ครม. อนุมัติงบกลาง 2,198 ล้าน ช่วยค่าไฟผู้ประสบอุทกภัย 18 จังหวัด จ่ายฟื้นฟูน้ำท่วมเชียงราย เยียวยา 4 จว.ชายแดนใต้
วันนี้ (26 สิงหาคม) เวลา 12.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงมหาดไทย เสนอ ครม. จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 ในส่วนงบกลางกรณีเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ที่หน่วยงานราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัย
โดยขอให้พิจารณาอนุมัติให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ใช้จ่ายงบกลางปี 68 สำรองเงินฉุกเฉิน กรอบวงเงิน 1,696 ล้านบาท เพื่อช่วยค่าไฟฟ้าแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย 18 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา พิษณุโลก สุโขทัย ตาก พิจิตร อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน อุทัยธานี อุดรธานี หนองคาย นครพนม บึงกาฬ และพระนครศรีอยุธยา สำหรับผู้ประกอบการที่ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้าน ที่อยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก โดยดำเนินมาตรการใน 2 รูปแบบ คือ 1. ไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้าประจำเดือนก.ย.67 และ 2.ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 ซึ่งกำหนดให้เป็นส่วนลดก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับค่าไฟฟ้าประจำเดือนต.ค.67
อนุกูล กล่าวต่อว่า สำหรับประเภทบ้านที่อยู่อาศัย ในเดือนก.ย. – ต.ค.67 มีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 870,000 ราย ใช้วงเงิน 1,256 ล้านบาท ส่วนประเภทกิจการการค้าขนาดเล็ก มีผู้ได้รับสิทธิ์ประมาณ 100,000 ราย วงเงิน 440 ล้านบาท รวมสองประเภท เป็นวงเงิน 1,696 ล้านบาท
นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทย เสนอของบกลางกรณีเงินสำรองฉุกเฉินหรือจำเป็นเพิ่มเติมให้ จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฟื้นฟูที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย จำนวน 18 โครงการ วงเงิน 363.62 ล้านบาท สืบเนื่องจากช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.67 ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ รวมถึงจังหวัดเชียงรายที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ครม. อนุมัติงบกลางเพิ่มเติม 139 ล้านบาท ให้ ศอ.บต.
อนุกูลแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ขออนุมัติงบกลางเพิ่มเติมกรณีเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 139.93 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 279 ราย แบ่งเป็น 4 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส 69 ราย วงเงิน 10.83 ล้านบาท จังหวัดปัตตานี 73 ราย วงเงิน 65.07 ล้านบาท จังหวัดยะลา 133 ราย วงเงิน 63.59 ล้านบาท และสงขลา 4 ราย วงเงิน 0.08 ล้านบาท