"ธรรมนัส" เปิดใจหลังพบ "ทักษิณ" ถกแผนกันภาษีทรัมป์ ‑ ย้ำปกป้องเกษตรกรไทยเป็นอันดับแรก
ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เปิดเผยว่าในช่วงเช้าที่วันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมาพบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหามาตรการรับมือกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งไปในนามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พรรคกำกับดูแล ขณะเดียวกันตนเองได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม ในฐานะเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เมื่อถามว่านายทักษิณกเป็นห่วงถูกฟ้องเรื่องการครอบงำหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า ในการหารือวันนี้ไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล แต่เชิญในฐานะผู้ที่ มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ไปหารือ
เมื่อถามว่านายทักษิณให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า แต่ละฝ่ายที่ร่วมประชุมให้ข้อเสนอ และที่ประชุมเห็นตรงกันว่า การดพเนินการต้องคำนึงถึงคนไทยเป็นอันดับแรก
“โดยเฉพาะภาคการเกษตร ซึ่งนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯเน้นย้ำการคำนึงถึง พี่น้องเกษตรกร และไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องเกษตรกร ที่ถือว่าเป็นนัยยะเรื่องสำคัญ โดยในที่ประชุมวันนี้คุยเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง มีเพียงการพูดคุยเรื่องการยกระดับมาตรฐานภาษีของสหรัฐอเมริกา“ ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ชี้การเมืองไม่มีมิตรแท้ไม่มีศัตรูที่ถาวร ลั่นพรรคกล้าธรรมไม่เคยสร้างศัตรู
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ว่า เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน ส่วนเรื่องเสียงพรรคร่วมรัฐบาลปริ่มน้ำ ได้หยิบยกชี้ให้เห็นว่ายุครัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนั้นก็เสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนเองได้คุมเสียงในสภาไม่มีปัญหาอะไรผ่านมาได้ หากพรรคร่วมรัฐบาลสามัคคีและนำตัวเลขมาคุยกันเชื่อว่าองค์ประชุมจะรอดไปได้
“ ถ้าคนอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน เริ่มมาตั้งแต่ปี 2541 สมัยพรรคไทยรักไทยเห็นอะไรมาเยอะ สถานการณ์การเมืองณเวลานี้ ผมอยู่วงในผมรู้ รู้ว่าสถานการณ์การเมืองตอนนี้เอาอยู่หรือไม่เอาอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรากับพรรคร่วมจะต้องคุยกัน ถามว่าสถานการณ์อย่างนี้ มีเสถียรภาพหรือไม่ มันอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจับมือกันก็มีเสถียรภาพ” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
เมื่อถามว่าในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคกล้าธรรมว่าจะเสนอบุคคลดำรงตำแหน่งหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า พรรคกล้าธรรมมีสิทธิเสนอ โดยจะให้ สส.ในพรรคหารือกันเรื่องนี้ เพราะพรรคมีความเป็นประชาธิป 100% ที่ต้องถามเสียงส่วนใหญ่ โดยมอบหมายเลขาธิการพรรคไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนักการเมืองด้วยกันได้คุยเหมือนเดิมหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า อย่างที่เห็นภาพในสภาก็มีแต่พูดคุยเหมือนเดิม และไม่เคยสร้างศัตรูทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล
ร้อยเอกธรรมนัสยังกล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร กล่าวไว้ว่าการจะดึงพรรคภูมิใจไทยกลับมามีความเป็นได้ว่า ทุกอย่างการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีมิตรแท้และไม่มีศัตรูที่ถาวร เพราะด่ากันในสภาออกมาก็กอดคอกัน อย่าคิดมาก
เมื่อถามว่าหากมองสถานการณ์การเมืองขณะนี้นายอนุทินมีโอกาสหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัสระบุว่า การเมืองในตำแหน่งผู้นำจะมีโอกาสหรือไม่มีโอกาสอยู่ที่เสียง สส.หรือโหวตเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ก็มีโอกาสทุกคน
เมื่อถามว่าการรองรับกรณีอุบัติเหตุทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าวันที่นัดพรรคร่วมรัฐบาลหารือกัน คงต้องคุยกันในเรื่องนี้ และย้ำว่าในฐานะที่ดูแล สส.กว่า 30 คนต้องรักษาเสียงให้เต็มตลอดเวลา ในการโหวตทุกครั้ง อย่างการโหวตในวันพุธที่ผ่านมาเสียงพรรคกล้าธรรมเต็มทุกครั้งไม่มีขาด
เมื่อถามถึงการเมืองยังไม่ถึงทางตันใช่หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่าถ้าประสบการณ์ที่ทำการเมืองมา เสียงปริ่มน้ำ เป็นเสียงที่เตือน สส.ว่าต้องพร้อมในการโหวตเรื่องทุกวาระ ไม่น่ามีปัญหาถ้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคกำชับเสียง
เมื่อถามว่ามีโอกาสเปลี่ยนขั้วการเมืองหรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ย้ำว่าการเมืองไม่มีอะไรที่แน่นอน ส่วนเสียงรัฐบาลตอนนี้มีราว 260 เสียง และปฏิเสธดีลเสียง 3 สส.พรรคภูมิใจไทย มาหนุนแนวทางของรัฐบาล หรือเสียงของฝ่ายค้านมาหนุนรัฐบาล
เผยจัดสัมนาพรรคโชว์ความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง
ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนาพรรคกล้าธรรม ในวันที่ 11 -13 กรกฎาคมครั้งนี้ว่า เป็นการจัดสัมมนาของพรรคกล้าธรรมครั้งแรก มี ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละภาค มาแสดงพลังว่าเราพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้น และเพิ่มความสนิทสนมของสมาชิกพรรค ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เราก็พร้อม ทั้งนี้การเป็นนักการเมือง โดยเฉพาะหากเป็นสถาบันการเมืองก็ต้องมีความพร้อม นักการเมืองพร้อมเสมอ ดังนั้นการจัดเวทีสัมมนาครั้งนี้ก็เป็นการประกาศ ให้สมาชิกพรรคเรารู้ว่าเรามีความพร้อม
เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคประเมินแล้วใช่หรือไม่ว่าอาจจะมีการเลือกตั้งในเร็วๆนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตามกรอบเวลาอย่างไรก็ไม่เกินปี 2570 ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเวลาแค่หนึ่งปีกว่า ซึ่งมองว่าไม่นานแป๊บเดียวเท่านั้น ดังนั้นต้องมีความพร้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมจะชูยุทธศาสตร์อะไรในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเราได้รับมอบหมายให้กำกับ 2 กระทรวงใหญ่ คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นเราจะเน้นเรื่องของคนฐานราก โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา กับเรื่องของพี่น้องเกษตรกร รวมถึงผู้ใช้แรงงานภาคการเกษตร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งหมดกว่า 50 ล้านคน โดยพรรคกล้าธรรมจะชูวิธีการให้คนเหล่านี้พ้นกับดักความยากจน