“ช็อกโกแลต” จ่อขึ้นราคาซ้ำอีกระลอก ผลพวงตลาดโกโก้ตึงตัว ลุ้นคลายรอบอีสเตอร์ปีหน้า
"ช็อกโกแลต" ทั่วโลกยังมีแนวโน้มราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง จากผลกระทบล่าช้าของตลาดโกโก้ที่ขาดแคลน แม้ราคาวัตถุดิบเริ่มลดลงแต่ยังไม่สะท้อนสู่ผู้บริโภค นักวิเคราะห์คาดสัญญาณบวกอาจเริ่มเห็นช่วงอีสเตอร์ปี 2569
วันที่ 22 สิงหาคม 2568 เวลา 12.11 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คนรักช็อกโกแลตอาจต้องเผชิญกับการขึ้นราคาซ้ำอีกระลอก เนื่องจากผลกระทบล่าช้าจากตลาดโกโก้ยังคงส่งผลต่อผู้ค้าปลีก แต่ก็อาจมีข่าวดีรออยู่ในช่วงอีสเตอร์ปีหน้า
ราคาคาโก้พุ่งสูงทำสถิติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากสภาพอากาศที่เลวร้าย การระบาดของศัตรูพืช และปัญหาการขาดแคลนในแอฟริกาตะวันตก ซึ่งเป็นผู้ผลิตโกโก้กว่า 3 ใน 4 ของโลก กระแสนี้ยังซ้อนทับกับภาวะเงินเฟ้อราคาสินค้าปลีกทั่วโลก ส่งผลให้ต้นทุนผู้บริโภคสูงขึ้นและทำให้ความต้องการของหวานชะลอลง
การสำรวจของ Which? กลุ่มผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร ปี 2567 พบว่า ผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตมีอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยสูงที่สุดในบรรดาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ร้านค้า อยู่ที่ 11% ขณะที่ในสหรัฐ ราคาสินค้ายอดนิยมอย่าง Hershey’s Kisses พุ่งขึ้นราว 12% เมื่อเทียบปีต่อปี
Adalbert Lechner ซีอีโอของ Lindt & Sprüngli ยักษ์ใหญ่สวิส ให้สัมภาษณ์ CNBC เมื่อเดือนเมษายนว่า เขาไม่คิดว่าราคาโกโก้จะกลับลงไปสู่ระดับเดิมอีกต่อไป
แม้ราคาฟิวเจอร์สโกโก้ยังผันผวน แต่ปีนี้โดยรวมเริ่มลดลง จาก 8,177 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันเมตริกเมื่อต้นเดือนมกราคม เหลือราว 7,855 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม เทียบกับ 2,374 ดอลลาร์เมื่อ 3 ปีก่อน
อย่างไรก็ตามราคาที่ลดลงล่าสุดจะยังไม่สะท้อนในช็อกโกแลตที่ขายปลีกในระยะสั้น ตามการวิเคราะห์ของ Tracey Allen นักกลยุทธ์สินค้าเกษตรจาก J.P. Morgan ซึ่งกล่าวว่าอุตสาหกรรมยังคงรับภาระจากราคาที่พุ่งสูงสุดในไตรมาส 4 ปี 2567 และส่งต่อเป็นต้นทุนสู่ผู้บริโภค
“เรากำลังเผชิญผลกระทบตกค้าง” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่า “ราคาที่สูงยังคงกดดันทั้งอุตสาหกรรม ทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูงขึ้น และสุดท้ายผู้บริโภคก็ต้องจ่ายแพงขึ้น” และยังชี้ว่า ปริมาณโกโก้ในตลาดยังขาดแคลนมาก ทำให้ราคามีแนวโน้มสูงอยู่นาน
อย่างไรก็ดีแนวโน้มอาจดีขึ้นบ้างช่วงเทศกาลอีสเตอร์ เนื่องจากความต้องการในภาคอุตสาหกรรมเริ่มอ่อนแรงลง ขณะที่อุปทานเริ่มฟื้นตัวจากผลผลิตใหม่ในเอกวาดอร์และบราซิล รวมถึงสภาพอากาศที่ดีขึ้น ถึงแม้ J.P. Morgan ประเมินว่าราคาโกโก้ยังคงสูงกว่าปกติในระดับ 6,000 ดอลลาร์ต่อตันก็ตาม
Hamad Hussain นักเศรษฐศาสตร์ด้านภูมิอากาศและสินค้าโภคภัณฑ์จาก Capital Economics กล่าวเสริมว่า ปัญหาผลผลิตในระยะยาวจากโรคพืชและการลงทุนไม่เพียงพอในโกตดิวัวร์และกานา ซึ่งเป็นผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่ที่สุดของโลก จะยังทำให้การผลิตตึงตัว แม้สภาพอากาศจะดีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“สิ่งนี้จะทำให้ราคายังคงอยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และนั่นจะยังคงหนุนราคาช็อกโกแลต” เขากล่าว และเสริมว่า ปัจจัยอื่น ๆ ก็จะกดดันต้นทุนเพิ่มเติม ทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและเงินสมทบลูกจ้างในสหราชอาณาจักรที่ส่งผ่านเข้าสู่ราคาสินค้า รวมถึงผลของมาตรการภาษีในสหรัฐที่อาจเพิ่มแรงกดดันต่อราคาช็อกโกแลตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“ผลลัพธ์คือ ผู้บริโภคอาจต้องเผชิญกับราคาช็อกโกแลตที่สูงไปอีกนาน” Hussain สรุป
อ้างอิง : www.cnbc.com