โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

4 ความท้าทายเศรษฐกิจไทย แขวนอยู่บนเส้นด้าย "ภาษีทรัมป์" 36%

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันนี้ (17 กรกฎาคม 2568) ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เปิดเผยบทความพิเศษเรื่อง ความท้าทายโค้งสุดท้ายเจรจาภาษีทรัมป์ 36% ว่า ประเทศไทยถูกมาตรการภาษีโต้ตอบขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) หลังจากพ้นกำหนด 90 วัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้า 36% หากไม่นับลาว เมียนมา กัมพูชา เป็นอัตราภาษีที่สูงที่สุดในอาเซียน

ขณะที่เวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญถูกเก็บภาษีอัตรา 20% (ยังไม่ชัดเจนว่าภาษีแท้จริงเท่าใด) โดยภาษีอัตราใหม่จะมีผลบังคับวันที่ 1 สิงหาคม ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ทีมเจรจาที่เรียกว่า “Thailand Team” กล่าวว่าอัตราภาษีออกมาก่อนข้อมูลและความจำนงของไทยที่ส่งไปตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

โดยระบุว่า มีการกลับมาทบทวนและจะมีการปรับปรุงอัตราภาษีที่ไทยถูกเรียกเก็บ ถือเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงและมีความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นตามมา กระทรวงการต่างประเทศไทย ได้มีการหารือกับนายมาร์โก แอนโทนีโอ รูบิโอ รมว.กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ โดยทางสหรัฐฯ ระบุว่าการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อัตราภาษี 36% ต่อไทยไม่ได้เป็นสิ่งตายตัว แม้ว่าจะผ่านเส้นตายที่กำหนด โดยสหรัฐฯ พร้อมเจรจาต่อรองแก้ไขขึ้นกับผลของการเจรจาและข้อเสนอของไทย

สำหรับข้อเสนอของไทยที่อยู่ระหว่างการเตรียมการยื่นให้กับสหรัฐอเมริการอบ 2 อาจมีการลดภาษี “อัตราภาษี 0” สำหรับสินค้านำเข้าสหรัฐฯ บางประเภท พร้อมทั้งข้อเสนอการซื้อสินค้าและการลงทุนเพื่อให้สหรัฐอเมริกาปรับลดภาษี ความท้าทายคือ

ประการแรก

“อัตราภาษี 0%” มีแนวโน้มที่ไทยจะเสนอครอบคลุมสินค้าประมาณ 90% รวมถึงสินค้าเกษตร เช่น เนื้อหมู-เนื้อวัว ไก่เนื้อ ที่จะใช้กับการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาจะไม่กระทบกับผู้ผลิตภายในประเทศโดยเฉพาะภาคเกษตรกรรม-ปศุสัตว์ จากข้อมูลสินค้านำเข้าสหรัฐฯ เชิงมูลค่า (USD) ปีที่ผ่านมาประเภทเชื้อเพลิง-แก็ส สัดส่วนร้อยละ 26.52

ประเภทวัตถุดิบสัดส่วนร้อยละ 29.7 สินค้าประเภทเครื่องจักร สัดส่วนร้อยละ 23.77 ยานพาหนะร้อยละ 4.7 เครื่องบินร้อยละ 3.6 อาวุธยุทโธปกรณ์ร้อยละ 4.5

โดยเป็นสินค้าอุปโภค-บริโภคซึ่งจะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประเภท SMEs สัดส่วนร้อยละ 7.1 ด้านการนำเข้าสินค้าเกษตรเกี่ยวข้องเกษตรกรกว่า 2 ล้านครัวเรือนอาจทำให้อาชีพเลี้ยงหมูและเลี้ยงไก่ล่มสลายมีการคัดค้านไม่ควรเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ

ประการที่สอง

การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกา นอกจากประเด็นมี “อัตราภาษี 0” โดยหวังว่าจะทำให้การนำเข้าสูงขึ้นเพื่อลดการขาดดุลการค้าจำเป็นต้องนำปัจจัย เช่น ประเทศคู่ค้านำเข้า (หลัก) ของไทย เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ซึ่งมีข้อตกลง FTA ได้รับการยกเว้นภาษีขาเข้าและสินค้าของประเทศเหล่านี้ถูกกว่าของสหรัฐฯ รวมถึงประเด็นอื่นๆ ที่ซ่อนเร้นว่ามีอะไรบ้าง เช่น การให้สหรัฐฯ ใช้ฐานทัพเรือที่ทับละมุ จ.พังงา ซึ่งอาจกระทบความสัมพันธ์กับประทศจีน

ประการที่สาม

ค่าขนส่งสินค้าทางเรือหรือ “Freight Charge” จากสหรัฐฯ มาไทยค่อนข้างสูงกว่า ยกตัวอย่างอัตราค่าระวางเรือตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟิต จากท่าเรือลอสแองเจลิส (LA Port) เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2568 ราคาตู้ละ 638 USD/TEU เป็นราคาที่ต่ำเมื่อเทียบกับส่งออกราคา 5,500 USD/TEU ราคาค่าระวางเรือจากสหรัฐฯเมื่อเทียบกับราคาค่าขนส่งจากท่าเรือเซียงไฮ้อัตราตู้ละ 100 USD/TEU, ท่าเรือโตเกียว 350 USD/TEU, ท่าเรือโฮจิมินห์ (เวียดนาม) 80 USD/TEU

