“สภาสหรัฐ” ฝ่าด่านสำคัญ “บิ๊กดีลภาษี-งบประมาณ” ทรัมป์ มั่นใจผ่านทันเส้นตาย 4 ก.ค.
รีพับลิกันสหรัฐ ผ่านขั้นตอนชี้ชะตาร่างกฎหมายลดภาษี-เพิ่มหนี้ 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ของ ทรัมป์ หลังล็อบบี้หนักข้ามคืน เห็นชอบ 219 ต่อ 213 ทรัมป์กดดัน ส.ส. โหวตหนุนชี้หากขวาง เสียคะแนนเสียง MAGA
วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.39 น. เว็บไซต์ Yahoo Finance รายงานว่า พรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสามารถฝ่าด่านสำคัญด้านขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อผลักดันร่างกฎหมายลดภาษีและเพิ่มงบประมาณฉบับมหึมาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สำเร็จในช่วงเช้ามืดวันพฤหัสบดี หลังจากเปิดให้มีการลงคะแนนเสียงลากยาวข้ามเที่ยงคืน ขณะที่ทรัมป์และพันธมิตรเร่งเดินหน้าหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรค
ผลการลงคะแนนขั้นตอนสำคัญครั้งนี้ออกมาที่ 219 ต่อ 213 เสียง ซึ่งเปิดทางให้เดินหน้าสู่การลงคะแนนรอบสุดท้ายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า โดยร่างกฎหมายดังกล่าวประกอบด้วยมาตรการลดภาษีที่พรรครีพับลิกันหาเสียงไว้ การทยอยยกเลิกสิทธิประโยชน์ด้านพลังงานสะอาดในยุครัฐบาลไบเดน และงบประมาณสำหรับนโยบายกวาดล้างผู้อพยพผิดกฎหมายของทรัมป์
หลังการลงคะแนนดังกล่าว สิ่งที่ตามมาทันทีคือการอภิปรายเนื้อหาร่างกฎหมาย ซึ่งเตรียมปูทางสู่การลงมติรอบสุดท้ายในช่วงเช้าวันเดียวกัน ก่อนถึงเส้นตาย 4 กรกฎาคม ที่ทรัมป์ตั้งไว้ด้วยตัวเอง
แม้จะเกิดความล่าช้าในการลงคะแนน แต่ความสามารถของพรรครีพับลิกันในการฝ่าด่านสำคัญนี้ได้ ถือเป็นสัญญาณบวกต่อการผ่านร่างกฎหมายฉบับสำคัญนี้ในที่สุด โดยประธานสภา ไมค์ จอห์นสัน ซึ่งแสดงความมั่นใจมาโดยตลอด กล่าวกับสื่อหลังตี 3 ว่า “เรามีเสียงครบแน่นอน เราจะผ่านเส้นตายนี้ได้”
แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะคุมเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา แต่ร่างกฎหมายนี้กลับเจอแรงต้านจากสมาชิกสายอนุรักษ์นิยมที่กังวลเรื่องภาระงบประมาณ รวมถึงกลุ่มสมาชิกจากเขตเลือกตั้งที่แกว่งตัวทางการเมือง ซึ่งกังวลว่าร่างกฎหมายนี้จะตัดงบ Medicaid และโครงการสวัสดิการสังคมมากเกินไป
ทั้งนี้ทรัมป์แสดงความไม่พอใจต่อความล่าช้าของกระบวนการทันทีหลังเที่ยงคืน โดยโพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ว่า “ลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจที่เฟื่องฟู เทียบกับขึ้นภาษีครั้งใหญ่ที่สุดและเศรษฐกิจที่ล้มเหลว รีพับลิกันรออะไรอยู่??? กำลังพิสูจน์อะไร??? ฐานเสียง MAGA ไม่พอใจ และคุณจะเสียคะแนนเสียง!!!”
สุดท้าย สมาชิกรีพับลิกันเพียงคนเดียวที่ลงมติไม่เห็นชอบคือ ไบรอัน ฟิตซ์แพทริก จากรัฐเพนซิลเวเนีย
การลงคะแนนครั้งนี้เป็นการโหวตในประเด็นกฎระเบียบในการอภิปราย ซึ่งตามปกติถือเป็นกระบวนการตามธรรมเนียมของแต่ละพรรค แต่เมื่อสภาผู้แทนฯ มีเสียงใกล้เคียงกัน การลงคะแนนในขั้นตอนนี้จึงถูกใช้เป็นเวทีต่อรองของสมาชิกที่มีจุดยืนแตกต่าง
ผู้นำพรรครีพับลิกันระดมทุกวิถีทางโน้มน้าวสมาชิกให้โหวตสนับสนุน ขณะที่จอห์นสันประกาศชัดใน Fox News ว่า “เราจะเปิดให้ลงคะแนนไปเรื่อย ๆ จนมั่นใจว่าสมาชิกทุกคนอยู่ครบ และทุกคำถามมีคำตอบ”
ทั้งทำเนียบขาวและทรัมป์เองก็ออกมาสร้างความมั่นใจก่อนการโหวต โดยทรัมป์โพสต์ว่า“เรามีบทสนทนาที่ยอดเยี่ยมทั้งวัน พรรครีพับลิกันในสภาเป็นหนึ่งเดียว เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ เรากำลังจะส่งมอบการลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดและการเติบโตทางเศรษฐกิจมหาศาล”
สมาชิกรีพับลิกันที่เคยโหวตคว่ำร่างกฎหมายในรอบแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม เช่น วอร์เรน เดวิดสัน จากรัฐโอไฮโอ สุดท้ายก็เปลี่ยนใจโหวตสนับสนุน โดยระบุว่า“ร่างกฎหมายนี้อาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ดีที่สุดที่เราจะได้”
ประเด็นสำคัญที่ยังค้างคาใจสมาชิกหลายคนคือ ภาระงบประมาณ โดยสำนักงานงบประมาณรัฐสภาสหรัฐฯ (CBO) ประเมินว่าร่างกฎหมายเวอร์ชันวุฒิสภาจะเพิ่มภาระหนี้อีก 3.4 ล้านล้านดอลลาร์ สูงกว่าฉบับเดิมของสภาผู้แทนที่อยู่ที่ 2.8 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ผู้นำพรรครีพับลิกันและทำเนียบขาวยืนยันชัดว่า หากแก้ไขเนื้อหาร่างกฎหมายเพื่อต่อรองกับสมาชิกสภาผู้แทนฯ ที่ลังเล จะทำให้ต้องส่งกลับไปโหวตในวุฒิสภาอีกครั้ง และจะพลาดเส้นตาย 4 กรกฎาคม ทางเลือกของทำเนียบขาวคือเสนอมาตรการอื่น ๆ เช่น อำนาจบริหารหรือร่างกฎหมายเพิ่มเติมในอนาคต แทนการแก้ไขเนื้อหาร่างกฎหมายหลัก
อ้างอิง : finance.yahoo.com