึง 36% ที่จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งต่อเนื่องในเดือน ต.ค. และ ธ.ค. ครั้งละ 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มคาดการณ์การลดดอกเบี้ยอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีสหรัฐว่า ภายหลังจากสหรัฐประกาศภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่จะจัดเก็บกับสินค้านำเข้าจากไทยในอัตรา 19% ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 68 เป็นต้นไป ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษได้เห็นชอบข้อตกลงร่วมระหว่างไทย-สหรัฐไปแล้วนั้น ขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างจัดทำแถลงการณ์ร่วมไทย-สหรัฐและลงนามร่วมกัน เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการว่าทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบในหลักการ ที่จะทำงานร่วมกันต่อไปในเรื่องภาษีตอบโต้

ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 32.30-32.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 32.36/32.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร เปิดตลาดเช้าวันนี้ (5/8) ที่ระดับ 1.1573/74 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (4/8) ที่ระดับ 1.1573/74 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สหภาพยุโรป (EU) ประกาศเมื่อวันจันทร์ (4/8) ว่าจะระงับแผนการขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐเป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งเดิมมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาจัดทำแถลงการณ์ร่วมด้านการค้า หลังจากผู้นำทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นเมื่อวันที่ 27 ก.ค.

โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเพิ่งประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับ EU ซึ่งรวมถึงการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจา EU ในอัตรา 15% ในหลายรายการ รวมถึงรถยนต์ ขณะที่ EU จะยกเลิกภาษีสินค้าส่งออกจากสหรัฐหลายรายการ โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรม

ในส่วนของตัวเลขทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ผลสำรวจระบุว่า ภาคบริการของเยอรมนีเริ่มต้นครึ่งปีหลังด้วยสัญญาณเชิงบวก โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของเยอรมนีจาก HCOB ประจำเดือน ก.ค. ได้ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน มาอยู่ที่ 50.6 จาก 49.7 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 50.1

อย่างไรก็ตาม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของฝรั่งเศส โดย HCOB ได้ร่วงลงสู่ระดับ 48.5 ในเดือน ก.ค. จาก 49.6 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. โดยมีปัจจัยกดดันหลักมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซา ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-บริการของยูโรโซน หดตัวสู่ระดับ 50.9 ในเดือน ก.ค. จากระดับ 52.0 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 51.0

ทั้งนี้ จากปัจจัยที่ผสมผสานทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในระหว่างวันวันนี้ (5/8) ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1587-1.1530 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1535/36 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (5/8) ที่ระดับ 146.97/98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (4/8) ที่ระดับ 147.56/57 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินเยนเคลื่อนไหวแข็งค่าตามการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

ล่าสุดธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือน มิ.ย. โดยระบุว่า กรรมการบางคนมองว่า BOJ ยังคงมีโอกาสที่จะกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเมื่อความขัดแย้งด้านการค้าที่เกิดจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐเริ่มคลี่คลายลง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการทำข้อตกลงการค้าล่าสุดระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ ได้ช่วยขจัดอุปสรรคสำคัญในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย BOJ

นอกจากนี้ คณะกรรมการที่ปรึกษากระทรวงแรงงานของญี่ปุ่นมีมติเมื่อวันจันทร์ (4/8) ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำรายชั่วโมง โดยเฉลี่ยทั่วประเทศ 63 เยน หรือ 6% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,118 เยน (7.6 ดอลลาร์) สำหรับปีงบประมาณ 2568 ท่ามกลางค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น

ในวันนี้ (5/8) ผลสำรวจภาคเอกชนระบุว่า กิจกรรมภาคบริการของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค. ขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบ 5 เดือน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายจาก S&P Global ปรับขึ้นสู่ระดับ 53.6 จาก 51.7 ในเดือน มิ.ย. ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่นขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 51.6 ในเดือน ก.ค. จาก 51.5 ในเดือน มิ.ย. สะท้อนการเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ.

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายวันนี้ (5/8) สำนักงานคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นวางแผนที่จะลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศในปีงบประมาณ 2025 จากประมาณ 1.2% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมกราคม โดยการปรับลดการคาดการณ์ครั้งนี้จะคำนึงถึงผลกระทบของนโยบายภาษีของสหรัฐต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น แม้ว่าตัวเลขการคาดการณ์ใหม่จะไม่ได้ระบุไว้ในรายงานก็ตาม ส่งผลให้ค่าเงินเยนปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาด ทั้งนี้ในระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 146.60-147.63 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ 147.58/59 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับปัจจัยที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดนำเข้า ยอดส่งออกและดุลการค้าเดือน มิ.ย.สหรัฐ (5/8),ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน ก.ค.จาก S&P Global สหรัฐ (5/8), ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (7/8), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดา สหรัฐ (7/8), สต๊อกสินค้าคงทนภาคค้าส่งเดือน มิ.ย. สหรัฐ (7/8)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -8.2/-8.1 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -6.5/-5.2 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยจากเฟด

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

กรมอุตุนิยมวิทยา วันนี้ เตือนฝนกระจายเพิ่ม-ตกหนัก 12-18 ส.ค.นี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันพรุ่งนี้ (6 ส.ค. 68) เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลด 40 สต. มีผลตี 5

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

[Vision Exclusive] TOG ผ่านจุดต่ำสุด ย้ำตลาดสหรัฐยังโต

หุ้นวิชั่น

[Vision Exclusive] HL ดัน Super Drug ขึ้นแท่นดาวรุ่ง

หุ้นวิชั่น

ทรู กำไร 2 พันล้านบาท ไตรมาส 2/68 แม้รายได้มือถือลดลงบ้าง

Amarin TV

CK คาดQ2 งบสวย งานในมือแน่น หนุนโตต่อ

หุ้นวิชั่น

แอกซ่าประกันภัยจับมือมูลนิธิรักษ์ไทย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ

สยามรัฐ

หลายประเด็นหลายมุมมองกับข้อยกเว้น "ภัยสงคราม"กับ"สินไหมกรุณา"

สยามรัฐ

หุ้น Alibaba จังหวะสะสม ธุรกิจCloud-AI เด่นเข้าตา

หุ้นวิชั่น

ทิพยประกันภัย ให้การต้อนรับทีมนักกีฬาสุพรีม ทิพย ชลบุรี-อี.เทค หลังคว้าแชมป์ไทยแลนด์ลีก 2024–2025

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่อง นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยจากเฟด

ประชาชาติธุรกิจ

THAI เทรดวันที่สอง ทะยานขึ้นมาที่ 12 บาท เก็งกิจการกลับมาแกร่ง

ประชาชาติธุรกิจ

หุ้นไทยทะยานต่อ วันนี้ (5 ส.ค.) ปรับขึ้น 17.56 จุด แรงซื้อเข้าต่อเนื่อง

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...