พฤกษาฯ The Strategic Rebound 2568 อ่านขาดเกมอสังหาฯ รบเพื่อความอยู่รอด
เจาะไฮไลต์ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2568) ค่ายพฤกษา โฮลดิ้ง
มีประเด็นน่าสนใจอยู่ที่การไล่ล่าอนาคตองค์กร ภายใต้การปรับพอร์ตธุรกิจ อธิบายผ่านแผนลงทุนสร้างรายได้ยั่งยืนฉบับใหม่ล่าสุด พร้อมกับการเปิดตัว key person คนใหม่ “นางสาวปัทมา ปิยะมณีพร” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารที่ take action ลมใต้ปีก “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” เจ้าพ่อพฤกษาฯ ที่คัมแบ็กนั่งรักษาการ CEO พฤกษา โฮลดิ้ง ในปัจจุบัน
สำหรับทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง เดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ “The Strategic Rebound” เสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการปรับโครงสร้างพอร์ต การผสานพลังธุรกิจในเครือ และการต่อยอดโมเดลธุรกิจใหม่
รื้อพอร์ตธุรกิจ-แผนลงทุน
ประกอบด้วย 1.Reshaping Portfolio ปรับพอร์ตโฟลิโอสู่ตลาดระดับกลางถึงบน ซึ่งบรรจุอยู่ในแผนธุรกิจในช่วง 10 ปีบวกลบที่ผ่านมา จากภาพจำเดิมพฤกษาฯ เคยมีฉายาเจ้าพ่อทาวน์เฮาส์ สร้างรายได้หลักจากตลาดกลาง-ล่าง แต่เผชิญภัยคุกคามจากปัญหาแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อสูง การจะลดปัญหากู้ไม่ผ่านจึงต้องหันมาโฟกัสเซ็กเมนต์กลาง-บน ที่ปัญหากู้ไม่ผ่านมีน้อยกว่า
2.Winning The Core-Business Synergy ขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 3 แกนหลัก ได้แก่ 2.1 Cost Leadership ยกระดับการก่อสร้างแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นรายเดียวที่ครอบคลุมครบทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อเก็บเกี่ยวอานิสงส์จากการเป็นเจ้าของโรงงานพรีคาสต์เบอร์ต้น ๆ ของวงการ
2.2 Quality Excellence ความเป็นเลิศด้านคุณภาพ บริการครบวงจรเพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และ 2.3 Well Living at Home การดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตแบบครบวงจร
3.Strategic Branding Move ยกระดับภาพลักษณ์และการสื่อสารแบรนด์ เพื่อสะท้อนคุณค่าของการใช้ชีวิต “Lifetime Well-Living อยู่ดี…ทั้งชีวิต” ตอกย้ำปรัชญาการสร้างบ้านที่มากกว่าแค่ที่อยู่อาศัย แต่คือการสร้างความสุขและคุณภาพชีวิตที่ดีไปตลอดชีวิต
4. People-Structure Transformation พัฒนาโครงสร้างองค์กรและศักยภาพบุคลากร Work Life Well-Lived มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน และเสริมความพร้อมสู่การแข่งขันอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ขยายตัว-ออกจากคอมฟอร์ตโซน
ไฮไลต์อยู่ที่การขยายสู่ตลาดใหม่ในภาคก่อสร้าง ทั้ง B2C เจาะลูกค้ารายย่อยหรือเจ้าของบ้าน ผ่านแบรนด์ “แพลนท์เนอรี่” รับสร้างบ้านกลุ่มกำลังซื้อกลาง-บน นำเสนอนวัตกรรม Inno-Tech และใจถึงขนาดรับประกันโครงสร้าง 20 ปีเต็ม
