พาณิชย์ คลอด 4 มาตรการ ช่วยผู้ประกอบการ–เกษตรกร รับมือชายแดนไทย–กัมพูชา
วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามและเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการเกษตรกร และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชาอย่างเต็มที่
นายจตุพร ระบุว่า ได้สั่งการด่วนไปยังพาณิชย์จังหวัด ทั้ง 7 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับกัมพูชา ให้เข้มงวดดูแลสินค้า “ห้ามขาด ห้ามแพง” เพื่อป้องกันการขาดแคลนและการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า พร้อมจัดหาสินค้าจำเป็นเข้าไป เสริมโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และผลักดันแนวทาง “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” เสริมความแข็งแกร่งเศรษฐกิจในประเทศ
โดยได้ดำเนินการ 4 มาตรการหลัก ดังนี้
1. กำกับดูแลราคาและปริมาณสินค้ากระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าในร้านค้าชายแดนและศูนย์พักพิงทุกจังหวัด พบว่าสินค้ายังเพียงพอและไม่มีการปรับขึ้นราคาเกินสมควร
สำหรับสินค้าจำเป็นบางรายการ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง สเปรย์กันยุง และผ้าอ้อมเด็ก/ผู้ใหญ่ ซึ่งมีความต้องการมากกว่าปกติในช่วงนี้ ก็ได้ประสานห้างร้านต่างๆ ให้เติมเต็มสินค้าและวางแผนบริหารจัดการสินค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบป้ายราคา เครื่องชั่ง และราคารับซื้อสินค้าเกษตรอย่างเข้มงวดรวมทั้งจัดงาน “ธงฟ้าราคาประหยัด” เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนด้วย
2. เชื่อมโยงตลาดและจัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้เชื่อมโยงระบายผลผลิตทางการเกษตร 19 ครั้ง ปริมาณเกือบ 79 ตัน มูลค่ากว่า 2.55 ล้านบาท และเปิดจุดจำหน่ายสินค้า 33 ครั้ง มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท
อีกทั้งนำผู้ประกอบการเข้าร่วมมหกรรมการค้าชายแดน 5 ครั้ง สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการนำสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งผักผลไม้กว่า 600 ตัน ไปจำหน่ายในตลาดลาว เมียนมา มาเลเซีย และจีน
ขณะเดียวกันก็ได้จัดกิจกรรม “Thai Fruits Festival 2025” เพื่อกระจายผลผลิตผลไม้ผ่านช่องทางที่หลากหลาย เช่น ปั๊มน้ำมัน สายการบิน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน และผ่านบริการของไปรษณีย์ไทยฟรี
3. ส่งเสริมสินค้าไทยในกัมพูชาและตลาดทางเลือกกระทรวงพาณิชย์ได้เดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยในหลายรูปแบบตามสถานการณ์ เช่น การเจรจาจับคู่ธุรกิจผ่านทางช่องทางออนไลน์การหารือกับเครือข่ายผู้นำเข้าสินค้า รวมทั้งห้างสรรพสินค้าต่างๆ และมีแผนงานแสดงสินค้าเมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยในกัมพูชา ขณะเดียวกันก็ผลักดันการหาตลาดใหม่ในประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียนด้วย
4. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) กระทรวงพาณิชย์ได้ประสาน SME D Bank และ EXIM Bank เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้นำเข้าส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น การพักชำระหนี้ การเสริมทุนหมุนเวียน และให้เงินกู้ระยะยาว พร้อมสำรวจความต้องการสินเชื่อเพิ่มเติมและประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น