โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

มากกว่าอาหารจานหรู ‘ปู’ คือนักทำความสะอาดแห่งท้องทะเล ที่กำลังจำนวนลดลงเพราะมนุษย์

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

บนจานอาหารในภัตตาคารสุดหรูสักแห่งมักมีอาหารอันเลอค่าและหายากวางอยู่ ไม่ว่าจะเป็นไข่ปลาคาเวียร์ กุ้งล็อบสเตอร์หรือฟัวกราส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ทะเล รวมไปถึง ‘ปู’ บางชนิดที่ถูกนับว่าเป็นอาหารอันเลิศหรู เช่น ปูอลาสก้าและปูหิมะ เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่และหายาก แม้จะไม่ใช่ปูทุกชนิดที่จะราคาแพงหูฉี่เสมอไป ยังมีปูอีกหลายชนิดที่ยังมีราคาจับต้องได้และหาได้ตามร้านอาหารทั่วไป เช่น ปูม้าหรือปูแสม

คนไทยเราอาจคุ้นเคยกับการกินปูในส้มตำ ข้าวผัด ยำ หรือไข่เจียวปูที่เพิ่งเป็นกระแสในโลกออนไลน์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดการถกเถียงในหลากหลายประเด็นจากจุดเริ่มต้นที่มาจากปัญหาราคาในเมนูไม่ตรงกับราคาจ่ายจริงโยงไปสู่เรื่องราคาไข่เจียวปูที่ราคาสูงจนหลายคนตั้งข้อสงสัย

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ ‘ปู’ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความพรีเมียม ซึ่งปัจจุบันปูกลายเป็นอาหารราคาแพงมากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ทั่วโลกที่ลดลงรวมถึงปูในไทยเองก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

จากสถิติของกรมประมง พบว่าปริมาณการจับปูม้าเคยสูงถึง 40,100 ตันในปี 2540 แต่ในปี 2550 ลดลงเหลือเพียง 24,200 ตัน ซึ่งคาดว่าเป็นเพราะการทำประมงเกินขนาดที่มีปัจจัยสำคัญคืออุตสาหกรรมอาหารที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และภายหลังเริ่มมีการฟื้นฟูทำให้ในปี 2564 มีปริมาณการจับปูม้ามากขึ้นถึง 36,245 ตัน

แม้ปัจจุบันจะมีความพยายามฟื้นฟูปูไทยมากขึ้น เช่น การทำธนาคารปูม้า เพื่อเพาะเลี้ยงลูกปูและปล่อยลงทะเล แต่จากข้อมูลสถิติในระยะยาวยังแสดงให้เห็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะความเสื่อมโทรมของป่าชายเลนที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และอนุบาลตัวอ่อนที่สำคัญของปู

แม้โดยทั่วไปหลายคนอาจรู้จักปูในฐานะอาหารมากกว่า แต่ชีวิตของปูยังมีเรื่องราวมากมายที่น่าสนใจ เช่น วิถีชีวิต ความแตกต่างของสายพันธุ์ รวมไปถึงความสำคัญในระบบนิเวศและอารยธรรมมนุษย์

ไทยรัฐพลัสชวนทำความรู้จักในตัวตนของ ‘ปู’ ในด้านอื่นๆ ที่สัมพันธ์กับธรรมชาติและวัฒนธรรมมนุษย์ ก่อนพวกมันจะเหลือตัวตนเพียงแค่อาหารสุดหรูบนจาน

ปูใช้ชีวิตอย่างไร

ในทางวิทยาศาสตร์ ปูจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในกลุ่มเดียวกับแมลงและแมงมุม และจัดอยู่ในสัตว์มีเปลือกแข็งกลุ่มเดียวกับกุ้งและกั้ง หายใจด้วยเหงือกและนับเป็นสัตว์น้ำ ที่มีทั้งปูทะเลและปูน้ำจืด สามารถขึ้นมาบนบกได้ชั่วคราวแต่ต้องเป็นที่ชื้น

เราอาจคุ้นเคยกันว่าปูจะเดินตะแคงและมีจำนวนขามากรวม 10 ขา(รวมก้ามปู) ขาเหล่านี้มีหน้าที่แตกต่างกันไป ทั้งการป้องกันตัว จับอาหาร เคลื่อนที่ และว่ายน้ำ สังเกตได้จากขาที่เป็นขาปกติสำหรับเดิน 3 คู่และขาล่างที่เป็นทรงแบนไว้สำหรับว่ายน้ำ

ส่วนการผสมพันธุ์ ปูตัวผู้จะใช้ขาที่เรียกว่า เพลโอพอด (Pleopods) ในการถ่ายอสุจิให้แก่ปูตัวเมีย ปูตัวเมียจะเก็บอสุจิไว้ในร่างกายจนกว่าจะพร้อมที่จะวางไข่ เมื่อไข่ฟักตัวอ่อนปูจะออกมาในระยะแรกที่เรียกว่า โซอีอา (zoea) ซึ่งมีลักษณะคล้ายแพลงก์ตอนและจะล่องลอยไปตามกระแสน้ำ

จากนั้นจะพัฒนาไปเป็นระยะที่สองที่เรียกว่า เมกาโลปา (Megalopa) ซึ่งมีลักษณะคล้ายปูขนาดเล็กแต่ยังคงมีหางอยู่ ก่อนจะเจริญเติบโตเป็นปูวัยอ่อนที่โตเต็มวัย (Young crab) ในที่สุด ซึ่งธนาคารปูที่เพาะเลี้ยงปูไว้จะเลือกปล่อยปูในวัยนี้เพื่อให้ลูกปูเติบโตในทะเลต่อไปและมีโอกาสรอดมากกว่าลูกปูช่วงเริ่มฟักไข่

อายุขัยของปูในแต่ละสายพันธุ์ก็จะแตกต่างกันไป เช่น ปูม้ามีอายุขัยประมาณ 1-3 ปี ถือว่าค่อนข้างสั้นทำให้ปูม้ามีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็วเมือถูกจับมากเกินไป ขณะที่ปูทะเลหรือปูดำ (Mud Crab) และปูแสม มีอายุขัยประมาณ 5 ปีเท่ากัน ส่วนปูขนาดใหญ่และหายากอย่าง ปูอลาสก้าคิงแครบจะมีอายุมากถึง 20-30 ปี ปูหิมะ มีอายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปี และปูแมงมุมยักษ์ญี่ปุ่น ปูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอาจอยู่ได้ถึง 100 ปี ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุขัยมีหลากหลายด้านทั้ง สายพันธุ์ การถูกล่าจากสัตว์อื่น การประมงและสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิน้ำ คุณภาพน้ำ และแหล่งอาหาร

สายพันธุ์ของปูยังมีความสามารถโดดเด่นแตกต่างกันไป เช่น ปูม้าถูกตั้งชื่อว่าปูม้าเพราะว่ายน้ำได้เร็วเหมือนม้า หรือปูแฮร์รี่พแล็กซ์ เซเวอรัส (Harryplax severus) ถูกตั้งชื่อตามเซเวอรัส สเนป ตัวละครใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะนิสัยของปูชนิดนี้มักชอบหลบซ่อนในที่มืดๆ และไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็นนัก ทำให้ยากจะทำการศึกษาและกลายเป็นสัตว์ที่ไม่มีใครรู้ความลับของมัน เหมือนกับตัวละครเซเวอรัส สเนปที่เต็มไปด้วยความลับ นอกจากนี้ยังมีปูบางชนิดที่มีพิษด้วย เช่น ปูใบ้ (Box Crab)

แม้สายพันธุ์ปูส่วนใหญ่ยังไม่ถือว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แต่จำนวนปูที่ลดลงย่อมส่งผลต่อระบบนิเวศในทะเลโดยรวม ซึ่งปูหลายชนิดมีบทบาทสำคัญเป็น ‘ผู้ย่อยสลาย’ ในการกินซากพืช ซากสัตว์ และเศษซากอินทรีย์ต่างๆ ที่จมลงสู่พื้นทะเล หรือเรียกง่ายๆว่า ปูช่วยทำความสะอาดทะเลไม่ให้น้ำเน่าเสียจนส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในทะเล

