‘หุ้น’ ไม่ใช่คำตอบ เศรษฐี Gen Y-Z แห่เทเงินสู่ทองคำ คริปโตฯ และศิลปะ หวัง ‘รวยเร็ว’ ไม่สนตลาดหุ้น
‘ตลาดหุ้น’ เคยเป็นทางเลือกหลักสำหรับการลงทุน แต่แนวโน้มนี้กำลังเปลี่ยนไป เมื่อ ‘คนรุ่นใหม่’ ที่มีอายุระหว่าง 21-43 ปี และมีสินทรัพย์อย่างน้อย 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 110 ล้านบาท) เข้าสู่สนามการลงทุน
ผลสำรวจล่าสุดจาก Bank of America เผยว่า พวกเขามีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเพียง 25% ของพอร์ตการลงทุน ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับนักลงทุนที่มีอายุ 43 ปีขึ้นไปที่ลงทุนในหุ้นถึง 55% นอกจากนี้ เศรษฐีรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ ถึง 93% ระบุว่ามีแผนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน ‘ลงทุนทางเลือก’ มากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
เหตุผลหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ คือความต้องการ ‘สร้างผลตอบแทน’ ที่ดีกว่า และความไม่เชื่อมั่นในตลาดหุ้นที่ผันผวน โดย ‘ลงทุนทางเลือก’ ที่กำลังดึงดูดความสนใจของเศรษฐีรุ่นใหม่เหล่านี้มีหลายประเภท
หนึ่งในนั้นคือ ทองคำ ผลสำรวจของ Bank of America ชี้ว่า 45% ของนักลงทุนรุ่นใหม่ที่เป็นเศรษฐีเป็นเจ้าของทองคำและอีก 45% แสดงความสนใจที่จะถือครองทองคำ
ในอดีต ทองคำทำหน้าที่เป็นหลักประกันป้องกัน ‘ภาวะเงินเฟ้อ’ และความผันผวนของตลาดได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุด ณ เดือนมิถุนายน 2025 ราคาทองคำได้พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์อยู่ราว 3,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์
อสังหาริมทรัพย์ ก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง อัตราค่าเช่าและมูลค่าทรัพย์สินมักจะเพิ่มขึ้นตาม ‘ภาวะเงินเฟ้อ’ ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่นักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูงไม่ว่าจะอายุเท่าใดก็ยังคงเห็นโอกาสในสินทรัพย์นี้ 31% ของคนรุ่นใหม่ในการสำรวจของ Bank of America กล่าวว่าอสังหาริมทรัพย์นำเสนอโอกาสการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
งานศิลปะ ถือเป็นวิธีที่สร้างสรรค์ในการกระจายความเสี่ยง โดยกว่า 72% ของนักลงทุนรุ่นใหม่เชื่อว่าการลงทุนในหุ้นและพันธบัตรแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียวไม่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยได้อีกต่อไป
ตลาดศิลปะมีมูลค่าการทำธุรกรรมต่อปีมากกว่า 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่ารวมทั่วโลกอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ขนาดใหญ่ และศิลปะร่วมสมัยยังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปี 11.5% ระหว่างปี 1995-2023 ซึ่งสูงกว่า S&P 500 ที่ 9.6% ในช่วงเวลาเดียวกัน
Private Equity หรือการลงทุนในบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่แสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น และต้องการการควบคุมการลงทุนมากขึ้น โดยกว่า 25% ของเศรษฐีรุ่นใหม่ระบุว่า Private Equity เป็นหนึ่งในโอกาสการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แม้จะมีความเสี่ยงสูงและต้องใช้ความมุ่งมั่นในระยะยาว แต่ก็มอบศักยภาพในการเติบโตที่สำคัญ
สุดท้าย Cryptocurrency ก็ได้ก้าวเข้าสู่กระแสหลัก แม้ในอดีตจะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง แต่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดทั่วโลกสูงถึง 3.29 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นักลงทุนรุ่นใหม่ต่างชื่นชอบสินทรัพย์ประเภทนี้
โดย 29% ของคนรุ่นใหม่ในการสำรวจของ Bank of America กล่าวว่า Cryptocurrency นำเสนอโอกาสการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เทียบกับเพียง 7% ของกลุ่มนักลงทุนรุ่นเก๋า และเศรษฐีรุ่นใหม่ยังจัดสรร 15% ของพอร์ตการลงทุนให้กับคริปโตฯ เทียบกับเพียง 2% ของคนรุ่นเก่า
การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุน ‘คนรุ่นใหม่’ กำลังปรับกลยุทธ์การบริหารความมั่งคั่งอย่างกระตือรือร้น โดยกระจายการลงทุนไปสู่สินทรัพย์นอกเหนือจากตลาดดั้งเดิม เพื่อปกป้องและ ‘สร้างผลตอบแทน’ ให้กับความมั่งคั่งของตนในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน
ภาพ: PeopleImages.com – Yuri A / Shutterstock
อ้างอิง: