“สหรัฐ” เดินหน้าเจรจาการค้าต่อ แม้ศาลอุทธรณ์ชี้ “ภาษีทรัมป์” ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
USTR ย้ำคู่ค้าต่างชาติยังร่วมเจรจากับสหรัฐต่อไป แม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย "ภาษีทรัมป์" เกินขอบเขตอำนาจประธานาธิบดี ขณะที่ทำเนียบขาวเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุด และวางแผนใช้มาตรการทางกฎหมายอื่นค้ำยันภาษี
วันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 12.49 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเดินหน้าเจรจากับคู่ค้าทางการค้าต่างประเทศ แม้ศาลอุทธรณ์สหรัฐมีคำตัดสินว่าส่วนใหญ่ของมาตรการภาษีศุลกากรที่ทรัมป์ประกาศใช้นั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
กรีเออร์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ Fox & Friends ทางสถานีโทรทัศน์ Fox News ว่า “คู่ค้าของเรายังคงทำงานใกล้ชิดกับเราในการเจรจา หลายประเทศยังคงเดินหน้ากับข้อตกลงของพวกเขาโดยไม่สนใจว่าศาลจะพูดอะไรในช่วงระหว่างนี้”
เขาไม่ได้ระบุว่าขณะนี้สหรัฐฯ ยังคงอยู่ระหว่างเจรจากับประเทศใด แต่เปิดเผยว่าได้พูดคุยกับรัฐมนตรีการค้าคนหนึ่งในเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา
คำตัดสินของศาลครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อหนึ่งในเสาหลักของนโยบายต่างประเทศของทรัมป์นับตั้งแต่เขาเริ่มดำรงตำแหน่งสมัยที่สองในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยทรัมป์ใช้การเก็บภาษีสินค้านำเข้าเป็นเครื่องมือกดดันทางการเมืองและต่อรองข้อตกลงการค้า แม้มาตรการเหล่านี้จะทำให้ตลาดการเงินผันผวนมากขึ้นก็ตาม
ศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางประจำกรุงวอชิงตัน (U.S. Court of Appeals for the Federal Circuit) มีมติ 7 ต่อ 4 เมื่อวันศุกร์ ระบุว่า แม้รัฐสภาจะมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีดำเนินการได้อย่างกว้างขวางเมื่อเผชิญภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ แต่กฎหมายไม่ได้ ระบุชัดเจนว่าให้อำนาจเก็บภาษีศุลกากร อากร หรือภาษีในลักษณะนั้น
คำตัดสินดังกล่าวครอบคลุมถึงความชอบด้วยกฎหมายของมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ทรัมป์ประกาศในเดือนเมษายน รวมถึงภาษีที่เก็บกับจีน แคนาดา และเม็กซิโกในเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่กระทบต่อมาตรการที่ใช้อำนาจตามกฎหมายอื่น
ทรัมป์ออกมาตอบโต้ทันทีเมื่อวันศุกร์ โดยประกาศว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสหรัฐ ขณะที่ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มาตรการภาษียังคงมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อเปิดทางให้มีการอุทธรณ์
จอช ลิปสกี ประธานด้านเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศแห่งสถาบันคิด Atlantic Council กล่าวว่า ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้เตรียมรับมือกับคำตัดสินนี้ไว้แล้ว และมีแผนสำรองหลายชั้น เพื่อเดินหน้ามาตรการภาษีต่อไป หากประเทศอื่น ๆ คิดว่าพวกเขาจะได้ผ่อนปรนภาษี ก็คงต้องผิดหวัง มีทางเลือกสำรองหลายทาง แม้ในที่สุดศาลสูงจะเห็นด้วยกับศาลอุทธรณ์ก็ตาม
เขาชี้ว่าหนึ่งในทางเลือกคือการใช้มาตรา 338 ของกฎหมายการค้าปี 1930 ที่ให้อำนาจประธานาธิบดีสามารถเก็บภาษีนำเข้าได้สูงสุดถึง 50% หากพบว่าประเทศนั้น ๆ มีการเลือกปฏิบัติต่อการค้าของสหรัฐ
ทรัมป์ยังโพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันเสาร์ ระบุว่า“ปีใหญ่อีกปีหนึ่งสำหรับสหรัฐ อาจจะเป็นปีที่ดีที่สุด หากศาลอนุมัติภาษีเหล่านี้ในที่สุด!!!” ก่อนที่จะเดินทางไปยังสนามกอล์ฟในรัฐเวอร์จิเนียเมื่อวันอาทิตย์ เนื่องในช่วงวันหยุดแรงงาน (Labor Day) ของสหรัฐที่ตรงกับวันจันทร์
ด้านปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาการค้าทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ในรายการ Sunday Morning Futures With Maria Bartiromo ของ Fox News ว่ารัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่าศาลสูงสหรัฐ ซึ่งมีเสียงข้างมากฝั่งอนุรักษ์นิยม 6 ต่อ 3 จะสนับสนุนมาตรการภาษีของทรัมป์
ขณะที่ เจมส์ แลงค์ฟอร์ด วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน เปิดเผยกับ Meet the Press ทาง NBC News ว่า บริษัทต่าง ๆ ที่เขาพูดคุยด้วยล้วนต้องการให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด “ทุกครั้งที่มีการพิจารณาคดีใหม่ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง มันสร้างความปั่นป่วนต่อทุกธุรกิจของเรา ดังนั้นเราต้องเร่งแก้ปัญหานี้ให้ได้เร็วที่สุด”
อ้างอิง : reuters.com