SOCIETY: ศิลปินไต้หวันใช้แอปหาคู่ ถ่ายภาพนู้ดคนแปลกหน้า สะท้อนความสัมพันธ์ยุคใหม่ ใกล้ชิด รวดเร็ว แต่ชั่วคราว
นี่คือเรื่องราวและผลงานของ ‘เจเรมี ฉือ-หาว จวง’ (Jeremy Chih-Hao Chuang) ศิลปินชาวไต้หวันที่อาศัยอยู่ในลอนดอน ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เขาได้ถ่ายภาพผู้ชายที่เขาพบผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ เพื่อสร้างคลังภาพของความสัมพันธ์แบบชั่วครั้งชั่วคราว เป็นภาพที่ใกล้ชิดแต่เปราะบาง และสะท้อนถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวในความสัมพันธ์แบบฉาบฉวยที่คนยุคนี้ต้องเผชิญ
โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า ‘Ephemeral Intimacy’ หรือ ‘ความใกล้ชิดแสนสั้น’ โดยจะเป็นภาพขาวดำของศิลปินและคนแปลกหน้าอยู่ร่วมเฟรมกันในบ้านของอีกฝ่าย ขณะที่ศิลปินเองจะใส่เสื้อผ้าปิดมิดชิด ส่วนอีกคนเปลือยเปล่าและกำลังทำกิจวัตรธรรมดาๆ อย่างพับผ้า เข้าห้องน้ำ ทำอาหาร หรือนั่งเล่นดินน้ำมัน
เจเรมีได้ให้สัมภาษณ์กับ Vice ว่า จุดเริ่มต้นของภาพถ่ายชุดนี้มาจากชีวิตของเขาเองที่เติบโตมาจากครอบครัวหัวโบราณที่ไต้หวัน ซึ่งคาดหวังให้ลูกเดินตามเส้นทางความรักแบบชายหญิง แต่พอย้ายมาอยู่ลอนดอน ทุกอย่างก็เปิดกว้างขึ้น เขาเริ่มใช้แอปหาคู่ ไม่ใช่แค่หาเซ็กซ์หรือเดต แต่เพื่อสำรวจตัวตนของตัวเองด้วย
ในภาพถ่ายของเขา เจเรมีเลือกที่จะใส่เสื้อผ้าเสมอ เพราะเขามองว่ามันคือ ‘เกราะ’ ที่ให้ความรู้สึกมั่นคง ควบคุม และมีศักดิ์ศรี แต่ขณะเดียวกัน มันก็ซ่อนตัวตนบางอย่างเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะเรื่องเพศและความเปราะบางของเขา
ที่น่าสนใจคือเขาไม่เคยถ่ายที่บ้านตัวเองเลย เขาไปที่บ้านของอีกฝ่ายทุกครั้ง เพราะเขารู้สึกว่าบ้านของใครสักคนบ่งบอกอะไรได้มากมาย ทั้งการจัดวางข้าวของ ของในตู้เย็น หรือแม้แต่สิ่งที่เจ้าของบ้านเลือกจะไม่วางไว้ให้เห็นเลยก็ตาม
ในภาพถ่ายของเจเรมี บรรยากาศจะชวนให้นึกถึงความฝันเล็กๆ ที่ใครหลายคนเคยมีตอนเดตกับใครใหม่ๆ เช่น ความคิดประมาณว่า “จะเป็นยังไงนะถ้าเราใช้ชีวิตด้วยกัน?” ทั้งที่บางคนอาจเพิ่งเจอกันไม่กี่ชั่วโมง แต่กลับต้องแชร์พื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอนร่วมกันอย่างรวดเร็ว
เขาเล่าว่าแต่ละภาพมีบทสนทนาของมัน เริ่มจากคุยกัน ทำความรู้จัก ฟังว่าอีกฝ่ายใช้ชีวิตยังไง คนหนึ่งชอบปั้นดินน้ำมันเพื่อบำบัดตัวเอง เขาก็ถ่ายภาพตอนคนนั้นกำลังปั้นดินจริงๆ อีกคนชอบเพลงคลาสสิก เขาก็เปิดเพลงเล่นให้ฟัง สุดท้ายกิจกรรมธรรมดาๆ เหล่านี้เองที่กลายเป็นช่วงเวลาเงียบๆ ที่ลึกซึ้ง จริงใจ และมีค่าสำหรับศิลปินอย่างเจเรมี
ภาพถ่ายคอลเลกชันนี้ เจเรมีตั้งชื่อว่า ‘Ephemeral Intimacy’ มาจากความรู้สึกของเขาที่มีต่อความสัมพันธ์ในโลกยุคนี้ ที่เซ็กซ์หาไม่ยาก แต่ความรักกลับแทบจับต้องจริงไม่ได้เลย ทุกอย่างรวดเร็ว ฉาบฉวย และเทคโนโลยีก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูง่ายดายไปหมด
อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าบางคนที่เขาชวนถ่ายรูปก็มีเงื่อนไข เช่น ต้องมีอะไรกันก่อนถึงจะถ่ายได้ และเขาก็ต้องตัดสินใจว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ ส่วนคนที่ร่วมโปรเจกต์จริงๆ โดยไม่มีเงื่อนไขก็มีเช่นกัน และเขาก็รู้สึกขอบคุณ เพราะการที่ใครสักคนยอมถอดกางเกงเพื่อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่เซ็กซ์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ในท้ายที่สุด โปรเจกต์งานศิลปะชิ้นนี้ของเขาไม่เพียงสะท้อนความจริงของชีวิตคนแปลกหน้า แต่ยังสะท้อนความจริงของความสัมพันธ์ในยุคนี้อย่างตรงไปตรงมา เพราะตัวศิลปินเอง ในระหว่างที่เขาบันทึกความสัมพันธ์แสนสั้นกับคนแปลกหน้านั้น เขาก็กำลังถามตัวเองเช่นกันว่า “แล้วเราจะได้เจอความรักจริงๆ บ้างไหม?”