BCPG พุ่งแรง +9.81% นำกลุ่มโรงไฟฟ้า บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ปรับเป้าเป็น 9.90 บาท/หุ้น
#ทันหุ้น #BCPG บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) มองปัจจัยหนุน บมจ.บีพีซีจี [BCPG] มาจากแนวโน้มของธุรกิจโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้พลังงานในสหรัฐฯ ที่สูง โดยเฉพาะจากกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งทำให้สหรัฐต้องมีการลงทุนพลังงานมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ๆ เข้ามา
อีกทั้งแนวโน้มของดอกเบี้ยที่ลดลง ทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายของ BCPG จะลดลงตามด้วยเช่นกัน หนุนต่อกำไร และได้ปรับราคาเป้าหมายจากเดิม 8 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 9.90 บาท/หุ้น เพื่อสะท้อนภาพของธุรกิจโรงไฟฟ้าในสหรัฐที่มีทิศทางที่ดี และดอกเบี้ยที่ลดลง
สรุปประเด็นหลัก (Key Takeaways):
- ปรับเพิ่มประมาณการกำไร: นักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักของ BCPG ในช่วงปี 2568-2570 ขึ้นราว 7%−23% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ (Consensus) อย่างมีนัยสำคัญ
- สหรัฐฯ คือหัวใจการเติบโต: ปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ (คิดเป็น 44% ของกำลังการผลิตรวม) ซึ่งได้รับประโยชน์โดยตรงจาก 2 ปัจจัยสำคัญคือ 1) ค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Payments – CP) ในตลาด PJM ที่ปรับตัวสูงขึ้น และ 2) ความต้องการไฟฟ้าที่เร่งตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากการขยายตัวของ AI Data Center
- เป้าหมายราคาใหม่: ราคาเป้าหมายตามวิธี DCF ถูกปรับขึ้นจาก 8.00 บาท เป็น 9.90 บาท สะท้อนมุมมองเชิงบวกต่อปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพการทำกำไรในอนาคต
- โครงการใหม่หนุนเสริม: การเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมมรสุม (Monsoon Wind) ใน สปป.ลาว ขนาดกำลังการผลิต 290 เมกะวัตต์ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนการเติบโตของผลประกอบการ
- ตลาดมองข้ามการปรับเป้าของบริษัท: นักวิเคราะห์เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักน้อยต่อการที่บริษัทปรับลดเป้าการเติบโตของ EBITDA ปี 2568 ลง เนื่องจากเป้าหมายเดิมถูกมองว่าเป็นเป้าที่ท้าทาย และการปรับลดสะท้อนความล่าช้าของโครงการ M&A ขนาดใหญ่มากกว่าปัญหาพื้นฐาน
BCPG: ขุมทรัพย์ในสหรัฐฯ และเทรนด์ AI ขับเคลื่อนการเติบโตครั้งใหม่
บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG กำลังกลายเป็นที่จับตามองของนักลงทุนอีกครั้ง หลังนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการผลกำไรและราคาเป้าหมายอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากสินทรัพย์โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ที่กำลังได้รับอานิสงส์เต็มรูปแบบจากค่าความพร้อมจ่ายที่พุ่งสูงขึ้น และอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างร้อนแรงจากอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Data Center ซึ่งส่งสัญญาณบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในระยะกลางถึงยาว
โมเมนตัมเชิงบวกนี้ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบันและนักวิเคราะห์ หลังจากที่ได้มีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ BCPG ได้รับจากธุรกิจในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสร้างกำไรคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 45%−60% ของกำไรทั้งหมดในช่วงปี 2568-2570
เจาะลึกปัจจัยหนุน: ค่า CP พุ่ง รับดีมานด์ AI ทะยาน
หัวใจของการปรับเพิ่มประมาณการในครั้งนี้อยู่ที่ “โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ” ในสหรัฐฯ กำลังการผลิตรวม 857 เมกะวัตต์ ซึ่งดำเนินงานในตลาดซื้อขายไฟฟ้า PJM หนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ
ปัจจัยบวกสำคัญประการแรกคือ ค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Payments – CP) ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มสมมติฐานค่า CP สำหรับปี 2569/2570 (มิ.ย. 69 – พ.ค. 70) ขึ้นเป็น 329.17 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เมกะวัตต์-วัน เทียบกับ 269.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เมกะวัตต์-วัน สำหรับปี 2568/2569 (มิ.ย. 68 – พ.ค. 69) ค่า CP นี้เปรียบเสมือนรายได้ที่แน่นอนที่โรงไฟฟ้าจะได้รับเพื่อการันตีความพร้อมในการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ซึ่งช่วยสร้างเสถียรภาพและความแข็งแกร่งให้กับกระแสเงินสด
ประการที่สองคือ อุปสงค์ไฟฟ้าที่เร่งตัวขึ้นจาก AI Data Centers การขยายตัวอย่างมหาศาลของเหล่า Hyperscalers และการลงทุนด้านเทคโนโลยี AI ทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่บริการของ PJM เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อราคาพลังงานและค่าความพร้อมจ่ายในตลาด BCPG จึงอยู่ในตำแหน่งที่ได้รับประโยชน์จากเมกะเทรนด์นี้อย่างเต็มที่
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรครั้งใหญ่ สวนทางเป้าบริษัท
จากการประเมินปัจจัยบวกดังกล่าว นักวิเคราะห์ได้ทำการปรับเพิ่มประมาณการ “กำไรหลัก” ของ BCPG ในช่วงปี 2568-2570 ขึ้น 7%−23% ซึ่งส่งผลให้คาดการณ์การเติบโตของกำไรเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีแนวโน้มที่น่าประทับใจดังนี้:
- ปี 2568 (2025F): คาดการณ์กำไรหลักเติบโต +44% YoY
- ปี 2569 (2026F): คาดการณ์กำไรหลักเติบโต +54% YoY
- ปี 2570 (2027F): คาดการณ์กำไรหลักเติบโต +8% YoY
ตัวเลขคาดการณ์ใหม่นี้สูงกว่าที่ตลาดโดยรวม (Consensus) คาดไว้ราว 7%−23% ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะเห็นการปรับเพิ่มประมาณการของตลาดตามมาในเร็วๆ นี้
ในขณะเดียวกัน แม้ว่าผู้บริหาร BCPG จะปรับลดเป้าหมายการเติบโตของ EBITDA ในปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะโตมากกว่า 30% YoY เหลือเพียง +5% YoY แต่นักวิเคราะห์มองว่าตลาดจะไม่ตอบสนองในเชิงลบมากนัก เนื่องจากเป้าหมายเดิมถูกมองว่า “ท้าทายสูง” (aspirational) และการปรับลดมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอโครงการควบรวมกิจการ (M&A) ขนาดใหญ่ (มูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้งบลงทุน (CAPEX) ในปี 2568 ถูกปรับลดลงจาก 3.2 หมื่นล้านบาท เหลือ 1.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่ได้กระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจเดิมที่กำลังแข็งแกร่งขึ้น
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม “ทันหุ้น” ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/