หนุ่มดัตช์เขยไทยไม่ทนบุกพบท่านทูต แฉพฤติกรรมเขมร วางระเบิด-ยิงใส่ไทย
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อสังเกตการณ์พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเพิ่งถูกฝังโดยฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอื่นๆ เพื่อชี้ให้ประชาคมโลกได้เห็นความจริงด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ และชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย ว่ากัมพูชาจงใจละเมิดอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา โดยเมื่อคณะเดินทางมาถึง ได้มีการพบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการเหยียบทุ่นระเบิด ก่อนเข้าห้องประชุมเพื่อรับฟังการบรรยายสรุป
ขณะเดียวกัน นางพิศมัย อังคณา มาพร้อมแฟนคือ มิสเตอร์รูจ ชาวเนเธอร์แลนด์ เพื่อรอพบกับทูตเนเธอร์แลนด์ ที่เดินทางมาในวันนี้ พร้อมเล่าความจริงทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กับทูตฟัง ซึ่งเจ้าตัวและมิสเตอร์รูจ ย้ายมาอยู่ประเทศไทยได้เป็นเวลา 2 ปีกว่า และเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันแรก (วันที่ 24 กรกฎาคม 2568) ทั้งคู่ก็ได้อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย และต่างหนีตายจากกระสุนปืนใหญ่ที่ทางทหารกัมพูชา ยิงมาใส่ฝั่งไทยในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จึงเดินทางมาดักรอพบทูตในวันนี้ เพื่อเล่าความจริงที่เจ้าตัวได้พบเจอให้ฟัง
นางพิศมัย เปิดเผยว่า ได้ทราบข่าวมาว่าท่านทูตเนเธอร์แลนด์ จะเดินทางลงมาศรีสะเกษ จึงได้ปรึกษาแฟนว่าสามารถมาได้ไหม และแฟนตกลงว่าจะมา ซึ่งตนกับแฟนได้ย้ายมาอยู่ประเทศไทยเป็นระยะเวลา 2 ปีกว่า และต้องมาเจอกับเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ต้องหนีระเบิดหัวซุกหัวซุน โดยที่เดินทางมาในวันนี้ ตั้งใจมาบอกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่ตนเจอเองและชาวไทยที่ต้องเจอเหตุการณ์ที่กัมพูชากระทำต่อประเทศไทย และอยากให้ท่านทูตทราบว่ามีประชากรตัวเองอยู่ในประเทศไทยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากประชุมเสร็จ นางพิศมัย ได้พบกับทูตประจำชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถึงแม้จะเป็นระยะเวลาอันสั้น แต่ทางทูตก็ได้ส่งยิ้มและโบกมือทักทาย