ออริจิ้นฯ Resilience Growth รีโมเดลขายบิ๊กลอตธุรกิจโรงแรม-แวร์เฮาส์

เจาะไฮไลต์แผนธุรกิจ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่ประกาศตัวตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2568 ในการต่อจิ๊กซอว์สู่การเป็นองค์กรธุรกิจแสนล้านบาท

โดยล่าสุด “พีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวแผนธุรกิจยาวถึงปี 2569 ผ่านรายการ Money Chat ว่าด้วยออริจิ้นฯ ปรับโมเดลธุรกิจสร้าง Resilient Growth เมื่อเร็ว ๆ นี้

เป้าครึ่งปีหลังกราฟรายได้ขาขึ้น

เริ่มต้นที่ไตรมาส 2/68 มีรายได้ 3,270 ล้านบาท เติบโต 89.2% เทียบกับไตรมาส 1/68 ที่มีรายได้ 1,729 ล้านบาท (เมื่อรวมกับรายได้ JV ที่รับรู้ปันผลกำไร ดันรายได้รวมอยู่ที่ 3,610 ล้านบาท), กำไร 319 ล้านบาท เติบโต 186.1% เทียบกับไตรมาส 1/68 ที่มีกำไร 112 ล้านบาท

โดยระบุว่า ไตรมาส 2 ดีกว่าไตรมาส 1, ไตรมาส 3 จะดีกว่าไตรมาส 2 และไตรมาส 4 จะดีกว่าไตรมาส 3 ของปีนี้

งานนี้ต้องเลาะตะเข็บตัวเลขแบบรัว ๆ เริ่มจาก ยอดขาย (Presale) ครึ่งปีแรก 2568 จำนวน 14,049 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าทั้งปีที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายคอนโดมิเนียม Origin Vertical 81% 11,434 ล้านบาท ยอดขายบ้านจัดสรร Britania 19% 2,615 ล้านบาท

ซึ่งยอดขายดังกล่าวมาจากโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) 57% และยอดขายโครงการเปิดขายใหม่ (New Launch) กับโครงการอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง (Ongoing) รวมกัน 43%

ตัวเลขหนุนหลังผลประกอบการหนีไม่พ้นยอดขายรอโอนหรือแบ็กล็อก ณ ไตรมาส 2/68 ออริจิ้นฯ มีแบ็กล็อกแข็งแกร่ง 43,336 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 4 ปีหน้า (2568-2571) แบ่งเป็นแบ็กล็อกพร้อมโอนปีนี้ 13,137 ล้านบาท, ปี 2569 จำนวน 12,341 ล้านบาท, ปี 2570 จำนวน 12,459 ล้านบาท และปี 2571 จำนวน 5,399 ล้านบาท

B2B ขายบิ๊กลอตโรงแรม-แวร์เฮาส์

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเก่าหรือเรื่องใหม่ แต่ถูกหยิบนำมาอธิบายในท่วงทำนองแผนธุรกิจใหม่ที่ริเริ่มในปี 2568 นี้ และอาจเป็นแผนธุรกิจเฉพาะกิจช่วง 2 ปี

ด้วยการเจาะตลาดคอร์ปอเรตหรือโมเดลธุรกิจขายแบบ B2B ก่อนหน้านี้เพิ่งประกาศความสำเร็จ ในไตรมาส 2/68 บริษัทโอนกรรมสิทธิ์บิ๊กลอต โครงการ “Origin Plug & Play E22 Station” ให้กับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Delta 278 ยูนิต

นอกจากนี้ปิดดีลขายพื้นที่รีเทล โซน 10th Avenue แบบเหมาชั้นกว่า 500 ล้านบาท ในโครงการออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ ให้ นายอังเดร คู (Andre Koo) มหาเศรษฐีชาวไต้หวัน เจ้าของ Chailease Group ธุรกิจลีสซิ่งยักษ์ใหญ่ภูมิภาคเอเชีย ที่ขยายธุรกิจมายังอสังหาริมทรัพย์ในไทย เสริมความแข็งแกร่งมิกซ์ยูส ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ ที่มีมูลค่าโครงการรวม 14,000 ล้านบาท และออกแบบโซนรีเทล 10th Avenue ให้เป็นศูนย์รวมร้านอาหารระดับโลก บนทำเลใจกลางทองหล่อ

รวมทั้ง ออริจิ้นฯ เพิ่งปิดดีลขายหุ้น 51% ในโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท ให้กับไพรเวตฟันด์จากญี่ปุ่น “Ci:z Technologies” ในเครือ Ci:z Holdings Co., Ltd. ทำให้ออริจิ้นฯ มีกระแสเงินสดรับสุทธิ (Extra Cash) เพิ่มขึ้น 800 ล้านบาท โดยรับรู้กำไรในรอบไตรมาส 3/68

“ออริจิ้นสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ เราพยายามขายบิ๊กลอตให้ B2B มากกว่า B2C ลูกค้ากลุ่มเวลท์ มินเลียนแนร์พร้อมมาซื้อของถูก เราพร้อมจะลดราคาให้เขา ทำสภาพคล่องให้บริษัทได้เม็ดเงินเร็วขึ้น”

โมเดลขายบิ๊กลอต B2B ให้น้ำหนักเป็น New growth engine สร้างรายได้ในยุควิกฤตเศรษฐกิจต่อเนื่องยาวนาน หลังจากฟูมฟักธุรกิจโรงแรม 6 ปี และคลังสินค้า 3 ปี ในช่วงที่ผ่านมา ปีนี้ประกาศว่าเป็นปีเก็บดอกออกผล ด้วยการซื้อมาขายไปบิ๊กลอต

ตัวเลขกลม ๆ พอร์ตโรงแรมและคลังสินค้าปัจจุบันมีอย่างละ 10 แห่ง สำหรับธุรกิจโรงแรมปีนี้มีเป้าขาย B2B จำนวน 2 แห่ง เท่ากับกำลังดีลอีก 1 แห่ง ขณะที่มีโรงแรมสร้างเสร็จใหม่มาเติมอีก 3 แห่ง

ถัดมาในไตรมาส 4/68 เปิดดีลขายบิ๊กลอตคลังสินค้าขนาดใหญ่ ตามแผนปีนี้จะสร้างเสร็จเพิ่มเติม 2 แห่ง เปิดดีลขายคลังสินค้าไซซ์ใหญ่ 1 แห่ง ตามติดด้วยปี 2569 วางเป้าขาย B2B คลังสินค้าอีก 3 แห่ง

“โรงแรมกับคลังสินค้า ถ้าเราโอเปอเรตจะเป็นรายได้ค่าเช่าหรือรีเคอริ่งปีละ 10-12% ซึ่งเป็นฐานรายได้หลักก้อนใหญ่ แต่ถ้าตัดขาย B2B จะได้ IRR (ผลตอบแทนลงทุน) 30% สูงมาก เป็นธุรกิจที่ได้ทั้งรีเคอริ่งและแคปปิตอลเกน เราปรับแพลตฟอร์มพัฒนาเพื่อขาย จากเดิมพัฒนาเพื่อเช่าอย่างเดียว แต่ตอนนี้ โรงแรม รีสอร์ตที่ไหนดี เช่น ในภูเก็ต แวร์เฮาส์ไหนเป็นที่นิยม ขายได้ราคา เป็นบิสซิเนสโมเดลที่ดี ในการได้ exist ได้กำไร ได้โอกาสไปลงทุนใหม่”

ออกหุ้นกู้ลอตใหม่-ดอกเบี้ย 5.5%

เหลียวกลับมาดูภาคการเงิน แบงก์ชาติโดยคณะกรรมการ กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และแบงก์รัฐและเอกชนพร้อมใจกันลดเต็มจำนวน 0.25% ดูจากพอร์ตเงินกู้แบงก์ของออริจิ้นฯ 15,000-17,000 ล้านบาท เท่ากับบริษัทลดต้นทุนจ่ายดอกเบี้ยทันทีปีละ 70 ล้านบาท ถ้ามีการลดเพิ่มอีกครั้ง 0.25% หรือ 1 สลึง จะลดภาระจ่ายดอกเบี้ย 140 ล้านบาท ที่สามารถย้ายมาอยู่ฝั่งกำไรทันทีในจำนวนเท่ากัน โดยไม่ต้องออกแรงอะไรเพิ่ม

บรรทัดสุดท้าย ออริจิ้นฯ มีบอนด์ยีลด์หรือหนี้หุ้นกู้ครบกำหนดชำระในเดือนกันยายนนี้ วงเงิน 2,000 ล้านบาท บริษัทเตรียมออกขายหุ้นกู้คาดว่าวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท บวกกับดีลซื้อขายโรงแรมอินเตอร์คอนฯ สุขุมวิท ที่จะมีเงินสดเข้ามา 800 ล้านบาท เงินสดจากรายได้ผลประกอบการปกติ คาดว่าจะทำให้เคลียร์หุ้นกู้ปีนี้ได้อย่างสวยงาม

ส่วนดีลชำระคืนหุ้นกู้รอบถัดไป จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2569 ที่มีดีลขายบิ๊กลอตโรงแรมกับแวร์เฮาส์รองรับไว้แล้ว จึงสบายใจหายห่วง

ทั้งนี้ หุ้นกู้ลอตใหม่วางแผนเปิดขาย 25-27 สิงหาคม 2568 นี้ อายุ 2 ปี 11 เดือน กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ผ่านผู้จัดจำหน่าย 7 ราย อัตราดอกเบี้ย 5.4-5.5% ต่อปี ถือว่าดอกเบี้ยจูงใจผู้ซื้อนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ออริจิ้นฯ Resilience Growth รีโมเดลขายบิ๊กลอตธุรกิจโรงแรม-แวร์เฮาส์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net