หากเป็นตู้เย็น (Reefer Container) กรณีขนส่งหมูแช่แข็งราคาพุ่งสูงถึงตู้ละ 4,300 USD/TEU จะเห็นได้ว่าสินค้าสหรัฐฯ จะเข้ามาแข่งขันในตลาดไทยคงไม่ง่าย กรณีนี้ทีมเจรจาของไทยหากไปสัญญาว่าจะลดการขาดดุลได้ในปีใด เช่น ภายใน 6 ปีดุลการค้าไทย-สหรัฐฯ จะสมดุลกันคงต้องระบุข้อแม้ว่าขึ้นอยู่กับราคาต้องแข่งขันเสรี

ประการที่สี่

ประเด็นที่สหรัฐฯ กังวลคือการสวมสิทธิสินค้าโดยใช้ถิ่นกำเนิดของไทยที่ ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกว่า “Transship” หมายถึงการนำเข้าสินค้าจากประเทศหนึ่ง โดยใช้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นทางผ่านไปท่าเรืออีกประเทศหนึ่งซึ่งสินค้ายังคงสถานะเป็นแหล่งกำเนิดของประเทศต้นทาง เช่น ประเทศจีน ที่ผ่านมามีการนำเข้าสินค้าแล้วลากตู้ออกจากท่าเรือแหลมฉบังไปเขต “Free Zone” ซึ่งได้รับสิทธิไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า แต่มีการยักย้ายเอาสินค้าออกจากตู้ไปใส่ตู้ส่งออก

โดยมีกระบวนการออกใบรับรองถิ่นกำเนิดผลิตในประเทศไทย (C/O) ไปสหรัฐฯ เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (ที่กล่าวนี้เป็นเพียงการยกตัวอย่าง) การดำเนินงานมีกระบวนการซึ่งจะต้องมีการควบคุมตรวจสอบอย่างเป็นระบบและแจ้งให้ทางสหรัฐฯ ทราบเพื่อจะได้ไม่ยกมาเป็นข้ออ้าง

ดร.ธนิต กล่าวว่า ความเป็นห่วงของภาคเอกชนหากไม่สามารถเจรจากับสหรัฐฯ โดยพ้นกำหนดเส้นตาย 1 สิงหาคมไปแล้วจะสร้างความเสียหายต่อภาคการส่งออกประมาณ 8 – 9 แสนล้านบาท จากตัวเลขการส่งออกทั้งหมดที่ไปสหรัฐฯ 1.9 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 47.36% มีผลกระทบต่อการลงทุนและการย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำกว่าไทย

ทั้งนี้ผลกระทบยังไปถึงการลดลงของสายการผลิต กดดันให้มีการปลดลดแรงงานมีผลต่อเนื่องไปถึงการบริโภค สภาพคล่องธุรกิจ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นและหนี้เสียของสถาบันการเงิน (NPL)

ผลที่ตามมาคืออัตราการขยายตัวของ GDP จะลดลง ส่วนจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับการเจรจาลดอัตราภาษีให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะจะต้องไม่สูงกว่าประเทศเวียดนาม ภายใต้โครงสร้างต้นทุนการผลิตของเวียดนามที่ต่ำกว่าไทยโดยเฉพาะค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 4.960 ล้านด่อง (189.92 USD) ประมาณ 6,267 บาทต่อเดือน หรือเฉลี่ยวันละประมาณไม่เกิน 250 บาท

ขณะที่ค่าแรงของไทย กทม. 400 บาทต่อวัน และรัฐบาลยังมีนโยบายเร่งปรับให้สูงขึ้นเพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง เช่นเดียวกับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยค่อนข้างต่ำกว่าเวียดนาม หากเจอภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ในอัตราที่สูงกว่าจะกระทบการส่งออกอย่างรุนแรง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

พิกัด กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี ไฟฟ้าดับวันนี้ 18-20 ก.ค.นี้

27 นาทีที่แล้ว

สภาพอากาศวันนี้ -23 ก.ค.ไทยฝนฉ่ำ เตรียมรับมือฝนเพิ่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

57 นาทีที่แล้ว

ทักษิณ คอนเฟิร์ม "ผู้ว่าแบงก์ชาติ" คนใหม่ เข้า ครม.สัปดาห์หน้า

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'ทักษิณ' โชว์ 23 วิสัยทัศน์ 'แก้เศรษฐกิจ-การเมือง' ปลดล็อกไทยพ้นวิกฤต

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

ทักษิณ แย้ม ครม.สัปดาห์หน้าเคาะ “ผู้ว่าฯ ธปท.” คนใหม่

อีจัน

ประชุม คกก. คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร เห็นชอบ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเก็บรักษาและแปรรูปลำไยด้วยการอบแห้งหรือรมด้วยก๊าซซันเฟอร์ไดออกไซด์

สวพ.FM91

Broker ranking 17 Jul 2025

Manager Online

“ทักษิณ” อุบชื่อผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ ยืนยันเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

PostToday

“ทักษิณ” ชี้ไทยยังไม่ไปไหนติดหล่มปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ

การเงินธนาคาร

BBL อวดกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 เติบโต 9.5% แตะ 24,458 ล้าน

PostToday

‘ทักษิณ’ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย ผุดใช้คริปโตซื้อของได้ ฝึกเทรนเอไอให้คนไทย

เดลินิวส์

ONYX ปรับอิมเมจโรงแรม “อมารี” ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าที่แตกต่าง

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...