เพิ่งเคยได้ยิน! ครูชี้ ไม่ใช่การดูดวง แต่ดู "ทรงผม" ของนักเรียน ก็รู้ได้อนาคตจะสุขหรือทุกข์?
ครูประสบการณ์ 25 ปี เผยไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ แต่แค่ "ดูผมเด็กหญิง" ก็รู้ว่าชีวิตเธอจะสุขหรือทุกข์!
ครูประถมคนหนึ่งจากเมืองกวางโจว ประเทศจีน แชร์ประสบการณ์กว่า 25 ปีในการสอนเด็กๆ และเผยว่าเธอสามารถเดาได้ว่าชีวิตของเด็กหญิงคนใดจะเป็นอย่างไร แค่เพียงดูจากสภาพผมของเด็กคนนั้นเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอนาคตการเรียนหรืออาชีพ แต่เป็นเรื่องของวิถีชีวิตและการเลี้ยงดูที่เธอได้รับ
เธอกล่าวว่า ผมของเด็กหญิงนั้นเป็นตัวบ่งบอกอย่างเงียบๆ ว่าเด็กคนนั้นได้รับความรักและการดูแลอย่างไรจากครอบครัว เช่น ผมสะอาดหรือเปล่า ถูกดูแลอย่างอ่อนโยนหรือไม่ หรือบางครั้งเด็กต้องผูกผมแน่นด้วยยางเก่าที่รัดแน่นจนเจ็บหนังศีรษะ ทั้งที่เหงื่อเปียกชื้น แต่ก็ยังถูกบังคับให้ดูเรียบร้อย ซึ่งสะท้อนถึงความเครียดหรือความกดดันในชีวิตของเด็กคนนั้น
ทั้งนี้ เธอยังได้เล่าถึงเด็กหญิงชั้นประถมปีที่ 3 คนหนึ่ง ที่ผมยาวยุ่งเหยิง และถูกมัดผมสูงด้วยยางรัดที่รัดแน่นมาก เด็กบอกว่า“ครูคะ หัวหนูเจ็บมาก แต่แม่บอกว่าผูกแบบนี้จะดูเรียบร้อย” ซึ่งสะท้อนว่าความรักของแม่เต็มไปด้วยการควบคุมและบังคับ มากกว่าการปล่อยให้เด็กได้แสดงออกตามความต้องการของตัวเอง
ครูย้ำว่า สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ในสายตาของผู้ใหญ่ อาจถูกมองข้าม แต่สำหรับเด็ก มันคือโลกทั้งใบ ผมไม่ใช่แค่เรื่องรูปลักษณ์ แต่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ความสบายใจ และสิทธิ์ในการเลือกของเด็ก หากตั้งแต่เด็กไม่ได้รับอนุญาตให้เลือกทรงผมตามใจ หรือถูกบังคับให้ทำตามความต้องการของคนอื่น จะทำให้เด็กชินกับการไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจในชีวิตตัวเองในอนาคต
จากการสอบถามเด็กหญิงหลายคน พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นคนตัดสินใจเรื่องทรงผมเอง และมักได้ยินคำพูดจากผู้ใหญ่เช่น “แม่บอกว่าผมยาวจะดูอ่อนโยนกว่า” หรือ“พ่อบอกว่าผมสั้นดูไม่ดี” คำพูดเหล่านี้กลายเป็นบรรทัดฐานที่ถูกฝังในใจเด็ก
ครูไม่ได้ปฏิเสธว่าผู้ปกครองรักลูก แต่บอกว่าความรักนั้นไม่เท่ากับความเข้าใจและการให้เกียรติ เด็กควรได้รับการถามถึงความคิดเห็น เช่น“หนูชอบทรงผมนี้ไหม?”, “หนูอยากตัดผมหรือเปล่า?”, “รู้สึกเจ็บหัวไหม?” เพราะคำถามเหล่านี้ช่วยให้เด็กรู้สึกว่าตนเองมีสิทธิ์มีเสียง และได้เรียนรู้การเลือกตั้งแต่ยังเด็ก
เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงตัดสินใจดูอนาคตเด็กจากผม ครูตอบว่าผมเปรียบเสมือนกระจกสะท้อนว่าเด็กได้รับการมองเห็นในฐานะบุคคลอิสระ หรือถูกมองเป็นแค่สิ่งที่ต้องถูกควบคุมและจัดการ ผมที่ยุ่งเหยิงหรือไม่มีใครดูแล อาจสะท้อนถึงครอบครัวที่ยุ่งวุ่นวายหรือขาดความเอาใจใส่ ขณะที่ผมที่ดูเรียบร้อยแต่เข้มงวดเกินไปก็อาจมาจากความคาดหวังที่สูงเกินจริงของผู้ปกครอง
ครูยังเล่าด้วยว่า เธอพบเด็กหญิงที่มีผมสั้น ตัดเองได้ เลือกทรงผมเอง และดูแลตัวเองอย่างมั่นใจ เด็กกลุ่มนี้มักกล้าแสดงออก กล้าปฏิเสธสิ่งที่ไม่ชอบ และครูเชื่อว่าเด็กเหล่านี้จะเป็นคนที่สามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้ในอนาคต เพราะพวกเขาเริ่มฝึกทำสิ่งเล็กๆ อย่างการเลือกทรงผมตั้งแต่ยังเด็ก
สำหรับผู้ปกครอง คำแนะนำของครูคือ อย่ารอจนเด็กโตแล้วค่อยมาพูดเรื่องการเคารพสิทธิ์ในร่างกายและความเป็นตัวเอง การเริ่มต้นตั้งแต่เรื่องเล็กๆ อย่างการถามความคิดเห็นเด็กก่อนตัดผม หรือการผูกผมอย่างอ่อนโยน จะช่วยให้เด็กเติบโตด้วยความมั่นใจและรู้จักรักตัวเอง
หลังจากสอนเด็กมากว่า 25 ปี ท้ายที่สุดครูท่านนี้ย้ำว่า เด็กหญิงที่ได้รับความรักและการเคารพอย่างแท้จริง จะมีดวงตาที่มั่นใจ ท่าทางที่เข้มแข็ง และแม้ผมจะไม่สวยสมบูรณ์แบบ แต่ผมเหล่านั้นจะเป็นของเด็กจริงๆ การมองผมเด็กๆ จึงเป็นเสมือนการสะท้อนวิธีที่เรามองลูกหลานและเป็นบททดสอบว่าเราปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไรในฐานะผู้ปกครอง