นวัตกรรมเปลี่ยนโลก 'Beyond Aero' ปูทางสู่การบินไร้มลพิษด้วยพลังงานไฮโดรเจน
อุตสาหกรรมการบินเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง โดยเฉพาะจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลระบุว่าระหว่างปี พ.ศ. 2543-2562 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการบินเพิ่มขึ้นถึง 53% และส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกถึง 3.5-4% ทำให้การหันมาใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ไม่ปล่อยมลพิษเป็นทางเลือกที่จำเป็น
ทางออกที่ยั่งยืน
ในขณะที่พลังงานแบตเตอรี่มีข้อจำกัดด้านความหนาแน่นของพลังงาน ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับภารกิจบินระยะไกล และเชื้อเพลิงทางเลือกอย่างเชื้อเพลิงการบินยั่งยืน (SAF) ยังคงปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และอนุภาคที่ทำให้เกิดการจับตัวของไอน้ำ (contrails) ซึ่งส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศอยู่ดี ทางออกที่ Beyond Aero มองเห็นคือ พลังงานไฮโดรเจน
ทำไมต้องไฮโดรเจน-ไฟฟ้า?
พลังงานไฮโดรเจนมีประสิทธิภาพสูงกว่าเชื้อเพลิงสังเคราะห์ถึง 8 เท่า และมีความหนาแน่นของพลังงานต่อน้ำหนักสูงกว่าแบตเตอรี่และ SAF นอกจากนี้ การใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Hydrogen Fuel Cells) จะเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็นไฟฟ้าผ่านปฏิกิริยาเคมี โดยมีผลผลิตเพียงแค่ความร้อนและน้ำเท่านั้น ทำให้ไม่มีการปล่อยเขม่า ควัน หรือ NOx ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของมลภาวะ
การออกแบบใหม่ทั้งหมด (Clean-sheet Design)
Beyond Aero เลือกที่จะออกแบบเครื่องบินใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น ไม่ใช่การดัดแปลงเครื่องบินที่มีอยู่เดิม เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากระบบขับเคลื่อนไฮโดรเจน-ไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ เครื่องบินรุ่นแรกของบริษัทคือ BYA-I เจ็ตขนาดเล็กที่รองรับผู้โดยสาร 6 คน สามารถบินได้ไกลถึง 1,500 กิโลเมตร หรือไกลกว่าเครื่องบินพลังงานแบตเตอรี่ถึง 5 เท่า การออกแบบนี้ช่วยให้สามารถจัดวางถังไฮโดรเจน เซลล์เชื้อเพลิง และระบบต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการกระจายน้ำหนัก การระบายความร้อน และอากาศพลศาสตร์
การผสมผสานระบบดิจิทัล
นอกจากระบบขับเคลื่อนแบบใหม่แล้ว Beyond Aero ยังได้ผนวกโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเข้ากับการออกแบบเครื่องบินตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ ระบบควบคุมการบินด้วยสายไฟฟ้า (Fly-by-wire) ไปจนถึงการใช้ข้อมูลคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์เพื่อการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) และการปรับปรุงเส้นทางแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดเวลาหยุดทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการ และสร้างความปลอดภัยให้กับการบิน
ธุรกิจการบินส่วนตัว จุดเริ่มต้นที่เหมาะสม
Beyond Aero มองว่าธุรกิจการบินส่วนตัวเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมที่สุด ด้วยเหตุผลหลายประการ
- กระบวนการรับรองที่ง่ายกว่า: เครื่องบินขนาดเล็กมีกฎระเบียบการรับรองที่ไม่ซับซ้อนและมีต้นทุนต่ำกว่า
- ความต้องการที่สอดคล้อง: เที่ยวบินส่วนใหญ่ (กว่า 70%) มีระยะทางไม่เกิน 1,000 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในพิสัยบินของเครื่องบินไฮโดรเจน-ไฟฟ้า
- ต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำลง: ระบบเชื้อเพลิงไฮโดรเจน-ไฟฟ้ามีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าเครื่องยนต์กังหัน โดยคาดว่าจะมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำกว่าเครื่องบินปกติกว่า 20% และราคาเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจะทัดเทียมหรือถูกกว่าน้ำมันเครื่องบินภายในปี พ.ศ. 2573
โรดแมปสู่การบินแห่งอนาคต
Beyond Aero วางแผนการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
- พ.ศ. 2563-2573: ระยะเริ่มต้น (Seed Phase) เน้นการรับรองเครื่องบินรุ่นแรก (BYA-I) และการติดตั้งสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนนำร่องตามสนามบินสำคัญ
- พ.ศ. 2573-2583: ระยะเติบโต (Harvest Phase) พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงและเทคโนโลยีเก็บไฮโดรเจนเหลว เพื่อสร้างเครื่องบินพาณิชย์ขนาด 70 ที่นั่ง
- พ.ศ. 2583-2593: ระยะรวมพลัง (Consolidation Phase) เปิดตัวเครื่องบินพาณิชย์ขนาด 150 ที่นั่ง สำหรับเส้นทางบินระยะสั้นที่มีความถี่สูง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ก่อให้เกิดมลพิษสูงสุดถึง 24% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมด
การเดินทางของ Beyond Aero คือการพิสูจน์ให้เห็นว่าการบินไร้มลพิษไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน แต่เป็นเป้าหมายที่ทำได้จริงบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมที่ก้าวล้ำ เพื่อสร้างอนาคตการบินที่ยั่งยืนและปลอดภัยสำหรับโลกของเรา
ที่มา : Beyond Aero