ศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา "นายกแพทองธาร" กับสองฉากทัศน์การเมืองไทย
วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญจะอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนาของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา คำตัดสินครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมืองไทย เพราะผลลัพธ์ที่จะตามมามีเพียงสองทางชัดเจน คือ “รอด” หรือ “ไม่รอด” โดยแต่ละทางเลือกย่อมส่งผลสะเทือนทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทันที
ในกรณีที่ศาลวินิจฉัยว่า แพทองธารไม่ขาดคุณสมบัติ และสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ รัฐบาลชุดปัจจุบันจะยังคงทำงานต่อโดยไม่สะดุด ความต่อเนื่องทางนโยบายจะช่วยเสริมเสถียรภาพทางการเมืองและสร้างความเชื่อมั่นให้พรรคร่วมรัฐบาลและประชาชน พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำจะมีโอกาสฟื้นศรัทธาทางการเมือง และในด้านเศรษฐกิจ นักลงทุนจะมองเห็นเสถียรภาพมากขึ้น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถูกจับตา เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก็สามารถเดินหน้าได้ต่อโดยไม่มีความล่าช้า ขณะที่ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา อาจยังเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่การที่ผู้นำยังคงอยู่ต่อก็หมายถึงท่าทีทางการทูตที่ต่อเนื่องมากกว่าการเปลี่ยนตัวทันที
แต่หากศาลวินิจฉัยว่า แพทองธารขาดคุณสมบัติและต้องพ้นจากตำแหน่งทันที ผลที่เกิดขึ้นคือคณะรัฐมนตรีทั้งชุดสิ้นสภาพตามมาตรา 180 (2) และจะเหลือเพียงรัฐบาลรักษาการที่ทำงานไปจนกว่าจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ ภายใน 30 วัน สภาผู้แทนราษฎรต้องโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีที่แต่ละพรรคเสนอไว้ หากพรรคเพื่อไทยไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ พรรคอื่น เช่น พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคขนาดกลาง ก็อาจก้าวขึ้นมาเป็นตัวแปรสำคัญ ผลลัพธ์เช่นนี้อาจนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หรือหากหาทางออกไม่ได้ การยุบสภาก็เป็นไปได้เช่นกัน
สถานการณ์ “ไม่รอด” จะสร้างแรงกระเพื่อมต่อเศรษฐกิจในทันที ตลาดการเงินและนักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการตัดสินใจเพราะไม่มั่นใจในเสถียรภาพ ขณะที่โครงการสำคัญทางเศรษฐกิจอาจถูกเลื่อนออกไป ความเชื่อมั่นทางการทูตกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงกัมพูชา ก็อาจสั่นคลอนมากขึ้น เพราะต้องรอรัฐบาลใหม่ที่มีความชัดเจนในท่าทีการเจรจา
คำถามใหญ่ที่สังคมไทยยังรอคำตอบคือ หาก “รอด” จริง รัฐบาลเพื่อไทยจะใช้โอกาสนี้ฟื้นความเชื่อมั่นและจัดการกับความขัดแย้งทางการเมืองที่สะสมมานานได้หรือไม่ และหาก “ไม่รอด” ใครจะก้าวขึ้นมาแทนที่ และกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเป็นไปอย่างราบรื่นหรือจะกลับกลายเป็นการเปิดฉากวิกฤตการเมืองรอบใหม่
ท้ายที่สุด คดีนายกแพทองธารไม่ใช่แค่เรื่องของบุคคล แต่คือบททดสอบความแข็งแรงของระบบการเมืองไทย ผลคำวินิจฉัยไม่ว่าจะออกมาในทางใด ล้วนจะกำหนดทิศทางการเมือง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระยะต่อไป คำถามคือ ประเทศไทยพร้อมเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 29 สิงหาคมนี้แล้วหรือยัง?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คดีคลิปเสียงแพทองธาร–ฮุนเซน ย้อนที่มา กฎหมาย และเส้นทางสู่ศาลรัฐธรรมนูญ
- ‘หมอมิ้ง’ ย้ำส่งคำแถลงปิดคดีคลิปเสียงวันนี้ ยังไม่ฟันธง ‘อิ๊งค์’ ร่วมฟังคำวินิจฉัย
- เก้าอี้นายกฯ บนเส้นทางไม่แน่นอน ศาลรัฐธรรมนูญจะเขียนฉากทัศน์แบบไหน
- สรุปกระบวนการศาลรธน. ไต่สวน “แพทองธาร” กรณีคลิปเสียงสนทนาสมเด็จฮุนเซ็น
- ศาล รธน.ปิดไต่สวนแพทองธาร เลื่อนยื่นปิดคดี 25 ส.ค. นัดอ่านคำวินิจฉัย 29 ส.ค.