นอกจากนี้ปูที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนหรือพื้นที่ที่มีโคลนจะขุดรูเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัย พฤติกรรมนี้ช่วย พลิกและเติมอากาศในดิน ทำให้ดินมีสภาพดีขึ้นและส่งเสริมการเจริญเติบโตของต้นไม้อย่างโกงกาง และรังปูยังเป็นที่อยู่อาศัยและที่หลบภัยสำหรับสัตว์อื่นๆ ในป่าชายเลนอีกด้วย

นักวิทยาศาสตร์จึงมักใช้ปูเป็นตัวชี้วัดเพื่อประเมินความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล เนื่องจากปูมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ระดับออกซิเจน และมลพิษ หากประชากรปูลดลงหรือมีพฤติกรรมที่ผิดปกติอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าระบบนิเวศนั้นกำลังมีปัญหา

คนเริ่มกินปูตั้งแต่เมื่อไหร่

จากการศึกษาฟอสซิล นักบรรพชีวินวิทยาพบหลักฐานว่าปูในยุคแรกๆ เริ่มปรากฏขึ้นเมื่อประมาณ 200 ล้านปีที่แล้ว ในช่วงยุคจูราสสิกตอนต้น ฟอสซิลปูที่เก่าแก่ที่สุดที่ถูกค้นพบมีลักษณะคล้ายปูในปัจจุบันอย่างมาก แต่มีส่วนย่อยที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะรูปร่างของก้ามและลำตัว

ในการค้นคว้าทางโบราณคดีและมานุษยวิทยายังพบอีกว่ามนุษย์เริ่มกินปูมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งหลักฐานที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งมาจากการค้นพบในถ้ำฟิกูเอย์รา บราวา (Gruta da Figueira Brava) ทางตอนใต้ของโปรตุเกส ที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า มนุษย์นีแอนเดอร์ทัล บรรพบุรุษมนุษย์อีกสายพันธุ์หนึ่งใช้ไฟย่างปูและกินปูเป็นอาหารหลักมาตั้งแต่ประมาณ 90,000 ปีที่แล้ว ซึ่งแสดงถึงการพัฒนาในยุคนั้น

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานอื่น ๆ ในหลายพื้นที่ทั่วโลกทั้งกองเปลือกหอยและกระดูกสัตว์ทะเลที่บ่งชี้ว่ามนุษย์ในยุคแรก ๆ ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลกินอาหารทะเลรวมถึงปูด้วยเมื่อกว่า 125,000 ปีที่แล้ว โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาและเอเชีย

ในตำนานเก่าแก่ทั่วโลกยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับปูบันทึกไว้มากมาย เช่น ในตำนานกรีก ปูมีบทบาทสำคัญในเรื่องราวของ เฮราคลีสและไฮดรา(งูยักษ์ที่มีหลายหัว)ที่เมืองเลิร์นา ขณะที่เฮราคลีสกำลังต่อสู้กับไฮดรา เทพีเฮร่าส่งปูยักษ์ที่มีชื่อว่า คาร์คินอส (Karkinos) มาเพื่อก่อกวนเฮราคลีส แม้ว่าเฮราคลีสจะสามารถกำจัดมันได้ แต่เทพีเฮร่าก็ได้ยกย่องคาร์คินอสด้วยการนำมันไปไว้บนท้องฟ้า และกลายเป็นกลุ่มดาว ราศีกรกฎ (Cancer) ซึ่งเป็นตัวแทนของปู

ในญี่ปุ่นปูชื่อเฮอิเกะที่มีกระดองเป็นเอกลักษณ์คล้ายใบหน้าบึ้งตึงของซามูไร ซึ่งมีที่มาจากตำนานโบราณในช่วงศตวรรษที่ 12 ได้เกิดสงครามกลางเมืองอันนองเลือดระหว่างสองตระกูลการเมืองที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ได้แก่ ตระกูลมินาโมโตะ(เก็นจิ) และตระกูลไทระ(เฮอิเกะ) ในช่วงที่สงครามสิ้นสุดลงเมื่อปี 1185 เฮอิเกะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เฮอิเกะจึงเลือกกระโดดน้ำลงทะเลและจมน้ำเสียชีวิตแทนที่จะถูกจับ จึงมีความเชื่อกันว่าดวงวิญญาณของนักรบเฮอิเกะที่เสียชีวิตในทะเลได้ฝังอยู่ในปูที่คลานอยู่ก้นทะเล กระดองปูจึงกลายร่างเป็นรูปหน้าบึ้งตึง เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความแค้นที่ไม่มีวันสิ้นสุดของตระกูลเฮอิเกะ

ขณะที่ในวัฒนธรรมจีน เชื่อว่าปูถือเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและโชคลาภ คำว่าปูในภาษาจีนออกเสียงว่า ‘เซี่ย’ (蟹) ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า ความปรองดอง (和諧) ในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปูขนถือเป็นอาหารมงคลที่ขาดไม่ได้ เพราะเป็นช่วงที่ปูมีไข่เต็มกระดองและมีรสชาติอร่อยที่สุด การกินปูในวัฒนธรรมจีนจึงเป็นการฉลองความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จในชีวิต

ส่วนในไทยในหลายท้องถิ่นมีความเชื่อว่าหากมีปูเดินเข้าบ้านถือเป็นเรื่องลางดี ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์และความโชคดีที่จะมาสู่คนในบ้าน และยังมีความเชื่อว่าหากปล่อยปูจะช่วยสะเดาะเคราะห์ ปลดปล่อยความทุกข์หรืออุปสรรคต่าง ๆ ที่ติดอยู่ในชีวิตไปได้ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้เป็นอีกหลักฐานสำคัญว่าปูผูกโยงกับอารยธรรมของผู้คนมาตั้งแต่ในอดีต

เมื่อเข้าสู่ช่วงที่มนุษย์เริ่มพัฒนาและก้าวหน้าขึ้นมากในช่วงยุคกลางและยุคใหม่ตอนต้น เริ่มมีกลุ่มชนชั้นแรงงานและปูถือเป็นอาหารคนจนหรืออาหารสำหรับชาวประมง เนื่องจากเป็นอาหารที่หาได้ง่ายและมีราคาไม่แพง เช่นเดียวกับล็อบสเตอร์

ในยุโรปและอเมริกาช่วงศตวรรษที่ 19 ล็อบสเตอร์และปูบางชนิดถือเป็นอาหารของคนจนและมักใช้เป็นอาหารเลี้ยงนักโทษหรือทาส เนื่องจากมีปริมาณมากและราคาถูก

ต่อมาในยุคสมัยใหม่ เมื่อการขนส่งอาหารจากทะเลไปในเมืองใหญ่มีความสะดวกมากขึ้น อาหารทะเลสดจึงเริ่มกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา และเข้าสู่ช่วงที่ปูบางชนิด เช่น ปูหิมะ หรือปูยักษ์อะแลสกาถูกยกระดับให้เป็น อาหารราคาแพง และกลายเป็นเมนูยอดนิยมในร้านอาหารหรู

จากเดิมที่ปูเป็นอาหารท้องถิ่นก็เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ทำให้มีชนชั้นสูงและเศรษฐียอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับการได้ลิ้มลองรสชาติอาหารสุดพิเศษ

ปูในโลกปัจจุบัน

ปัจจุบันปูยังคงเป็นที่นิยมของผู้คนอยู่และมีความต้องการมากขึ้นในบางประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย เช่น จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้,ไทย, เวียดนาม และสิงคโปร์ ทำให้มีการนำเข้าปูในภูมิภาคเหล่านี้มากขึ้นและในสหรัฐอเมริกาและยุโรปก็ยังคงนิยมกินปูในร้านอาหารหรูระดับพรีเมียม

ขณะเดียวกันก็มีประเทศที่ไม่นิยมกินปู เช่น พม่า ส่วนใหญ่ชาวพม่าไม่ได้บริโภคปูเป็นอาหารหลักเหมือนกับคนไทยหรือคนจีน แต่นิยมกินปลาและกุ้งมากกว่า อีกทั้งปูยังมีราคาสูงทำให้คนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่ไม่ใช่ว่าคนพม่าทุกคนไม่กินปู ในบางภูมิภาค เช่น รัฐยะไข่ที่อยู่ติดทะเลก็มีการกินปูอยู่ แต่ด้วยภูมิประเทศใกล้ทะเลทำให้พม่าเลือกส่งออกปูมากกว่าเพื่อหารายได้ โดยเฉพาะการส่งออกไปไทย

อีกประเทศคืออิตาลี เพราะคนอิตาลีไม่คุ้นชินกับการกินปู แต่มักนิยมกินหอยมากกว่า เนื่องจากโดยปกติแล้วปูในอิตาลีมีจำนวนน้อย ทำให้ไม่มีวัฒนธรรมการนำปูมาปรุงอาหารหรือเมนูอาหารปูที่สืบทอดกันมา ทำให้ในช่วงที่อิตาลีเผชิญกับปัญหาปูน้ำเงินรุกรานและแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงหอยของอิตาลี รัฐบาลอิตาลีเลือกที่จะนำปูเหล่านี้มาแปรรูปเป็นอาหารและส่งออกไปขายในประเทศที่นิยมกินปูอย่างจีนหรือสหรัฐฯ แทน

นอกจากนี้ยังมีคนบางกลุ่มเลือกหลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภคปู เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและหันไปให้ความสำคัญกับการบริโภคที่ยั่งยืน เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาประมงเกินขนาด การทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย และการจับปูในวัยอ่อนหรือปูไข่ โดยบางคนเลือกแหล่งขายปูที่ทำประมงแบบยั่งยืน เช่น ปูจากชาวประมงพื้นบ้าน หรือปูที่มาจากการเพาะเลี้ยงเพื่อบริโภค และบางคนเลือกกินปูในโอกาสสำคัญเท่านั้น เพื่อลดความถี่ในการกินปู

เมื่อปูกลายเป็นสัตว์น้ำทางเศรษฐกิจ การฟื้นฟูจึงเริ่มถูกให้ความสำคัญมากขึ้นในหลายประเทศและแต่ละประเทศใช้แนวทางที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับบริบทของประเทศนั้นๆ เช่น ในไทยเน้นใช้วิธีการให้ชุมชนมีส่วนในการอนุรักษ์ โดยการจัดตั้งธนาคารปูม้าหลายแห่งในไทย และมาตรการรัฐที่ควบคุมการทำประมงด้วยการปิดอ่าวในบางฤดูและกำหนดขนาดปูที่จับได้

ขณะที่ในต่างประเทศเน้นใช้มาตรการรัฐเป็นหลัก ในรัฐอะแลสกา สหรัฐอเมริกา ตัดสินใจห้ามชาวประมงจับปูเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน(ประมาณ 2 ปี) แม้จะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล แต่แนวทางนี้ถือเป็นมาตรการที่เด็ดขาดและเป็นความจำเป็นเพื่อฟื้นฟูจำนวนปูในระยะยาว ปัจจุบันพื้นที่นี้เปิดให้ทำประมงปูหิมะอีกครั้งแล้ว แต่สามารถจับได้ในปริมาณจำกัดมาก เนื่องจากมีกฎควบคุมที่เข้มงวดกว่าแต่ก่อน ส่วนในพื้นที่อื่นเช่น อ่าวเชซาพีกทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกาใช้วิธีกำหนดโควตาการจับปูและมีการวิจัยศึกษาเพื่อติดตามจำนวนปูอย่างต่อเนื่อง

ส่วนประเทศแคนาดา ในรัฐบริติชโคลัมเบียและโนวาสโกมีแนวทางการจัดการตามหลัก 3S (Size, Sex, and Season) คืออนุญาตให้จับเฉพาะปูที่มีขนาดใหญ่พอ และอนุญาตให้จับเฉพาะปูตัวผู้เท่านั้น ส่วนปูตัวเมียและปูไข่จะต้องปล่อยกลับสู่ทะเล และมีการกำหนดฤดูกาลจับปลาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไปกระทบกับช่วงที่ปูกำลังลอกคราบหรือผสมพันธุ์ ซึ่งในออสเตรเลียก็ใช้แนวทางคล้ายกัน

ราคาปูในยุคสมัยนี้จึงเริ่มแพงขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต เนื่องจากความต้องการบริโภคปูมากขึ้นสวนทางกับปูที่มีอยู่ตามธรรมชาติและการควบคุมการทำประมงที่เข้มงวดขึ้น ฉะนั้นยิ่งปูมีราคาแพงมากขึ้นเท่าไหร่นั่นยิ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่าทรัพยากรธรรมชาติกำลังเสื่อมโทรมมากขึ้นเรื่อยๆ

ในสถานการณ์ที่ปูเริ่มหายากขึ้นและราคาแพงขึ้น และร้านอาหารหลายแห่งต้องการนำเสนอเมนูปูสุดพรีเมียม ผู้บริโภคจึงต้องมาคำนึงและระมัดระวังราคาปูที่คิดตามน้ำหนักไปด้วย

แต่อย่างไรปูยังถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญ หากเรายังอยากให้ปูอันแสนอร่อยและยังมีคุณค่าต่อระบบนิเวศนี้ไม่กลับกลายเป็นเพียงอาหารราคาแพงจานหนึ่ง การฟื้นฟูให้ปูกลับสู่ท้องทะเลคืออีกทางหนึ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้ ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจเห็นปูในราคาที่ไม่ว่าใครก็มีโอกาสลิ้มลองมันเช่นในอดีตอีกครั้ง

อ้างอิง: repository.si.edu, nationalgeographic.com, fisheries.noaa.gov, openknowledge.worldbank.org, Science Advances, greekmythology.com, yokai.com/heikegani, smithsonianmag.com, pmc.ncbi.nlm.nih.gov

บทความต้นฉบับได้ที่ : มากกว่าอาหารจานหรู ‘ปู’ คือนักทำความสะอาดแห่งท้องทะเล ที่กำลังจำนวนลดลงเพราะมนุษย์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : plus.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

"ผู้คนมากมายกระเสือกกระสนในการใช้ชีวิต และผมอยากซื่อสัตย์กับประเด็นนี้ที่สุด" ว่าด้วยภาษาหนังอันน่าอึดอัดและขันขื่นของ ‘พัค ชานอุค’ ผู้กำกับหนังเกาหลีแห่งศตวรรษที่ 21

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ฝ่ายขวาอังกฤษติดธงชาติ ต่อต้านผู้ลี้ภัย ขับไล่ผู้อพยพ

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

นักเรียน ม.4 ซิ่งบิ๊กไบก์ แซงมาหลายคัน พุ่งชนท้ายรถสิบล้อ อาการสาหัส

มุมข่าว

กองกำลังบูรพาประกาศกฎอัยการศึกบ้านหนองจาน เหตุกัมพูชานำประชาชนก่อเหตุจลาจล

JS100

Global Minerals Trust กองทุนแร่ธาตุโลก รับศึกดีมานด์พลังงานสะอาด

ฐานเศรษฐกิจ

อุตุเตือนเช็กสภาพอากาศก่อนเดินทาง “ภาคใต้” 14 จว. ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

เดลินิวส์

กรมอุตุนิยมวิทยา สภาพอากาศวันนี้ ฝนยังถล่ม 3 ภาคหนักสุด เปิดชื่อ 37 จังหวัด โดนเต็มๆ กทม.ไม่รอด

Khaosod

ได้มากกว่าเครื่องบิน!ไทย-สวีเดนกระชับความร่วมมือแน่นแฟ้น ท่ามกลางความตึงเครียดกัมพูชา

Manager Online

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ตุลาการศาลปกครองสูงสุด 9 ราย

Khaosod

ศาลรัฐธรรมนูญลงมติอ่านคำวินิจฉัย คดีคลิปเสียงสนทนา แพทองธาร-ฮุนเซน วันนี้

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

ยกฟ้องทักษิณ คดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้ ปี 2558

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

ฝ่ายขวาอังกฤษติดธงชาติ ต่อต้านผู้ลี้ภัย ขับไล่ผู้อพยพ

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

อิสรภาพจากมาตรา 112: 8 ปี 4 เดือน 19 วัน ของ ‘อัญชัญ ปรีเลิศ’

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...