‘สุชาติ’ จี้สำนักพุทธฯ หาทางเอาผิด ‘ผู้ล่อลวงพระเสพเมถุน’ เร่งปรับแก้ก.ม.คณะสงฆ์
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวภายหลังเข้าสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ประธานสมัชชามหาคณิสสร และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรฯ กรรมการมส. เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ว่า ได้มาเข้าสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เพื่อขอคำแนะนำในการดำเนินการเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับคณะสงฆ์ขณะนี้ ซึ่งทำให้เกิดวิกฤติศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยได้รับคำแนะนำว่า เรื่องปัญหาคณะสงฆ์เป็นเรื่องที่มส.ดำเนินการอยู่ ได้ประชุมวาระพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว ทั้งมีการรายงานตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าดำเนินการจับกุมพระสงฆ์ต่อมส.แล้ว โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ฝากว่า ตำรวจที่เข้าไปจับกุมไม่รู้หลักพระวินัยเท่ากับคณะสงฆ์ จึงอยากให้พศ.ทำงานบูรณาการร่วมกับมส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขอให้นำข้อมูลมาให้เจ้าคณะผู้ปกครองดำเนินการ ซึ่งตนจะทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป ขณะเดียวกันสมเด็จพระพุฒาจารย์ และสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ได้แสดงความกังวลถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะสร้างความเสื่อมเสียให้กับพระพุทธศาสนา โดยท่านยืนยันว่าเตรียมจะทำหนังสือเรียกตัวพระที่เกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟแล้วหายตัวไปมารายงานตัวโดยด่วนแล้ว
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องร่างพ.ร.บ.ส่งเสริมพุทธศาสนิกชนในการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. … นั้น ที่ประชุมมส.ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าให้ไปปรับแก้พ.ร.บ.คณะสงฆ์แทน ซึ่งต้องมีการหารือเพิ่มเติม เพื่อหาทางดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่ไปล่อลวงเสพเมถุนกับพระ เพราะเท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายเอาผิดกับผู้ที่ล่อลวงพระไปเสพเมถุนได้ โดยการปรับแก้พ.ร.บ.คณะสงฆ์ จะหาทางดำเนินการให้เร็ว ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอีก เพื่อไม่ให้กระทบต่อศรัทธาของประชาชน ส่วนที่ถามว่ามาตรา 206 ตามประมวลกฎหมายอาญาจะสามารถดำเนินการในเรื่องนี้ได้หรือไม่ ได้มอบให้พศ.ไปศึกษาแล้ว ว่านำมาบังคับใช้ได้หรือไม่ โดยกำชับให้พศ.ดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน นอกจากนี้ยังให้พศ.ทำงานเชิงรุก ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) แต่ละพื้นที่ ต้องทำงานหาข่าวด้วย ว่าพระรูปใดมีพฤติกรรมเสื่อมเสีย เพื่อที่จะเข้าไปป้องปราม ไม่ใช่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเรื่องก่อนแล้วเข้าไปดำเนินการ ส่วนเรื่องเงินวัดที่จะไม่ให้พระมีเงินสดเยอะเกินไปเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมาอีกนั้น ทางพศ.ได้มีการประกาศใช้กฎกระทรวงการดูแลรักษาและจัดการศาสนสมบัติของวัด ปี 2564 แล้ว ซึ่งมีการระบุไว้ชัดเจนว่า การเก็บรักษาเงินของวัดในส่วนที่เกิน 100,000 บาทขึ้นไป ให้เก็บรักษาโดยฝากธนาคาร ในนามของวัด หรือวิธีการอื่นใดตามที่มส.กำหนด และทุกวัดต้องแจ้งบัญชีรายรับ รายจ่าย ของวัดทุกบัญชีมาที่พศ. โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้เป็นต้นไป
“ผมเข้ามารับหน้าที่กำกับดูแลพศ.ได้ไม่นาน ก็โดนรับน้องด้วยเรื่องนี้เลย เป็นขบวนการสีกาสึกพระ อย่าให้มีอีกเลย และอยากฝากไว้ว่า เรานับถือคำสอนของพระพุทธศาสนา อย่าให้เรื่องบุคคล คือ พระ มาทำลายความศรัทธา” นายสุชาติ กล่าว