บทบาทภาคก่อสร้างที่เร้าใจยิ่งกว่าคือโมเดล B2B เจาะลูกค้าผู้ประกอบการ ผ่านแบรนด์ “IHC-Inno Home Construction” รับสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม อพาร์ตเมนต์ หอพัก และโฮมออฟฟิศ นำเสนอจุดแข็งบริการจุดเดียวครบวงจรหรือ one stop service ตอบโจทย์นี้ดเศรษฐีไทย ที่ว่ากันว่าใครก็ตามที่มีธุรกิจมีรายได้ปีละ 500 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของโครงการอสังหาฯสักชิ้น
เกมเชนจ์ของพฤกษา โฮลดิ้ง ยังรวมถึงการเดินหน้ารุกช่องทางการขายใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายเอเย่นต์
คำอธิบายเริ่มจากในส่วนของธุรกิจเฮลท์แคร์ หนีไม่พ้นโรงพยาบาลวิมุต เตรียมจัดทำแคมเปญการตลาดร่วมกับพันธมิตรเครือข่าย (Affiliate) เพื่อเจาะตลาดผู้ป่วยต่างชาติ นำเสนอแพ็กเกจราคาที่แข่งขันได้
จิ๊กซอว์ถัดมา ขยายฐานลูกค้าพรีเมี่ยม ผ่านความร่วมมือกับเครือข่ายที่ปรึกษาทางการเงิน และประกันชีวิตระดับโลก MDRT รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับองค์กรและสหภาพแรงงาน เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่อย่างครอบคลุม แน่นอนว่าสะดุดตาสุด ๆ คือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย “สหภาพแรงงาน” ซึ่งน่าจะหมายถึงการเจาะกำลังซื้อรัฐวิสาหกิจที่มีศักยภาพสูงในสังคมไทย
นอกจากนี้ยังเสริมศักยภาพองค์กรผ่านการต่อยอดโมเดลธุรกิจใหม่ด้วยโปรแกรม “พฤกษา พาส” (Pruksa Pass) โซลูชั่นเช่าซื้อยืดหยุ่น “เช่าก่อน ซื้อทีหลัง” โดยเงินค่าเช่าบางส่วนสามารถนำไปเป็นเงินดาวน์เมื่อซื้อบ้านจริง
บริษัทปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) ผ่านแบรนด์ “ไอเพลิน” (iPlearn) ธุรกิจให้เช่าที่อยู่อาศัย รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ให้ผลตอบแทนค่าเช่า 6-8% ต่อปี ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2568 นี้
เพิ่มพอร์ตโรงพยาบาล 2 แห่ง
ในขณะที่ “ธีระ ทองวิไล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ระบุครึ่งปีแรก 2568 กลุ่มเรียลเอสเตท ทำยอดขาย 5,400 ล้านบาท มีรายได้ 5,172 ล้านบาท ช่วงครึ่งปีหลัง วางแผนเปิด 12 โครงการใหม่ เป็นบ้านแนวราบ 11 โครงการ มูลค่า 10,400 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 1,130 ล้านบาท
และ “นายแพทย์ นิพัฒน์ กุหลาบขาว” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ครึ่งปีแรกกลุ่มวิมุตทำรายได้ 1,044 ล้านบาท ทำกำไร Ebitda 88 ล้านบาท จากจำนวนผู้ป่วยนอก (OPD) เพิ่มขึ้น ผู้ป่วยใน (IPD) ดีขึ้นจากการเปิดศูนย์สุขภาพปอดแห่งใหม่
น่าสนใจว่า ปัจจุบันมีโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ กำลังจะเพิ่มอีก 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต ออร์โธปิดิกส์ ทองหล่อ ร่วมลงทุนกับ CapitaLand เปิดบริการปี 2570 และโรงพยาบาลวิมุต สุขุมวิท เปิดบริการปี 2571 เพื่อตอบรับวิถีชีวิตเชิงสุขภาพของคนเมือง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พฤกษาฯ The Strategic Rebound 2568 อ่านขาดเกมอสังหาฯ รบเพื่อความอยู่รอด
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net