คลัง จัดเก็บรายได้ 9 เดือนพลาดเป้า 3 หมื่นลบ. จากภาษีรถยนต์-นิติบุคคล ต่ำกว่าคาด
คลัง จัดเก็บรายได้ 9 เดือนแรก ปีงบฯ 2568 รวม 2.04 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 3 หมื่นล้านบาท จากการจัดเก็บภาษีรถยนต์ นิติบุคคล และ VAT นำเข้า ต่ำกว่าเป้า เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้
30 ก.ค. 2568 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังพยายามจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามประมาณการ สำหรับการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ปรับลดลงเป็นรายได้ภาษีที่ได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมยานยนต์จากมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV และภาษีนิติบุคคล อย่างไรก็ตามภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไม่ได้รับผลกระทบทางด้านรายได้
“ภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT ไม่น่าจะได้รับผลกระทบในเรื่องของการจัดเก็บรายได้ สะท้อนให้เห็นจากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บในประเทศที่ขยายตัวได้ดี และเติบโตติดต่อกันมา 9 ไตรมาส ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนซึ่งเป็นปัจจัยในการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้”
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังพยายามที่จะจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามประมาณการ โดยมีการเร่งรัดกรมจัดเก็บภาษีหลัก ได้แก่ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
รายงานจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567 – มิ.ย.2568) ระบุว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิรวม 2,046,090 ล้านบาท โดยต่ำกว่าประมาณการ 30,314 ล้านบาท หรือ 1.5% แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 35,648 ล้านบาท หรือ 1.8%
โดย 3 กรมภาษี มีผลการจัดเก็บรายได้ ดังนี้
- กรมสรรพากร จัดเก็บได้ 1,667,663 ล้านบาทสูงกว่าปีก่อน 53,539 ล้านบาท หรือ 3.3%ต่ำกว่าประมาณการ 12,628 ล้านบาท หรือ 0.8%
- กรมสรรพสามิต จัดเก็บได้ 400,487 ล้านบาทสูงกว่าปีก่อน 6,628 ล้านบาท หรือ 1.7% ต่ำกว่าประมาณการ 48,884 ล้านบาท หรือ 10.9%
- กรมศุลกากร จัดเก็บได้ 85,318 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 3,114 ล้านบาท หรือ 3.5% ต่ำกว่าประมาณการ 6,482 ล้านบาท หรือ 7.1%
ทั้งนี้สาเหตุหลักที่รายได้โดยรวมต่ำกว่าประมาณการ มาจากภาษีรถยนต์ ซึ่งจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ รวมถึงภาษีเงินได้นิติบุคคล และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากการนำเข้า ที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และการใช้สิทธิประโยชน์จากเขตปลอดอากรเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของส่วนราชการอื่นที่สูงกว่าประมาณการ ได้เข้ามาช่วยชดเชยรายได้บางส่วนที่ต่ำกว่าประมาณการไว้ กระทรวงการคลังยังคงติดตามการจัดเก็บรายได้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐบาลสามารถบริหารรายได้ให้เพียงพอสำหรับการพัฒนาประเทศ ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพทางการคลังให้มั่นคง
สำหรับฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน 2,045,527 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 2,912,010 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 806,163 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 445,165 ล้านบาท