ตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง 'บ้านแนวราบ'ระดับกลาง-บนมาแรง
ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ภายใต้ข้อจำกัดของกำลังซื้อและสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อโดยเดือนกรกฎาคม พบว่าการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีจำนวน 25 โครงการ รวม3,745 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนารวม 29,004 ล้านบาท
นายโสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th) สะท้อนผลการสำรวจโครงการเปิดใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2568
พบว่าจำนวนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 3,745 หน่วย เพิ่มขึ้นจำนวน 1,460 หน่วย (เดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวน 2,285 หน่วย) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 63.9% ในเดือนนี้การเปิดตัวโครงการใหม่พบว่า 66% ยังคงเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่และบริษัทในเครือที่ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดโดยเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบที่ระดับราคาปานกลางจนถึงระดับราคาแพงเป็นสำคัญ
ประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ ทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งมีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ 1,530 หน่วย (40.9%) รองลงมาคือ บ้านเดี่ยว 942 หน่วย (25.2%) ส่วนอันดับ 3 คือ อาคารชุด 746 หน่วย (19.9%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด เมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก
ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุด กับเดือนที่ผ่านมา จะพบว่า ที่อยู่อาศัยแนวราบมีจำนวนหน่วยขายเพิ่มขึ้นทั้งหมด แต่อาคารชุดกลับมีการเปิดตัวใหม่น้อยลง โดยทาวน์เฮ้าส์มีจำนวนหน่วยเปิดใหม่เพิ่มขึ้นมากสุดจำนวน 1,096 หน่วย (252.5%)
มูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2568 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 29,004 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาจำนวน 15,181 ล้านบาท (เดือนมิถุนายน 2568 มีมูลค่า 13,823 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น ประมาณ 109.8% ซึ่งในเดือนนี้ลักษณะการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะใกล้เคียงกับเดือนที่ผ่านมา โดยจะพบว่ามีจำนวนที่อยู่อาศัยแนวราบเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูงถึงระดับราคาสูง เป็นสำคัญ
หน่วยขายที่มีราคา 1-2 ล้านบาท มีจำนวน 773 หน่วย (20.7%) มีมูลค่าโครงการ 1,206 ล้านบาท (4.2%) ที่ราคา 2-3 ล้านบาท มีจำนวน 400 หน่วย (10.7%) มีมูลค่าโครงการ 955 ล้านบาท (3.3%) ที่ราคา 3-5 ล้านบาท มีจำนวน 741 หน่วย (19.8%) มีมูลค่าโครงการ 3,153 ล้านบาท (10.9%)
ที่ระดับราคา 5-10 ล้านบาท มีจำนวน 935 หน่วย (24.9%) มีมูลค่าโครงการ 7,093 ล้านบาท (24.4%) ระดับราคา 10-20 ล้านบาท มีจำนวน 730 หน่วย (19.5%) มีมูลค่าโครงการ 10,845 ล้านบาท (37.4%) ส่วนที่มีระดับราคาเกิน 20 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 166 หน่วย (4.4%) และมีมูลค่าโครงการ 5,753 ล้านบาท (19.9%) ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในเดือนนี้
ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวน 6 บริษัท คือ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ บมจ.ศุภาลัย บมจ.แสนสิริ และ บมจ. เอสซี แอสเสท ตามลำดับนอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปและบริษัทในเครืออีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป
ในด้านทำเลที่ตั้ง ในเดือนนี้ มีการเปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 5 โครงการ ตั้งอยู่ในส่วนต่อขยายเมือง (Intermediate area) จำนวน 17 โครงการ เช่น ย่านแจ้งวัฒนะ ดอนเมือง วัชรพล เกษตร-นวมินทร์ ศรีนครินทร์ กาญจนาภิเษก กัลปพฤกษ์ เลียบคลองทวีวัฒนา และสุขสวัสดิ์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีอีก 3 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกเมือง ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัยที่เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก และใกล้แหล่งงาน เช่น ลาดหลุมแก้ว ตลาดไท และลำลูกกา เป็นต้น
โดยรวมแล้วโครงการในเดือนกรกฎาคม 2568 กระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจน หากใน 5 เดือนหลังของปี 2568 สถานการณ์ยังกระเตื้องขึ้น ก็อาจทำให้จำนวนหน่วยขายและมูลค่าโครงการใหม่ในปี 2568 ไม่ตํ่ากว่าปี 2567 มากนัก
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 45 ฉบับที่ 4,124 วันที่ 21 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568