ธ.ก.ส. – EXIM BANK – SME D Bank เดินหน้าหั่นดอกเบี้ย 0.25% ตามมติ กนง.
แบงก์รัฐทยอยลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น SME D Bank, ธ.ก.ส. และ EXIM BANK สูงสุด 0.25% ต่อปี เสริมแกร่งผู้ประกอบการยืนหยัดได้ในทุกสถานการณ์ สอดคล้องมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
วันนี้ (14 สิงหาคม) พิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท เพื่อบรรเทาภาระต้นทุนทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้
- ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จาก 7.575% ต่อปี ลดลงเหลือ 7.325% ต่อปี
- ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) จาก 7.40% ต่อปี ลดลงเหลือ 7.20% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำ (MLR) จาก 7.25% ต่อปี เหลือ 7.10% ต่อปี
ขณะเดียวกัน SME D Bank ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้เช่นเดิม เพื่อสร้างโอกาสให้หน่วยงาน องค์กร กลุ่มนิติบุคคล สถาบัน หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน เพื่อเป็นทางเลือกในการหาแหล่งฝากเงินผลตอบแทนสูง ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสูงสุด
ธ.ก.ส. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุด 0.25% ต่อปี
ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท สูงสุด 0.25% ต่อปี เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้สินให้กับเกษตรกรลูกค้ารายย่อยและลูกค้ากลุ่มเปราะบาง รวมถึงช่วยลดผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ประกอบด้วย
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) คงเหลือ 6.375% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยลูกค้านิติบุคคลชั้นดี (MLR) คงเหลือ 6.125% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) คงเหลือ 6.625% ต่อปี
โดย ธ.ก.ส. ออกมาตรการในการดูแลด้านหนี้สินอย่างครบวงจรให้กับเกษตรกรลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาตรการ พักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมาตรการเฟส 2 จำนวน 1.431 ล้านราย ต้นเงินกว่า 189,000 ล้านบาท โดยธนาคารได้ดำเนินการฟื้นฟูอาชีพให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดการประกอบอาชีพให้กับผู้เข้าร่วมโครงการให้สามารถลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ระหว่างการเข้าร่วมมาตรการ
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ได้มีการสนับสนุนเงินทุนผ่านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการประกอบอาชีพของเกษตรกร ทั้งรายย่อยและผู้ประกอบการเกษตร เช่น สินเชื่อแทนคุณ สินเชื่อเงินด่วนสิบหมื่น สำหรับสมาชิก อสม. และ อสส. วงเงินกู้ รายละไม่เกิน 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อเดือน และสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ เพื่อสร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร อัตราดอกเบี้ย 5 ปีแรก MRR – 2 ต่อปี
EXIM BANK ลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.10% ต่อปี ต่ำที่สุดในระบบอย่างต่อเนื่อง
บัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate เหลือ 6.10% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ EXIM BANK ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์ นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
การปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในครั้งนี้เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปี 2568 ตอกย้ำการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุดในระบบมาโดยตลอด พร้อมกับออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระหนี้และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในการปรับตัวท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน สอดคล้องกับพันธกิจของ EXIM BANK ในฐานะกลไกของภาครัฐในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจไทย รวมทั้งขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน