เกษตรกรชาวสวนผลไม้จันทบุรีพร้อมใจงดบินโดรนพ่นยาหลังมีการประกาศห้ามบินทั่วประเทศไม่หวั่นกระทบรายได้
วันที่ 31 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ จังหวัดจันทบุรี เกษตรกรชาวสวนผลไม้ พร้อมด้วยผู้ประกอบการรับจ้างบินโดรนทางการเกษตร ต่างพร้อมใจให้ความร่วมมือ งดการนำอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนของพลเรือนทุกประเภททำการขึ้นบิน โดยเฉพาะจันทบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรม มีชาวสวนและผู้ประกอบการ ที่ใช้โดรนทางเกษตรจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมี โดรนขนาดเล็กน้ำหนักไม่เกิน 250 กรัม แต่ติดกล้อง ซึ่งต้องมีการขึ้นทะเบียนกับ กสทช.และการบินพลเรือน เพื่อใช้ในการทำงาน และการท่องเที่ยว ให้ความร่วมมือหยุดขึ้นบินเช่นกัน
สืบเนื่องจาก สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศ ห้ามทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภท
ในพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค.2568 จนถึงวันที่ 15 ส.ค.2568 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ซึ่งการประกาศครั้งนี้มีขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต่าง ๆ
โดยในส่วนของผู้ประกอบการรับจ้างบินโดรนทางการเกษตร “โชคไพศาล” เปิดเผยว่า หลังจากมีประกาศจากหน่วยงานความมั่นคง ห้ามผู้ใด "บินโดรน" ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน “ทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร” ทางทีมงานจึงได้เรียกทีมปฏิบัติการทั้งหมด 5 ทีม ซึ่งปกติปฏิบัติงานครอบคลุมหลายอำเภอในพื้นที่ กลับฐานทันที พร้อมนำอุปกรณ์และเครื่องบินโดรนทั้งหมด มาทำความสะอาด ตรวจสอบ และหยุดให้บริการชั่วคราวตามคำสั่งที่ผ่านมา ทีมโดรนแต่ละทีมสามารถพ่นสาร และยาในพื้นที่เกษตรได้กว่า 500 - 800 ไร่ต่อวัน ช่วยลดภาระของเกษตรกร และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้สารเคมีได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคำสั่งห้ามบิน เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องหยุดงานทันทีเพื่อความปลอดภัยและปฏิบัติตามแนวทางของทางการ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเข้าใจในมาตรการของภาครัฐ และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ พร้อมย้ำว่า หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ทีมงานทั้งหมดพร้อมกลับมาปฏิบัติภารกิจเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย